‘ชวน’ กรีด ‘คนไม่พอใจ’ ท่องสูตรด่า ‘ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง’

24 พ.ย. 2565 - 10:07

  • ‘ชวน’ แจงยิบปมถูกกล่าวหาทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง

  • เหน็บได้ยินมาตลอด เหมือนคนไม่พอใจท่องสูตรมา ยันไม่เคยเฉไฉให้เสียประโยชน์ส่วนรวม

  • วอนฝ่ายรัฐบาล – ฝ่ายค้าน ร่วมมือทำงานสภาฯ ให้จบ แม้ขัดแย้ง

  • เผยต่อสายคุย ‘วิษณุ’ หลายครั้ง จี้รัฐบาลรักษาองค์ประชุม เหตุเป็นเสียงข้างมาก

Chuan-clarified-after-being-accused-of-acting-impartially-SPACEBAR-Hero
ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาในการตั้งคำถาม เพื่อลงมติในมาตรา 9/1 ของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่…) พ.ศ. … ทำให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ลงมติผิดเนื่องจากความเข้าใจผิด โดยยืนยัน ได้ให้ฝ่ายกฎหมายดูถึง 3 ครั้ง ว่าจะถามอย่างไร แต่สมาชิกอาจไม่ได้จับประเด็นว่าถามอะไร จึงเกิดความเข้าใจผิด  

“เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องคะแนนน้อยหรือมาก จึงดำเนินการลงมติใหม่ได้ ก่อนการลงมติใหม่ ก็ได้ขอมติจากที่ประชุมว่าจะให้ลงมติใหม่หรือไม่ แต่ตอนจะลงมติองค์ประชุมหายไปแล้ว เมื่อไม่ครบองค์ประชุมก็ต้องปิดประชุม” ประธานสภาฯ กล่าว 

เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าประธานสภาทำหน้าที่เป็นกลางหรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในรอบ 4 ปี คงไม่ไปเฉไฉให้เสียกระบวนการ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน คนของรัฐบาล ขอสงวนคำแปรญัตติขอเพิ่มมาตรา 9/1 ด้วย จึงไม่ใช่เรื่องความไม่เป็นกลาง เมื่อเข้าใจผิดก็นับคะแนนใหม่ เรื่องนี้ไม่ได้มีผลอะไรต่อบ้านเมืองส่วนรวม 

ประธานสภาฯ บอกด้วยว่า ได้ยินมาตลอดถึงการที่ถูกระบุว่าประธานสภาฯทำหน้าที่เข้าข้างรัฐบาล แต่สมาชิกส่วนใหญ่รู้ดีว่าตนตัดสินสิ่งต่างๆ ด้วยความเป็นกลาง เมื่อตัดสินแล้วบางคนไม่พอใจก็บอกว่าไม่เป็นกลาง เหมือนเป็นสูตรที่ท่องมา สำหรับงานสภาฯ คงต้องขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้มาร่วมประชุม ระบบนี้ ฝ่ายที่เป็นรัฐบาลได้คือมีเสียงข้างมาก ดังนั้น ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษเรื่ององค์ประชุม  

“ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยบอกรัฐบาลด้วยว่า สภาฯมีเวลาไม่มากนัก ขอความร่วมมือทุกพรรคให้มาประชุม ส่วนพรรคการเมืองจะไม่พอใจอะไรกันก็เป็นเรื่องหนึ่ง ไม่มีโจทย์ไปแกล้งให้ไม่ครบองค์ประชุม เพราะในส่วนรวมไม่มีใครได้อะไร” ประธานสภาฯ กล่าว 

ประธานสภาฯ ยังปฏิเสธให้ความเห็นว่า เหตุการณ์องค์ประชุมล่มจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ใช้เป็นข้ออ้างเป็นเหตุผลเพื่อยุบสภาฯ เร็วขึ้นหรือไม่ พร้อมระบุ อำนาจเรื่องนี้อยู่ที่รัฐบาล  

“ไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไร การเมืองผันแปรทุกวัน แต่ตอนนี้รัฐบาลมีเสียงข้างมากอยู่ ถ้ามีการเสนอญัตติหรือกฎหมายของรัฐบาลเข้ามา มีคำถามว่า ถ้าไม่มาเป็นองค์ประชุมจะผ่านได้อย่างไร ต้องย้ำเรื่องความรับผิดชอบ ประชาชนจับตาดูอยู่ ส่วนตัวเรียกร้องทุกคนให้มาร่วมทำงานของสภาฯให้จบ ที่ผ่านมาสภาฯทำหน้าที่ดีมาตลอด ขอให้รักษาสภาพที่ดีแบบนี้ตลอดไป ส่วนเรื่องไม่พอใจกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาลก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่งานสภาฯขอให้ร่วมมือกัน” ประธานสภาฯ กล่าว 

เมื่อถามว่า ต้องเรียกประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) มาพูดคุยหรือไม่ ประธานสภาฯ ก็ระบุว่า วิป 2 ฝ่ายขัดแย้งกันตลอด เมื่อถึงเวลาวินิจฉัย ประธานฯอาจต้องตัดสินเอง  

“ปัจจุบันไม่เหมือนอดีต เวลาจะถามว่าใครดูแลเรื่ององค์ประชุมก็หาตัวยาก ถามรัฐบาลก็บอกอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเคยบอกว่ารัฐบาลมอบท่าน ท่านต้องมาดูแลบ้าง แต่ก็เข้าใจว่ารัฐมนตรีก็มีงานประจำอยู่” ประธานสภาฯ กล่าว 

ส่วนความคืบหน้ากรณีตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ภายหลัง 14 ส.ส.เข้าชื่อเพื่อให้สอบกรณี ‘บิ๊กสภาฯ’ ใช้อำนาจล็อบบี้ข้าราชการจ่ายเงิน ส.ส. ประมูลห้องอาหารจัดเลี้ยง ส.ส.นั้น ทางประธานสภาฯ กล่าวว่า ไม่ได้ดูแลเรื่องพวกนี้ เป็นเรื่องของฝ่ายประจำที่จะพิจารณา ซึ่งตนจะสอบถามความคืบหน้าจากเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์