จากปากพ่อ! ‘อุ๊งอิ๊ง’ ดีเอ็นเอชินวัตร ‘ร่างทรงทักษิณ - พจมานจูเนียร์’

16 ม.ค. 2566 - 09:21

  • เรื่องเล่าจากปาก ‘ทักษิณ’ ย้อนอดีต ‘อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร’ ดีเอ็นเอชินวัตร ‘ร่างทรงทักษิณ - พจมานจูเนียร์’ ในวันขึ้นคุมทัพ ‘เพื่อไทย’ เปรียบเป็น ‘มรดกชิ้นสำคัญ’ ในการส่งต่อจาก ‘รุ่นพ่อ’ สู่ ‘รุ่นลูก’ สร้างฐานบารมี จากประสบการณ์ที่ถูกหล่อหลอมเป็น ‘อุ๊งอิ๊ง’ ในวันนี้

Chinawatra-Family-Thaksin-Paethongtarn-DNA-SPACEBAR-Thumbnail
แม้จะเป็นถึงลูกสาว ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ที่เป็น ‘ผู้มากบารมี’ ของพรรคเพื่อไทย แต่ในทางการเมืองแม้ว่า ‘อำนาจ’ จะส่งต่อให้กันได้ แต่สำหรับ ‘บารมี’ แล้วนั้น เป็นสิ่งที่ต้อง ‘เก็บสะสม’ เอง ไม่สามารถส่งต่อได้ทั้งหมด ทำให้ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร ต้องเดินเข้าสู่พรรคเพื่อไทย มีตำแหน่งเป็น ‘หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย’ แม้ชื่อตำแหน่งจะเป็นตำแหน่งลอย แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่คือ ‘หัวหน้าพรรคตัวจริง’ ชนิดสายตรงทาง ‘สายเลือด’ ที่ไม่มีใครมาแทนได้ เปรียบเป็น ‘ตัวแทนทักษิณ’ ที่เข้ามาคุมพรรคเพื่อไทย ที่เป็น ‘มรดกชิ้นสำคัญ’ ของ ‘ทักษิณ’ ในการต่อสู้ทางการเมือง 

การสร้างบารมีของ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ไม่ต่างจากนักการเมืองคนอื่นๆ โดยเฉพาะการขึ้นปราศรัยและหาเสียงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ‘อุ๊งอิ๊ง’ จะเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมา ‘อุ๊งอิ๊ง’ ปรากฏตัวผ่านมาสื่อมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ในยุคที่ ‘ทักษิณ’ เป็นนายกฯ ทำให้เธอเป็นที่รู้จักมานาน และต่างมองว่าเธอเหมือนทั้ง ‘พ่อ’ และ ‘คุณหญิงอ้อ’ พจมาน ดามาพงศ์ คุณแม่ ในร่างเดียวกัน 

‘ทักษิณ’ เล่าเรื่องราวของ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ผ่าหนนังสื่อ THAKSIN SHINAWATRA Theory and Thought ถึงลูกๆ ทั้ง 3 คน ตอนหนึ่งว่า มองย้อนกลับไป เห็นลูกแต่ละคนเติบโตมา อย่างโอ๊คเขาเป็นลูกคนโต ความเห่อ ความสปอยล์ผมอาจจะมีมากกว่า 2 คน แต่เขาเป็นคนที่มี Artistry สูง เขามีครีเอทีฟดี แต่บางทีเราก็อยากให้เขาหาจุดของเขาให้เจอ คนเราเนี่ย Soul Searching สำคัญที่สุด ตัวเราได้แค่ซี้ทาง แล้วช่วยกันคิด ปรึกษากัน ถ้าเราจะไปบอกกำหนดเป้าหมายให้เขา มันไม่ได้ คนเราถ้าให้ฝืนตัวเองมากๆ มันฝืนไม่ได้นาน ถ้าฝืนมากๆ มันจะเกิดปฏิกิริยา เพราะฉะนั้น ผมพยายามแสวงหาสิ่งที่โอ๊คเขาชอบ เพื่อให้เขาได้ทำในสิ่งที่ชอบ แล้วเขาจะได้มีความสุขกับสิ่งที่เขาทำ  

นี่คือสิ่งที่ผมพยายามกับอิ๊ง ด้วยความที่แม่อาจจะเข้มงวด ผมดูแลลูกทุกคนคล้ายๆ กัน แต่เอมตั้งแต่เด็ก ส่วนผมก็อาจจะสปอยล์เขาตั้งแต่เด็ก มันก็บาลานซ์ไป เหมือนช่วยกันเลี้ยงดูคนละแบบ โอ๊คแม่จะสปอยล์มากกว่า ผมจะเข้มงวดกว่า เพราะลูกผู้ชาย เราก็อยากให้ลูกผู้ชายเป็นแบบเรา แม่ก็อยากให้ลูกผู้หญิงเป็นแบบแม่ มันเป็นเรื่องธรรมดาของครอบครัว ผลสุดท้ายสิ่งที่ได้ก็คือลูก 3 คนรักกันมาก แล้วก็ไม่เคยอิจฉากันเลย แปลกมาก แม่เขาเลี้ยงดี เขาช่วยเหลือกัน  

อย่างวันนี้อ็งเขาไปประชุมการเมือง โอ๊คเขาก็ไป นั่งอยู่ด้วย คอยดูน้อง เพราะประสบการณ์ในด้านของความเข้าใจการเมืองโอ๊คจะกกว่าน้อง แต่น้องจะเข้าใจลึกอีกแบบ เพราะว่าอิ้งอยู่กับผมตั้งแต่เด็กไง เป็นลูกที่ติดผมตั้งแต่เด็กๆ ผมไปไหนก็เอาไปด้วย เขาก็เลยซึมชับผมโดยไม่รู้ตัว  

ทำไมอิ๊งถึงซึมซับความเป็นคุณมากกว่าคนอื่น ? 

อิ๊งเขาใกล้ชิดผมบางทีคนเรานะ การได้พูดออกมา มันเหมือนกับการทบทวนให้ตัวเอง ผมก็พูดกับลูกดีกว่าพูดคนเดียว แม้ลูกยังเล็กอยู่ก็พูดกับลูกไป พูดเสร็จเราก็คิดไปในตัวว่าใช่หรือเปล่า เหมือนเราดูหนังสือสอบ เหมือนท่องจำ แต่แทนที่จะ ไปท่องจำ เราก็พูดออกมา แล้วการพูดคนเดียวมันก็เหมือนคนบ้า (หัวเราะ) เลย พูดกับลูกดีที่สุด อิ้งเขาก็เลยจำที่ผมพูดได้หมด  

ตอนที่ลูกได้ฟังเรื่องใหญ่ๆ ฟังเรื่องระดับประเทศ ระดับโลกเขาเอฟเฟกต์คุณพ่ออย่างไร?

ผมจะเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง ตอนนั้นเขาอายุ 12 ผมเพิ่งตั้งพรรคไทยรักไทยใหม่ๆ ตอนนั้นพาไปที่บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เป็นหมู่บ้านที่เขาทำกล้วยตาก กล้วยอบแห้ง เครื่องที่ใช้ก็ใช้แสงอาทิตย์อบ เป็นรีเฟลกต์แสงอาทิตย์ ใช้กระจกเงา เหมือนเป็นสเตนเลสเงา จริงๆ ก็ทำกล้วยตาก ไม่ใช่อบแห้งอะไรมาก ทีนี้เปลือกกล้วยก็กองเต็มไปหมด เขาก็เอาน้ำ EM ไปโรย เพื่อให้เปลือกกล้วยมันเน่า แล้วจะได้เอามาทำเป็นปุ๋ย ผมก็ไปเดินดูเขาทำ อิ้งก็ไปด้วย แล้วเขาทำตัวเฉยมาก ไม่มีปฏิกิริยา แต่มันเหม็นมากเลยนะ เสร็จแล้วพอขึ้นรถ ผมก็ถามลูกเหม็นไหม เขาบอก “เหม็นมากพ่อ” เอ้า ! แล้วทำไมลูกไม่แสดงปฏิกิริยาว่ามันเหม็น เขาว่า “เอ้า! ไปทำอย่างนั้น เดี๋ยวเขาก็หาว่าเรารังเกียจเขาสิพ่อ” อายุ 12 แล้ว ผมไม่เคยสอน เขาเห็นว่าเราไปทำงานการเมืองเราต้องไปพบกับประชาชนเราต้องมี ความอดทน ต้องมีความเข้าใจเขา เขา Observe เอาเอง  

จากบุคลิกนี้ของอิ๊งตั้งแต่อายุ 12 ที่คุณเห็น นำมาสู่วันนี้ที่เขาขึ้นเวที ทางการเมืองแล้ว?

ผมคิดว่าเขาเป็นคนที่ซึมซับจากผมเยอะ จริงๆ ทุกคนซึมซับจากผมหมด ตอนนั้นมีคนคิดกันว่าน่าจะเป็นคนนั้น น่าจะเป็นคนนี้ แต่ผมดูแล้วว่าอิ้งน่าจะซึมซับจากผมเยอะ แล้วสิ่งที่เขาเคยเห็นมา พอถึงวัน สิ่งที่เขาถ่ายทอดออกมา ก็ปรากฎว่าผมไม่ต้องเทรน ไม่ต้องโค้ชอะไรเลย  

เพราะโค้ชมาตั้งแต่เด็กแล้ว?

โดยไม่รู้ตัว เขาเรียนรู้โดยการสังเกตจำ ความจริงโอ๊คก็เรียนรู้ไปเยอะ แต่โอ๊คเขามีความเป็นศิลปินมาก แต่การเมืองมันต้องจริงจังนิดนึง 

คุณคุยกับลูกอย่างไรบ้าง ตอนที่ตัดสินใจยอมให้ลูกเจอของจริง ด้วยตัวเขาเอง

จริงๆ แล้ว ผมก็ได้แต่เพียงมองว่าเขาเหมาะ ตอนนี้ถือว่ายังไม่ได้เข้าการเมืองเต็มตัว เพียงแต่เขาสัมผัสดูว่าเขาคิดอย่างไร แล้วตอนวันที่เขาไปพูดที่ขอนแก่น 28 ตุลาคม 2564 ผมก็รู้สึก ประทับใจนะ คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำได้ดี เพราะอายุเขายังน้อยและนี่คือการลงการเมืองครั้งแรก ต้องไปเล่นบทนำ เขาทำได้ดี 

บนเวทีที่ขอนแก่นวันนั้น คุณดูลูกปราศรัย คุณเห็นตัวเองในเขาไหม?

“ชัดเลย ผมสะอึกในคอเลย ภูมิใจ แล้วก็ต้องยอมรับว่าอิ้งเขาได้ดีเอ็นเอผมกับแม่ เขาเข้มแข็งเหมือนแม่ และเป็นคนมี ความเป็นผู้นำ มีความกล้า นั่นคือในมุมที่ประกับใจ แต่ระยะทาง ที่ลูกต้องเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ” ทักษิณ กล่าว 

ทั้งหมดนี้เป็น ‘ตัวตน’ ของ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ที่ฉายผ่านคำพูดของ ‘คุณพ่อ’ ที่ใกล้ชิดลูกสาวที่สุด นำมาสู่การมอบ ‘มรดกชิ้นสำคัญ’ ให้ลูกสาว ในการทำพรรคเพื่อไทย ดังนั้นชื่อของ ‘อุ๊งอิ๊ง’ จึงเป็นเต็งหนึ่งแคนดิเดตนายกฯ ถ้าไม่ให้ ‘ลูก’ แล้วจะให้ใคร เพราะ ‘ทักษิณ’ เชื่อเรื่อง “เลือดข้นกว่าน้ำ” สำหรับคนอายุ 73 แล้ว เขามองถึง ‘คนข้างหลัง’ มากกว่า ‘ตัวเอง’ แน่นอนว่าต่างจาก ‘ทักษิณ’ เมื่อ 10 ปีก่อน การต่อสู้ทางการเมือง ย่อมเปลี่ยนไปด้วย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์