




พรรคชาติพัฒนากล้า จัดกิจกรรม ‘กล้า FIGHT : ชาติพัฒนากล้า เราสู้เพื่อคุณ’ เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร (กทม.) ทั้ง 33 เขตเลือกตั้ง ด้วยรูปแบบงานสุดครีเอท ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ที่การตั้งเวทีมวย ซึ่งเปรียบเสมือนสนามเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้สมัครโชว์ตัว โดยมี สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดงาน
งานนี้ กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคฯ ลงทุนสวมนวม - เปิดตัวบนเวทีมวย ก่อนชี้ให้เห็นว่า ผ่านมา เป็นการ ‘ชกลม’ กันมานาน วันนี้ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคฯ ขึ้นเวทีเพื่อชกจริง เพื่อสู้กับปัญหาของประชาชน ทั้งของแพง หนี้สิน และโอกาสทำมาหากิน พร้อมโชว์นโยบายเด่น อาทิ รื้อโครงสร้างราคาพลังงาน ยกเลิกแบล็กลิสต์ ใช้เครดิตสกอร์แทน ไปจนถึงมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ไม่ถึง 4 หมื่นบาท ไม่ต้องเสียภาษี ก่อนเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้ง 33 เขต ซึ่งมีทั้งนักบริหารรุ่นใหม่ กลุ่มสตาร์ทอัป ตำรวจ นักข่าว นักดนตรี และแพทย์แผนไทย เป็นตัน
ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า แสดงความมั่นใจในตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต เช่นเดียวกับจังหวัดนครราชสีมา ที่จะส่งครบ 16 เขต ซึ่งพรรคฯ ได้เตรียมตัวในการเลือกตั้งมานานและมีประเด็นปัญหาของประชาชนรอคอยการแก้ไขอยู่มากมาย ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคฯ ก็เข้าใจลึกซึ้งในตัวนโยบายที่ล้วนออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาปากท้องของประชาชนและสร้างโอกาสในการทำมาหากิน เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน เข้าถึงแหล่งทุนที่เป็นธรรม ทั้งนี้ ทางพรรคฯ ลงพื้นที่มาตลอดเป็นปีแล้ว ส่วนภายหลังการสมัคร ส.ส.อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 3 เมษายน 2566 ทุกคนก็เตรียมลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อนำเสนอนโยบายต่างๆ
“การเปิดตัวครั้งนี้ ถือเป็นการรวมตัวของคนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ และมีความสำเร็จในอาชีพที่หลากหลาย นี่คือความตั้งใจของพวกเราตั้งแต่แรก ที่อยากเห็นการเมืองดีขึ้น สร้างการเมืองที่เปลี่ยนแปลงแปลงต้องอาศัยเลือดใหม่ที่จะมาเสนอความคิด และวิธีการใหม่ๆ ฉะนั้น เราจึงมั่นใจในตัวผู้สมัครทุกคน” กรณ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า ในเขต กทม. คาดหวังได้ ส.ส.กี่คน กรณ์ กล่าวสั้นๆ ว่า “เดี๋ยวก็รู้”
ด้าน สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคฯ มองว่า กรณีที่ศาลปกครองสูงสุด จะวินิจฉัยเกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือก กทม. ในวันที่ 7 เมษายน 2566 จะไม่ส่งผลกระทบต่อพรรคฯ และในส่วนของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คาดว่าใน 2 วันนี้ คงจะเรียบร้อย แต่ปฏิเสธให้ความชัดเจนว่า การเลือกตั้งรอบนี้ จะลงสมัคร ส.ส.หรือไม่
“ยังไม่ได้บอกว่าใช่หรือไม่ใช่ ต้องรอหารือกันก่อน เพราะยังไม่ถึงขั้นตอนสุดท้าย” สุวัจน์ ระบุ
ส่วนเมื่อถามว่าหากไม่ลงเลือกตั้งรอบนี้ ประเมินสถานการณ์การเมืองไว้อย่างไรนั้น สุวัจน์ ตอบว่า “คงต้องหารือกัน ใครจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ และใครจะอยู่ในปาร์ตี้ลิสส์บ้าง ไม่มีปัญหา”
อย่างไรก็ตาม สุวัจน์ ไม่ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า พรรคชาติพัฒนากล้า จะส่งแคนดิเดตนายกฯ ครบ 3 คน หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจในการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่หัวหน้าพรรคฯ ได้คัดเลือกผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีคุณภาพเหมาะสม และนโยบายของพรรคฯ ยังตอบโจทย์ โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม
“เรามั่นใจว่ารอบนี้ พรรคชาติพัฒนากล้า จะได้รับใช้พี่น้อง กทม.เหมือนในอดีต 20 ปีที่ผ่านมา ที่นางปวีณา หงษ์สกุล ก็ได้เป็น ส.ส.กทม.” สุวัจน์ ระบุ
งานนี้ กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคฯ ลงทุนสวมนวม - เปิดตัวบนเวทีมวย ก่อนชี้ให้เห็นว่า ผ่านมา เป็นการ ‘ชกลม’ กันมานาน วันนี้ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคฯ ขึ้นเวทีเพื่อชกจริง เพื่อสู้กับปัญหาของประชาชน ทั้งของแพง หนี้สิน และโอกาสทำมาหากิน พร้อมโชว์นโยบายเด่น อาทิ รื้อโครงสร้างราคาพลังงาน ยกเลิกแบล็กลิสต์ ใช้เครดิตสกอร์แทน ไปจนถึงมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ไม่ถึง 4 หมื่นบาท ไม่ต้องเสียภาษี ก่อนเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้ง 33 เขต ซึ่งมีทั้งนักบริหารรุ่นใหม่ กลุ่มสตาร์ทอัป ตำรวจ นักข่าว นักดนตรี และแพทย์แผนไทย เป็นตัน
ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า แสดงความมั่นใจในตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต เช่นเดียวกับจังหวัดนครราชสีมา ที่จะส่งครบ 16 เขต ซึ่งพรรคฯ ได้เตรียมตัวในการเลือกตั้งมานานและมีประเด็นปัญหาของประชาชนรอคอยการแก้ไขอยู่มากมาย ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคฯ ก็เข้าใจลึกซึ้งในตัวนโยบายที่ล้วนออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาปากท้องของประชาชนและสร้างโอกาสในการทำมาหากิน เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน เข้าถึงแหล่งทุนที่เป็นธรรม ทั้งนี้ ทางพรรคฯ ลงพื้นที่มาตลอดเป็นปีแล้ว ส่วนภายหลังการสมัคร ส.ส.อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 3 เมษายน 2566 ทุกคนก็เตรียมลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อนำเสนอนโยบายต่างๆ
“การเปิดตัวครั้งนี้ ถือเป็นการรวมตัวของคนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ และมีความสำเร็จในอาชีพที่หลากหลาย นี่คือความตั้งใจของพวกเราตั้งแต่แรก ที่อยากเห็นการเมืองดีขึ้น สร้างการเมืองที่เปลี่ยนแปลงแปลงต้องอาศัยเลือดใหม่ที่จะมาเสนอความคิด และวิธีการใหม่ๆ ฉะนั้น เราจึงมั่นใจในตัวผู้สมัครทุกคน” กรณ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า ในเขต กทม. คาดหวังได้ ส.ส.กี่คน กรณ์ กล่าวสั้นๆ ว่า “เดี๋ยวก็รู้”
ด้าน สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคฯ มองว่า กรณีที่ศาลปกครองสูงสุด จะวินิจฉัยเกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือก กทม. ในวันที่ 7 เมษายน 2566 จะไม่ส่งผลกระทบต่อพรรคฯ และในส่วนของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คาดว่าใน 2 วันนี้ คงจะเรียบร้อย แต่ปฏิเสธให้ความชัดเจนว่า การเลือกตั้งรอบนี้ จะลงสมัคร ส.ส.หรือไม่
“ยังไม่ได้บอกว่าใช่หรือไม่ใช่ ต้องรอหารือกันก่อน เพราะยังไม่ถึงขั้นตอนสุดท้าย” สุวัจน์ ระบุ
ส่วนเมื่อถามว่าหากไม่ลงเลือกตั้งรอบนี้ ประเมินสถานการณ์การเมืองไว้อย่างไรนั้น สุวัจน์ ตอบว่า “คงต้องหารือกัน ใครจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ และใครจะอยู่ในปาร์ตี้ลิสส์บ้าง ไม่มีปัญหา”
อย่างไรก็ตาม สุวัจน์ ไม่ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า พรรคชาติพัฒนากล้า จะส่งแคนดิเดตนายกฯ ครบ 3 คน หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจในการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่หัวหน้าพรรคฯ ได้คัดเลือกผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีคุณภาพเหมาะสม และนโยบายของพรรคฯ ยังตอบโจทย์ โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม
“เรามั่นใจว่ารอบนี้ พรรคชาติพัฒนากล้า จะได้รับใช้พี่น้อง กทม.เหมือนในอดีต 20 ปีที่ผ่านมา ที่นางปวีณา หงษ์สกุล ก็ได้เป็น ส.ส.กทม.” สุวัจน์ ระบุ