อย่าใช้เสรีภาพบังหน้า ‘ปมแบ่งแยกดินแดน’

25 มิ.ย. 2566 - 05:36

  • ‘ชัยชนะ’ เตือนปม ‘แบ่งแยกดินแดน’ เริ่มลุกลามทั่วประเทศ ใช้ ‘เสรีภาพทางวิชาการ’ บังหน้า ดึงเยาวชนออกมาเรียกร้องความสนใจต่อสังคม

  • แนะเข้มมาตรการกฎหมาย-กวดขันจริยธรรมฯ จริงจัง

Chaichana-blamed-the-scholars-Separatist-issues-SPACEBAR-Hero
25 มิ.ย.66 ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีการเสนอแบ่งแยกดินแดน โดยอ้างเป็นการกำหนดอนาคตของคนในพื้นที่ว่า ถือว่าไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ และไม่ได้มีแนวคิดที่จะแบ่งแยกเพียงแค่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามที่เป็นข่าวเท่านั้น แต่ถือว่า มีการปลูกฝังโดยอ้างเรื่องเสรีภาพทางวิชาการ ดังเช่น การอ้างประวัติศาสตร์ที่ขมขื่นในอดีต ในพื้นที่ทางภาคเหนือและอีสาน เพื่อให้นักศึกษารู้สึกคล้อยตามและเป็นเหยื่อของผู้อยู่เบื้องหลังกระบวนการดังกล่าว ซึ่งต้องการใช้ประเทศไทยเป็นฐานสำคัญในการดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศของสหรัฐฯ เพื่อยันอำนาจกับจีนและรัสเซีย  

โดยการกระทำดังกล่าวจะสำเร็จได้ จะต้องมีดำเนินการแบ่งแยกความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งด้วยรุ่นอายุ การแบ่งแยกพื้นที่ รวมทั้ง การแบ่งแยกความรู้สึกรักและความสามัคคีของชนในชาติ ซึ่งขณะนี้ ถือได้ว่า มาถึงขั้นที่เริ่มท้าทายความรู้สึกของประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ   

ดังนั้น ตนก็ต้องขอให้ประชาชนคนไทยช่วยกันติดตามกระบวนการเหล่านี้ ซึ่งรัฐธรรมนูญฯ ก็ได้ระบุถึงหน้าที่ของปวงชนชาวไทยไว้ว่า จะต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้ง ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ   

ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ยืนยันในจุดยืนตามรัฐธรรมนูญที่ว่า ประเทศไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ และการกระจายอำนาจจะต้องคำนึงถึงบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปกครองท้องถิ่น โดยสนับสนุนให้มีการกระจายอำนาจในรูปแบบของเมืองมหานคร ในจังหวัดที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูง พร้อมกับดำเนินการสร้างสันติสุขและความปรองดองในทุกพื้นที่ของประเทศ  

“ผมเห็นว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องการแบ่งแยกดินแดนนั้น จะต้องทำทั้งกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ มีการดำเนินการแจ้งความเอาผิดทางกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องกับการจัดเสวนาเรื่อง ‘การกำหนดอนาคตตนเอง ในสันติภาพปาตานี’ โดยมีจัดให้มีการจำลองการลงประชามติในการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งถือเป็นการเข้าข่ายร่วมกันกระทำผิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อันเข้าลักษณะที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยควรจะเร่งดำเนินการก่อนจะลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ ส่วนอีกกระบวนการหนึ่งที่ผมอยากจะเสนอก็คือ  

“ผมอยากให้มีการกวดขันหรือบังคับใช้ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา บุคลากรและผู้ปฏิบัติงานอื่นในสถาบันอุดมศึกษา อย่างจริงจัง เพราะบรรดาคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยบางส่วนขณะนี้ มีการใช้คำว่าเสรีภาพทางวิชาการมาบังหน้า เพื่อสอดใส่อคติส่วนตัวและชี้นำเยาวชนให้หลงเชื่อในข้อมูลผิดๆ รวมทั้ง มีความเชื่อมโยงกับองค์กร NGO ต่างประเทศ ซึ่งจากที่เห็นเมื่อวานนี้มีความเคลื่อนไหวแบ่งแยกภาคเหนือ โดยส่วนมากเป็นเยาวชนที่ทำกิจกรรมดังกล่าว ถือว่าเป็นวิธีการเดิมๆ ของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ที่ต้องการใช้ความพลังของเยาวชนไปในทางที่ผิด เพื่อเรียกร้องความสนใจต่อสังคมด้วย ดังนั้น ผมเชื่อว่า คนไทยทั้งประเทศไม่ต้องการให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน โดยเฉพาะหากเป็นการสนองเป้าหมายทางการเมืองที่จะทำให้มหาอำนาจแทรกแซงกิจการภายในของไทยในการตัดสินใจในเวทีระหว่างประเทศ ” ชัยชนะกล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์