https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/o28w5BMkOQWs1LbYUT7T6/6a685f9ddc8030b233cc03a3e55d2e11/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo00
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6aJfraGXQsKsGBdjrC9cE3/a7e887c5b51e20f28b2e1f76b344eccd/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo01
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/Fez4kIzi1eLvDpyNTaAEo/4d7ed755620ff324e5bfce1160a2333d/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo02
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/xsSP8DxC62pFyHfcjtTSC/c49f437af3c061186d92f2bc225b38a0/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo03
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/u8IWL2WbinkgMOfZlAVzk/3cfe501e04400ff859e3cc7e053b4af6/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo04
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4fzaFfhoCW4zNNdU6bsCUS/9499da64485ffb388ecba1429ea0fae7/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo05
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3lJPaRjgZp1i9KOn5dX74N/0522405685e4c20e9007fb7f543aff01/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo06
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1vLCUwUvmyvG4LAHLc0tv6/78abd3938a95bad1cbd55cbb44836a00/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo07
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3Z0HlZ6XHZuXgCVfRJNOyK/49e658bf53be99ac5dddbf6ce63574f0/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo08

Photo Story: ‘ชูวิทย์’ ยันแฉ ‘เศรษฐา’ ด้วยใจเป็นธรรม

7 ส.ค. 2566 - 09:58

  • ‘ชูวิทย์’ ยันแฉ ‘เศรษฐา’ ด้วยใจเป็นธรรม ปัดรับงาน ‘บิ๊กป้อม’

  • เชื่อสิ่งหนีไม่พ้นมีอยู่ 2 อย่าง คือความตาย และภาษี

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/o28w5BMkOQWs1LbYUT7T6/6a685f9ddc8030b233cc03a3e55d2e11/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo00
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6aJfraGXQsKsGBdjrC9cE3/a7e887c5b51e20f28b2e1f76b344eccd/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo01
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/Fez4kIzi1eLvDpyNTaAEo/4d7ed755620ff324e5bfce1160a2333d/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo02
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/xsSP8DxC62pFyHfcjtTSC/c49f437af3c061186d92f2bc225b38a0/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo03
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/u8IWL2WbinkgMOfZlAVzk/3cfe501e04400ff859e3cc7e053b4af6/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo04
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4fzaFfhoCW4zNNdU6bsCUS/9499da64485ffb388ecba1429ea0fae7/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo05
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3lJPaRjgZp1i9KOn5dX74N/0522405685e4c20e9007fb7f543aff01/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo06
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1vLCUwUvmyvG4LAHLc0tv6/78abd3938a95bad1cbd55cbb44836a00/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo07
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3Z0HlZ6XHZuXgCVfRJNOyK/49e658bf53be99ac5dddbf6ce63574f0/Chuvit-go-to-_Office-of-the-National-Counter-Corruption-_Commission-SPACEBAR-Photo08
7 สิงหาคม 2566 ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้เดินทางมาเพื่อนำเอกสารหลักฐานยืนให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าพนักงานที่ดินเขตพระนคร กรณีการปล่อยปละละเลยให้มีการหลีกเลี่ยงภาษีโอนซื้อขายที่ดิน พร้อมกับได้อธิบายถึงกรณีที่มีการพาดพิงว่าตนมีข้อขัดแย้งกับ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ในประเด็นการซื้อขายที่ดินไม่ลงตัว 
 
โดยอดีตนักการเมืองได้เขียนไวท์บอร์ดขึ้นกระดานเป็นแผนผังแบบที่เคยทำ พร้อมยืนยันว่า ยังไม่มีการทำสัญญาตกลงซื้อขายที่ดินแต่อย่างใด เนื่องจากยังติดสัญญาการซื้อขายกับบริษัท ไร มอน แลนด์ จำกัด ซึ่งตกลงซื้อขายกันในราคา 1,600 ล้านบาท โดยบริษัทได้มีการมีการจ่ายมัดจำมา 400 ล้านบาท ยังคงเหลือค้างชำระอีก 1,200 ล้านบาท ซึ่งต้องชำระภายในเดือนธันวาคมนี้ ทำให้ส่วนตัวไม่สามารถทำธุรกรรม หรือซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้โดยเด็ดขาด เนื่องจากติดสัญญาดังกล่าว 
  
ส่วนกรณีที่ ‘วิญญัติ ชาติมนตรี’ ทนายความของเศรษฐา ยื่นฟ้องชูวิทย์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการที่ออกแฉว่าเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดิน อดีตนักการเมืองมองว่า เป็นการจงใจขุดหลุมพรางของตนเอง ตั้งแต่การแถลงข่าวครั้งที่แล้ว เนื่องจากยังมีหลักฐานเด็ด ที่ระบุว่าการซื้อขายที่ดินดังกล่าวไว้ ไม่ได้เป็นการวางแผนภาษี แต่เป็นการจงใจหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ทำให้ภาครัฐต้องเสียประโยชน์กว่า 521 ล้านบาท  
 
พร้อมยืนยันว่า มีหลักฐานเป็นหนังสือที่ลงนามโดยอดีตอธิบดีกรมที่ดิน 2 คนในปี 2552 และ 2556  ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ที่ระบุว่า การซื้อขายที่ดินในลักษณะโฉนดแปลงเดียว ไม่สามารถทำสัญญาซื้อขายกันคนละฉบับ หรือเป็นการกระทำที่กระจายภาษี ซึ่งไม่สามารถทำได้  
 
สำหรับการซื้อขายที่ดินครั้งนี้ ผู้ซื้อคือ บมจ.แสนสิริ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการเสียภาษีโอนที่ดิน จึงตกลงกับผู้ขายในการแบ่งโอนเป็นรายย่อย 12 ราย เพื่อเลี่ยงการโอนในรูปแบบของคณะบุคคล เพราะจะมีการเสียภาษีที่สูงกว่า ดังนั้นส่วนตัวจึงเห็นว่า เศรษฐาไม่มีคุณสมบัติเหมาะที่จะเป็นนายกฯ  
  
ในส่วนกรณีที่ ‘พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์' ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่า ชูวิทย์ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ไม่สามารถซื้อขายได้เพราะติดสัญญา ส่วนเรื่องพร้อมพงศ์ตั้งคำถาม ว่าการออกมาแฉข้อมูลของชูวิทย์นั้น เพื่อต้องการตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ ชูวิทย์ กล่าวว่า ในสมัยที่ติดคุก พร้อมพงษ์อยู่ในห้องที่ 11 ซึ่งเวลาพร้อมพงษ์เดินในคุก ก็จะมีคนเดินตาม คอยนวดให้ซ้ายขวาตลอดเวลา แต่สิ่งที่อยากบอกว่า  พร้อมพงษ์ยังไม่เข็ดหรอที่เคยไปติดคุก 
  
เ่มื่อถามว่า กรณีที่มีการพยายามโจมตด้วยภาพถ่ายที่ปรากฎว่าเขากำลังมีการพูดคุยกับเศรษฐานั้น ชูวิทย์ ตอบกลับว่า "คุณโจมตีผมไปเถอะผมของแข็ง" โดยอธิบายว่า ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน ปี 2565  ตอนนั้นมีการพูดคุยกันจริง แต่การพูดคุยในครั้งนั้นเศรษฐาส่งคนมาเชิญให้ไปพูดคุย เพื่อจะขอซื้อที่ดินของเขา แต่ที่ดินผืนดังกล่าวยังติดสัญญาอยู่กับบริษัทไรมอนแลนด์ จึงไม่สามารถขายให้เศรษฐาได้ รายละเอียดและเนื้อหาการพูดคุยมีเพียงเท่านี้ ทั้งนี้เศรษฐายังระบุในการพูดคุยวันนั้นว่า ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดที่จะเป็นนักการเมือง แต่สุดท้ายกลับยกตัวเองขึ้นมาเป็นเเคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย อาศัยการขึ้นรถไฟความเร็วสูงสายยิ่งลักษณ์  
  
ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าวชูวิทย์ได้โชว์หลักฐาน เป็นเเชตการสนทนากับเขาและเศรษฐา ในวันที่ 16 กันยายน ปี 2565 ให้นักข่าวดูด้วย ซึ่งชูวิทย์ได้ส่งข้อความไปว่า "ผมเห็นว่าวันก่อน คุณค่อนข้างหงุดหงิด รักษาสุขภาพดีกว่าครับ อายุก็ห่างกับผมไม่มาก มีความสุขใจดีกว่า เงินก็มีเยอะอยู่แล้ว" จากนั้นก็ส่งข้อความไปอีกประโยค ว่า "รู้จักกันนาน ๆ มาก ๆ ดีกว่าครับ อนาคตคุณยังอีกไกล"  
  
ทางด้านเศรษฐา ก็ส่งข้อความกลับมาว่า "ขอโทษที่ทำให้รู้สึกอย่างนั้นครับ ไม่ได้หงุดหงิดเลยครับ เป็นคนใจร้อน อยากให้ถึงเป้าหมาย มีเงินน้อยกว่าคุณชูวิทย์ มีรายจ่ายเยอะกว่าครับ"  
  
กระนั้นอดีตนักการเมือง ยังกล่าวว่า หลังจากนั้นในเดือนธันวาคมปี 65 เศรษฐาได้ส่งกระเช้ามาให้ จึงส่งข้อความอวยพรกลับไป  ซึ่งจะเห็นว่าการพูดคุยและการพบเจอกันนั้น เป็นความสัมพันธ์ที่ดี ไม่ได้มีปัญหาหรือเรื่องหมองใจใดๆ พร้อมยืนยันว่า การวิพากษ์วิจารณ์แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ครั้งนี้ ก็ด้วยใจเป็นธรรม ในวันข้างหน้ากรณีหากได้เป็นนายกรัฐมนตรี เศรษฐาจะฟ้องร้องตน ก็ฟ้องไป  
  
ส่วนกรณีที่มีคนกล่าวหาว่าสิ่งที่ตนออกมาแฉนั้นเพื่อจะยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับ ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ นั้น ชูวิทย์กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหากับพรรคเพื่อไทย เพราะแคนดิเดตนายกฯ ยังมีอีก 2 คน ไม่ว่าจะเป็น ‘แพทองธาร ชินวัตร’ และ ‘ชัยเกษม นิติศิร’' ดังนั้นสิ่งที่ถูกกล่าวหาจึงไม่เป็นความจริง อีกทั้งที่ออกมาแฉทุกอย่างมีพยานหลักฐาน มีลายลักษณ์อักษร  
 
“หากคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี มีเล่ห์เหลี่ยมทางการค้า ออกอุบายหลีกเลี่ยงภาษี ตนเองรับไม่ได้ได้ เพราะสิ่งที่กระทำนั้นไม่ใช่เป็นการวางแผนภาษี แต่เป็นการวางแผนโกงภาษี ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย 521 บาท ดังนั้นจึงมองว่า นายเศรษฐา ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอในการเป็นนายกรัฐมนตรี”  
  
กรณีเมื่อมีหลักฐานปรากฎเช่นนี้เเล้ว เเต่เหตุใดทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทย จึงยืนยันว่าการกระทำนิติกรรมดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เรื่องนี้ชูวิทย์ ตอบว่า กฎหมายอยู่ที่ผู้ใช้ ทนายความก็มีสิทธิ์เข้าข้างลูกความตัวเอง  ดังนั้นที่หนีไม่พ้นมีอยู่ 2 สิ่ง คือความตาย และภาษี

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์