เบื้องหลัง ‘ทีมป่ารอยต่อ’ ขบวนการ ปรับภาพลักษณ์ ‘บิ๊กป้อม’ ทดลองงาน นายกฯ

16 พ.ย. 2565 - 06:59

  • เปิดเบื้องหลัง ‘ทีมป่ารอยต่อ’ ขบวนการ ‘ปรับภาพลักษณ์’ ให้ พล.อ.ประวิตร ช่วงรักษาการนายกฯ ที่ถูกมองเป็นช่วง ‘ทดลองงานนายกฯ’ ในช่วง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่กลางมรสุม 8 ปี ย้อนภูมิหลัง ‘ทหารการเมือง’ ของ พล.อ.ประวิตร ที่ทำให้ ‘เล่นเป็น-เป็นงาน’ บนสนามการเมือง

Behind-The-Scenes-Image-Prawit-Main
ผ่านมาเกือบ 1 เดือน หลัง ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ เรียกว่าเปลี่ยนเป็นคนละคน โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพที่กลับมาฟิต เดินแข็งแรง ลงพื้นที่ทุกสัปดาห์ พบปะประชาชนจากต้นแถวยันท้ายแถว ซึ่งผิดไปจากเดิมที่ พล.อ.ประวิตร มีปัญหาเรื่องสุขภาพขา จึงเดินได้ไม่มากนัก มาพร้อมการปรับ ‘บุคลิกใหม่’ ที่มีความเป็น ‘นักการเมือง’ มากขึ้น ซึ่งนายทหารใกล้ชิด ‘บิ๊กป้อม’ เล่าว่า นายเป็นทหารเก่า ก็ต้องรักษาบุคลิก และเมื่อต้องขึ้นมารักษาการนายกฯ ก็ยิ่งต้องรักษาบุคลิกด้วย

แต่ปฏิบัติการปรับภาพลักษณ์ ‘บิ๊กป้อม’ ว่ากันว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง คือ ‘อ.แหม่ม’ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ดูแลงานพีอาร์ให้ ‘บิ๊กป้อม’ โดยเฉพาะเพจ พล.อ.ประวิตร ที่มีความเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยมี ‘ทีมงานพีอาร์ภายนอก’ ที่เข้ามาดูแลโดยเฉพาะด้วย จึงมีภาพความเป็น ‘มืออาชีพ’ มากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้

ทั้งนี้นายทหารน้องเลิฟของ พล.อ.ประวิตร ที่อยู่ในสายบ้านป่ารอยต่อ ก็เป็นอีก ‘กุนซือ’ สำคัญ ในกระบวนการปรับภาพลักษณ์ หนึ่งในนั้นคือ ‘บิ๊กน้อย’ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘น้องเลิฟ’ ของ พล.อ.ประวิตร ระดับท็อป 5 ให้สัมภาษณ์สื่อถึงการแนะนำ พล.อ.ประวิตร เรื่องการให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ให้สัมภาษณ์เลยยังดีกว่าบอกว่า “ไม่รู้” เพราะคนเขาจะเชื่อหรือไม่ หากบอกว่าไม่รู้ และการไม่ให้สัมภาษณ์ก็จะไม่ต้องไปกระทบคนอื่นด้วย ซึ่งช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาพบว่า พล.อ.ประวิตร เลี่ยงให้สัมภาษณ์สื่อ จะตอบในเรื่องที่เกี่ยวกับงานเป็นหลัก หากเป็นเรื่องการเมืองจะปฏิเสธให้สัมภาษณ์หรือจะตอบเป็นคำๆ เท่านั้น ทำให้คำว่า “ไม่รู้” เริ่มน้อยลง

ส่วนเรื่องสุขภาพที่ถูกมองเป็น ‘ข้อจำกัด’ นั้น ‘บิ๊กป้อม’ ก็รักษาสุขภาพและพบแพทย์อยู่ตลอดทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะสุขภาพขา ช่วงเช้าตรู่ ‘บิ๊กป้อม’ จะเดินในน้ำเพื่อออกกำลังที่บ้านพักย่านมีนบุรี ก่อนเข้ามาทำงานที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อนำประชุม แล้วเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลหรือไปลงพื้นที่ต่างๆ

ในช่วงหลังมานี้การพีอาร์ พล.อ.ประวิตร จะออกไปแนวการ ‘โทรสายตรง’ ไปยังบุคคลต่างๆ แต่ที่เป็นกระแสบวกให้กับ พล.อ.ประวิตร คือ การสายตรงถึง ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ผู้ว่าฯ กทม. พูดคุยเรื่องการรับมือน้ำท่วม กทม. โดยให้เบอร์ตรงกับ ‘ชัชชาติ’ และระบุว่าหากมีเรื่องอะไรให้ติดต่อมาได้เลย ซึ่งช่วงการโทร คือ วันเสาร์-อาทิตย์ ที่ทีมงานต้องการสะท้อนว่า พล.อ.ประวิตร ทำงานตลอด แม้ว่าจะเป็นวันหยุดก็ตาม

รวมทั้งการวิดีโอคอลหาชาวบ้านที่เคยพบเจอ คือกรณี ‘ยายแขม’ ที่ถูกทำร้ายร่างกาย โดนชายเมาสุราใช้มีดพร้าฟันท้ายทอย จนได้รับบาดเจ็บ ทีมงานของ พล.อ.ประวิตร ก็ได้ประสานกับตำรวจ จ.กระบี่ ให้ต่อสายตรงและนำดอกไม้ไปมอบให้กำลังใจด้วย โดย ‘ยายแขม’ เคยมารำโนราห์อวยพร พล.อ.ประวิตร เมื่อครั้งลงพื้นที่ จ.กระบี่

ล่าสุด พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่กับ ‘ชัชชาติ’ ก็ต่างโปรยยาหอมใส่กัน ฝั่ง พล.อ.ประวิตร ก็ชื่นชมว่า โชคดีที่มีผู้ว่าฯ เข้มแข็ง ฝั่ง ‘ชัชชาติ’ ก็เป็นงานตอบกลับว่า “เมื่อกี้ตกหนักเลยครับท่าน พอท่านมาหายเลย มาได้จังหวะพอดี”

หากมองให้ลึกจะพบว่า พล.อ.ประวิตร มีความ ‘เล่นเป็น-เป็นงาน’ ในทางการเมือง หากเทียบกับ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้กระแสของ พล.อ.ประวิตร เกิดง่ายขึ้นด้วย หากย้อนดูภูมิหลังของ พล.อ.ประวิตร จะพบว่าเป็น ‘นายทหารการเมือง’ อยู่ชายแดน จ.สระแก้ว รู้จักผู้คนในพื้นที่กว้างขวาง จนขึ้นมาเป็น ผู้บัญชาการ พล.ร.2 รอ. และขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และเป็น รมว.กลาโหม สมัยแรก ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชีวิตของ พล.อ.ประวิตร จึงอยู่กับ ‘การเมือง’ มาตลอด

ทั้งนี้กระบวนการปรับภาพลักษณ์ พล.อ.ประวิตร ถูกมองว่าเป็นการปูทางไปสู่การเป็นนายกฯ ในอนาคตหรือไม่ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจวางมือทางการเมือง หรือถึง ‘ทางตัน’ ในสักวันหนึ่ง เพราะคุณสมบัติของ พล.อ.ประวิตร ที่ประสานได้ทุกขั้ว มีบารมีทางการเมือง ที่ถือเป็นจุดแข็ง แต่ยังมีจุดอ่อนคือเรื่อง ‘ภาพลักษณ์’ ที่ต้องสร้างให้เกิด ‘กระแสนิยม’ ขึ้นมา หากเป็นไปตามแผนของทีมงานบ้านป่ารอยต่อ สักวันหนึ่งอาจได้มีนายกฯ ชื่อ ‘ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ ก็เป็นได้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์