ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส. และเจ้าของธุรกิจอาบอบนวดชื่อดัง เดินทางมายังรัฐสภา เพื่อยื่นเอกสารหกลักฐานต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สอบสวนเส้นทางการเงินของ สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล สืบเนื่องจากการที่ตนออกมาเปิดเผยเรื่อง ‘นายทุนจีนสีเทา’ กระทั่งมีประเด็นพิพาทกัน โดยอีกฝ่ายได้มีการเข้ามาที่โรงแรมของตนและป้ายสีว่ามีการมั่วสุมเสพยา พร้อมอ้างเรื่องธุรกิจอาบอบนวดที่ขายไปเมื่อหลายปีก่อน
ชูวิทย์ บอกว่า ได้มอบเอกสารหลักฐาน ต่อประธาน กมธ.ป.ป.ช. เกี่ยวกับสาเหตุที่มีการปลด สันธนะ ออกจากการเป็นตำรวจ รวมถึงคำสั่งไล่ออกจากราชการ และการเรียกคืนเครื่องราช ถอดยศทั้งหมด เมื่อปี 61 เหตุผลจากการเข้าไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่ดอนเมือง ทั้งนี้ ยินดีเข้ามาให้ข้อมูลกับ กมธ.ป.ป.ช. ทั้งในกรณีที่ยื่นสอบเองหรือแม้จะถูกอีกฝ่ายยื่นสอบด้วยก็ตาม
“ก่อนที่นายสันธนะ จะไปตรวจสอบคนอื่น ก็ต้องดูเบื้องหลังของตนเองก่อน เพราะเวลาพูดแล้วยังกั๊กให้ไปตีความกันเอง หมดยุคมาเฟีย ทำท่ากร่าง ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบใคร เพราะถูกไล่ออกจากราชการ แสดงท่าทีบุคลิกที่เป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง ส่วนผมเป็นลูกผู้ชาย การต่อสู้ของผมไม่จำเป็นต้องอยู่ในสภาฯ เหมือนในอดีต ผมก็ต่อสู้ได้ จนวันนี้มีการออกหมายจับนายทุนจีนสีเทา สิ่งที่ผมพูดถือเป็นประโยชน์ เมื่อมีคนมาขัดขวางมาป้ายสีผม ก็จำเป็นที่จะต้องปกป้องตัวเอง” ชูวิทย์ กล่าว
ชูวิทย์ ยังตั้งขอสังเกตด้วยว่า เมื่อไปที่ใดอีกฝ่ายจะตามมาทีหลังเสมอ และเมื่อทราบว่าคู่กรณีจะมายื่นหนังสือที่รัฐสภาเช่นกัน จึงเตรียมของฝากเป็น ‘เกมแกะน้ำตาล’ จากซีรีย์ Squid Game ไปให้เล่น พร้อมโจมตีอีกฝ่ายถึงพฤติกรรมที่ไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีขององค์กรเก่า
“พฤติกรรมแบบนี้ ตำรวจด้วยกันก็ไม่เอาด้วย นายสันธนะเป็นหมาหัวเน่า และตนไม่ได้อาศัยสภาฯ แห่งนี้มาพูดถึงพฤติกรรมของนายสันธนะ แต่ตนพูดถึงข้อเท็จจริง” ชูวิทย์ กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวชม ชูวิทย์ ว่าทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ แม้ธุรกิจอาบอบนวดอาจดำเนินการเกินไปกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมยอมรับถึงความกล้าเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายเพื่อพิสูจน์ความจริง
“ในต่างประเทศประชาชนกล้าที่จะพูดความจริง เมื่อเจอการกระทำความผิด แต่ประเทศไทยมีแต่ไม่อยากยุ่ง กลัวเกิดปัญหา กลัวทำให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย ดังนั้น การที่มีคนมาแจ้งเบาะแสเป็นเรื่องที่ดีและอยากให้ไทยก้าวไปสู่จุดนั้นได้ เรื่องทุนจีน ถ้านายชูวิทย์ ไม่ออกมาพูด ตำรวจอาจจะไม่ทราบเรื่องดังกล่าวด้วยซ้ำ ผมในฐานะอดีตตำรวจต้องขอบคุณนายชูวิทย์ และขอให้ประชาชนเลิกกลัวการพูดความจริง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
ชูวิทย์ บอกว่า ได้มอบเอกสารหลักฐาน ต่อประธาน กมธ.ป.ป.ช. เกี่ยวกับสาเหตุที่มีการปลด สันธนะ ออกจากการเป็นตำรวจ รวมถึงคำสั่งไล่ออกจากราชการ และการเรียกคืนเครื่องราช ถอดยศทั้งหมด เมื่อปี 61 เหตุผลจากการเข้าไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่ดอนเมือง ทั้งนี้ ยินดีเข้ามาให้ข้อมูลกับ กมธ.ป.ป.ช. ทั้งในกรณีที่ยื่นสอบเองหรือแม้จะถูกอีกฝ่ายยื่นสอบด้วยก็ตาม
“ก่อนที่นายสันธนะ จะไปตรวจสอบคนอื่น ก็ต้องดูเบื้องหลังของตนเองก่อน เพราะเวลาพูดแล้วยังกั๊กให้ไปตีความกันเอง หมดยุคมาเฟีย ทำท่ากร่าง ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบใคร เพราะถูกไล่ออกจากราชการ แสดงท่าทีบุคลิกที่เป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง ส่วนผมเป็นลูกผู้ชาย การต่อสู้ของผมไม่จำเป็นต้องอยู่ในสภาฯ เหมือนในอดีต ผมก็ต่อสู้ได้ จนวันนี้มีการออกหมายจับนายทุนจีนสีเทา สิ่งที่ผมพูดถือเป็นประโยชน์ เมื่อมีคนมาขัดขวางมาป้ายสีผม ก็จำเป็นที่จะต้องปกป้องตัวเอง” ชูวิทย์ กล่าว
ชูวิทย์ ยังตั้งขอสังเกตด้วยว่า เมื่อไปที่ใดอีกฝ่ายจะตามมาทีหลังเสมอ และเมื่อทราบว่าคู่กรณีจะมายื่นหนังสือที่รัฐสภาเช่นกัน จึงเตรียมของฝากเป็น ‘เกมแกะน้ำตาล’ จากซีรีย์ Squid Game ไปให้เล่น พร้อมโจมตีอีกฝ่ายถึงพฤติกรรมที่ไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีขององค์กรเก่า
“พฤติกรรมแบบนี้ ตำรวจด้วยกันก็ไม่เอาด้วย นายสันธนะเป็นหมาหัวเน่า และตนไม่ได้อาศัยสภาฯ แห่งนี้มาพูดถึงพฤติกรรมของนายสันธนะ แต่ตนพูดถึงข้อเท็จจริง” ชูวิทย์ กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวชม ชูวิทย์ ว่าทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ แม้ธุรกิจอาบอบนวดอาจดำเนินการเกินไปกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมยอมรับถึงความกล้าเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายเพื่อพิสูจน์ความจริง
“ในต่างประเทศประชาชนกล้าที่จะพูดความจริง เมื่อเจอการกระทำความผิด แต่ประเทศไทยมีแต่ไม่อยากยุ่ง กลัวเกิดปัญหา กลัวทำให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย ดังนั้น การที่มีคนมาแจ้งเบาะแสเป็นเรื่องที่ดีและอยากให้ไทยก้าวไปสู่จุดนั้นได้ เรื่องทุนจีน ถ้านายชูวิทย์ ไม่ออกมาพูด ตำรวจอาจจะไม่ทราบเรื่องดังกล่าวด้วยซ้ำ ผมในฐานะอดีตตำรวจต้องขอบคุณนายชูวิทย์ และขอให้ประชาชนเลิกกลัวการพูดความจริง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว