วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ครั้งที่ 4/2565 ว่า ที่ประชุมไม่ได้มีการพิจารณาประเด็นเรื่องเอากัญชากลับมาอยู่ในบัญชียาเสพติด เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจ ป.ป.ส. แต่ต้องตั้งต้นมาจากที่อื่นก่อน ถึงจะกลับมาที่ ป.ป.ส. โดยการประชุมวันนี้เป็นการรับทราบและให้การเห็นชอบกรณีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับใหม่ล่าสุด เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยออกมาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย เพื่อนำมาอุดช่องว่างที่เกิดขึ้นระหว่างที่ยังไม่มี พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ซึ่งต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะออก แม้จะเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้า แต่ต้องเข้าไปสู่ชั้นการพิจารณาในวุฒิสภาอีก
ทั้งนี้ ระหว่างที่ยังไม่มี พ.ร.บ.ดังกล่าว จะเกิดช่องว่างการสูบ การเสพ เอาช่อดอกไปสกัดขายตามที่เป็นข่าว ดังนั้นเพื่อปิดช่องเหล่านี้จึงต้องทยอยออกเป็นประกาศ ทั้งนี้กัญชามีตั้งแต่ ราก ต้น จนถึงยอด แต่ประกาศฉบับดังกล่าวเอาเฉพาะช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุม ส่วนต้น ราก ใบ ไม่เป็นสมุนไพรควบคุม จึงเป็นเสรี สามารถทำอะไรก็ได้ เพราะไม่มีอันตราย สาร THC ไม่เยอะ แต่ช่อดอกอันตราย เมาแล้วน่ากลัว จึงทำให้เป็นสมุนไพรควบคุม ใครจะเอามาแปรรูป เสพ สกัด วิเคราะห์ วิจัย ผสมในอาหาร เครื่องดื่ม ไม่ได้ทั้งนั้น แต่ใครจะทำก็ต้องขออนุญาต หากไม่ขออนุญาตก็จะมีความผิด
“จากประกาศฉบับล่าสุดสามารถอุดช่องว่างได้พอสมควร และต่อไปจะมีประกาศอื่นๆ อีกประมาณ 20 ฉบับ เพื่ออุดช่องที่เหลืออีก จนกว่าจะมี พ.ร.บ.กัญชาที่สมบูรณ์ ประกาศเหล่านี้ก็จะยกเลิกทั้งหมด อย่างไรก็ตามประกาศ จะลงราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 23 พฤศจิกายน และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้” วิษณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งมี วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข มาตอบข้อซักถาม
โดยมีรายงานผลการประชุมของวิปรัฐบาล แจ้งแก่คณะกรรมการ ถึงความคืบหน้าในการที่รัฐสภา จะพิจารณา พ.ร.บ.กัญชง กัญชา ซึ่งมีรายงานว่าจะเข้าที่ประชุมสภาสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกัน ยังมีมติจากวิปรัฐบาลว่าให้ออกเสียงตามมติของคณะกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ.เสียงข้างมาก หรือโหวตรับ พ.ร.บ.
อนุทิน ให้ความเห็นว่า คราวที่แล้ว การพิจารณาร่างกฎหมาย ที่มีปัญหา เพราะเอาร่างฯ ออก ไม่มีการพิจารณาเลย แต่คราวนี้ เมื่อมีการพิจารณา จะได้รู้ว่า ต้องแก้ตรงไหน ทาง กรธ.พร้อมรับฟังทุกเสียงที่ขอสงวนคำแปรญัตติ และข้อคิดเห็น เพื่อนำไปรับปรุง
จากนั้น อนุทิน กล่าวด้วยว่า ที่มาที่ไป ของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นร่างที่ในที่ประชุม ป.ป.ส. ประชุมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ตอนนั้นจะเอาร่าง อย. หรือของพรรคภูมิใจไทย ท่านประธานบอกว่าถ้าเป็นร่างของรัฐบาล จะซับซ้อนน้อยกว่า เลยเอาร่างของภูมิใจไทยเข้าไป โดยพรรคร่วมรัฐบาลเห็นชอบ จนเป็นร่างฉบับกรรมาธิการ ออกมาเป็น 95 มาตรา มีการเพิ่มความเข้มข้นขึ้นมา จากการรับฟังทุกภาคส่วน แต่เมื่อมีการจะนำเข้าสู่การพิจารณา กลับมีเห็นต่างๆ นานา ทำให้เข้าไปไม่ได้
มีผลเสียหายคือ การไม่มี พ.ร.บ.ทำให้ต้องไปอาศัยประกาศกระทรวงฯ ตามที่มีข้อเสนอแนะ ซึ่งความกังวลจะจบไป เมื่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาที่มีทั้งสภาล่าง สภาสูง ที่เรายืนยันได้ว่า เราพยายามปิดช่องโหว่แล้ว เราดำเนินนโยบาย เพื่อการแพทย์ เศรษฐกิจ เป็นหลัก ไม่เคยมุ่งไปทางนันทนาการ ถึงตอนนี้ จะมีบางเคส บางกลุ่มที่ใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก็ให้กฎหมายจัดการ
ทั้งนี้ ระหว่างที่ยังไม่มี พ.ร.บ.ดังกล่าว จะเกิดช่องว่างการสูบ การเสพ เอาช่อดอกไปสกัดขายตามที่เป็นข่าว ดังนั้นเพื่อปิดช่องเหล่านี้จึงต้องทยอยออกเป็นประกาศ ทั้งนี้กัญชามีตั้งแต่ ราก ต้น จนถึงยอด แต่ประกาศฉบับดังกล่าวเอาเฉพาะช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุม ส่วนต้น ราก ใบ ไม่เป็นสมุนไพรควบคุม จึงเป็นเสรี สามารถทำอะไรก็ได้ เพราะไม่มีอันตราย สาร THC ไม่เยอะ แต่ช่อดอกอันตราย เมาแล้วน่ากลัว จึงทำให้เป็นสมุนไพรควบคุม ใครจะเอามาแปรรูป เสพ สกัด วิเคราะห์ วิจัย ผสมในอาหาร เครื่องดื่ม ไม่ได้ทั้งนั้น แต่ใครจะทำก็ต้องขออนุญาต หากไม่ขออนุญาตก็จะมีความผิด
“จากประกาศฉบับล่าสุดสามารถอุดช่องว่างได้พอสมควร และต่อไปจะมีประกาศอื่นๆ อีกประมาณ 20 ฉบับ เพื่ออุดช่องที่เหลืออีก จนกว่าจะมี พ.ร.บ.กัญชาที่สมบูรณ์ ประกาศเหล่านี้ก็จะยกเลิกทั้งหมด อย่างไรก็ตามประกาศ จะลงราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 23 พฤศจิกายน และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้” วิษณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งมี วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข มาตอบข้อซักถาม
โดยมีรายงานผลการประชุมของวิปรัฐบาล แจ้งแก่คณะกรรมการ ถึงความคืบหน้าในการที่รัฐสภา จะพิจารณา พ.ร.บ.กัญชง กัญชา ซึ่งมีรายงานว่าจะเข้าที่ประชุมสภาสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกัน ยังมีมติจากวิปรัฐบาลว่าให้ออกเสียงตามมติของคณะกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ.เสียงข้างมาก หรือโหวตรับ พ.ร.บ.
อนุทิน ให้ความเห็นว่า คราวที่แล้ว การพิจารณาร่างกฎหมาย ที่มีปัญหา เพราะเอาร่างฯ ออก ไม่มีการพิจารณาเลย แต่คราวนี้ เมื่อมีการพิจารณา จะได้รู้ว่า ต้องแก้ตรงไหน ทาง กรธ.พร้อมรับฟังทุกเสียงที่ขอสงวนคำแปรญัตติ และข้อคิดเห็น เพื่อนำไปรับปรุง
จากนั้น อนุทิน กล่าวด้วยว่า ที่มาที่ไป ของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นร่างที่ในที่ประชุม ป.ป.ส. ประชุมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ตอนนั้นจะเอาร่าง อย. หรือของพรรคภูมิใจไทย ท่านประธานบอกว่าถ้าเป็นร่างของรัฐบาล จะซับซ้อนน้อยกว่า เลยเอาร่างของภูมิใจไทยเข้าไป โดยพรรคร่วมรัฐบาลเห็นชอบ จนเป็นร่างฉบับกรรมาธิการ ออกมาเป็น 95 มาตรา มีการเพิ่มความเข้มข้นขึ้นมา จากการรับฟังทุกภาคส่วน แต่เมื่อมีการจะนำเข้าสู่การพิจารณา กลับมีเห็นต่างๆ นานา ทำให้เข้าไปไม่ได้
มีผลเสียหายคือ การไม่มี พ.ร.บ.ทำให้ต้องไปอาศัยประกาศกระทรวงฯ ตามที่มีข้อเสนอแนะ ซึ่งความกังวลจะจบไป เมื่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาที่มีทั้งสภาล่าง สภาสูง ที่เรายืนยันได้ว่า เราพยายามปิดช่องโหว่แล้ว เราดำเนินนโยบาย เพื่อการแพทย์ เศรษฐกิจ เป็นหลัก ไม่เคยมุ่งไปทางนันทนาการ ถึงตอนนี้ จะมีบางเคส บางกลุ่มที่ใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก็ให้กฎหมายจัดการ
