ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงข่าว ‘ทำไมทักษิณถึงกลับบ้าน’ โดยไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่การทำ MOU จัดตั้งรัฐบาลของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย 312 เสียง ที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เป็นดีลล่มและจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้จริง รวมถึงกรณีการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคก้าวไกลก็พลาดเก้าอี้ กระทั่งนำมาสู่การจับมือกับพรรคการเมืองเสียงข้างน้อย 188 เสียง ก่อนนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล พร้อมระบุว่า ที่เชิญสื่อมาครั้งนี้ เพราะมีการปล้นคะแนนประชาชนจากการเลือกตั้งภายใต้ ‘Superdeal’ โดยมีทักษิณ ชินวัตร เป็นตัวประกันและผู้คุมเกม หลักฐานปรากฎชัดจากภาพที่นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ไปพบทักษิณเมื่อวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม ที่โรงแรม Peninsula ฮ่องกง ตนจำได้ดีเพราะถือเป็นบ้านหลังที่สอง
ชูวิทย์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า แผนที่จะเดินหน้าหลังจากนี้ คือการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบสาม ซึ่งจะเป็นแผนลวงก่อน พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อตัวหลอกให้ไม่ผ่าน ซึ่ง
ชูวิทย์ยอมรับกับผู้สื่อข่าวในภายหลังว่าคือ ชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เพื่อแสดงให้เห็นว่า เมื่อมีก้าวไกลอยู่จะโหวตไม่ผ่าน จากนั้น จะเริ่มเข้าสู่ปฎิบัติการแดงผสมเหลืองล้มส้ม โดยให้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และดึงเสียงจากพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งพรรคเพื่อไทย พลังประชารัฐ และพรรคอื่นๆ รวมเป็น 279 เสียง ส่วนพรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องไปเป็นฝ่ายค้าน โดยดีลนี้จะเกิดขึ้นได้ เมื่อทักษิณกลับมา แต่พรรคภูมิใจไทยจะไม่เป็นนายกฯ ขอแค่กระทรวงคมนาคม สาธารณสุข แถมอาจจะได้กระทรวงเกษตรฯ ไปด้วย และนี่คือ ดีลกลับบ้านแลกเปลี่ยน เชื่อว่า สูตรนี้จะสำเร็จ และตนขอเรียกสูตรนี้ว่า สูตรปล้นประชาชน ยืมมือภูมิใจไทย สลัดก้าวไกล
“ดีลนี้จะเกิดขึ้นได้ ทักษิณต้องกลับบ้านก่อน เพราะเขาคือผู้นำจิตวิญญาณที่ทุกคนต้องไปหา ส่วนการจะเลิกข้าวต้มมัด ก็ต้องทำให้เห็นว่า หากมีก้าวไกล ก็ไม่สำเร็จ จากนั้นภูมิใจไทย จะเป็นแกนนำเชิญคนมาร่วมโดยไม่มีก้าวไกล และเป็นการแกะข้าวต้มมัดที่ถูกมัดไว้ โดยมวลชนของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จะให้เพื่อไทยพูดเองไม่ได้ ดังนั้น คนที่จะพูดคือ ภูมิใจไทย และเขามีจุดยืนอยู่แล้วว่า ไม่เอาพรรคก้าวไกล ก้าวไกลจึงต้องเป็นฝ่ายค้านโดยชัดเจน” ชูวิทย์ กล่าว
ชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี ตอนนี้ก็ดีล ครม.จบแล้วเหมือนกัน ซึ่ง ‘Superdeal’ นี้เจรจาจบแล้ว ที่มูลนิธิป่ารอยต่อและฮ่องกง
จากนั้น ชูวิทย์ ได้หยิบแสตนดี้ที่ลักษณะเป็นผู้ชายตัวสูงมากกว่าปกติ และมีข้อความบนแสตนดี้ว่า ‘นายกฯ คนใหม่ประเทศไทย ซื่อสัตย์ เป็นที่ประจักษ์หรือไม่?’ โดยไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร แต่คนนี้จะเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงและจะได้รับการโหวตในรอบที่ 4 ภายใต้ ‘Superdeal’ ที่ภูมิใจไทยเป็นแกนนำ แต่ตนยังมีคำถามกับแคนดิเดตนายกฯคนนี้ ว่าเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 ที่กำหนดว่า ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่มีพฤติกรรมที่เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยทันทีที่บุคคลดังกล่าวรับตำแหน่งนายกฯ ให้เปรอะเปื้อนตั้งแต่วันแรก ตนจะออกมาแฉข้อมูลเลี่ยงภาษี 500 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังเปิดภาพบุคคลปริศนาเพื่อเรียกน้ำย่อย โดย ชูวิทย์เรียกบุคคลดังกล่าวว่า มิสเตอร์มาย หรือมีนามว่า ขงเบ้ง เป็นผู้หยั่งรู้ในวงการหุ้นและที่ดิน เป็นอยู่เบื้องหลังการผลักดันคนตัวสูงดังกล่าว
เมื่อถามว่า มีปัญหาส่วนตัวอะไรกับคนตัวสูงนี้หรือไม่ ชูวิทย์ ย้อนถามว่า ทำไมมองผมในแง่ดีบ้างไม่ได้ จะทำอะไรเพื่อบ้านเมืองบ้างไม่ได้เลยหรอ ตนมองแค่ว่า แผนนี้มันเป็นการปล้นคะแนนของประชาชน โรบินฮู้ดอย่างตนต้องออกมาพูด
เมื่อถามว่า ข้อมูลที่ออกมาแฉ จะเป็นประโยชน์อะไรกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ ชูวิทย์ กล่าวว่า ตอนนี้พรรคก้าวไกลทำใจแล้ว ว่าต้องกลับไปเป็นฝ่ายค้าน ทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมรับสภาพทุกอย่าง
ส่วนการกลับบ้านของ ทักษิณ คนอายุ 70 ปี เรียกได้ว่าแก่ ติดคุกไปชั่วโมงเดียวหรือ 1 วัน ก็สามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ เพราะเป็นสิทธิของนักโทษ ดังนั้น ก็จะออกมาในรูปแบบของคนแก่
เมื่อถามว่า การกลับมาถูกดำเนินคดีของทักษิณจะได้รับสิทธิพิเศษหรือไม่ ชูวิทย์ กล่าวว่า ต้องยอมรับ เมืองไทยมันไม่มีมาตรฐานเดียวอยู่แล้ว ทุกที่ในประเทศไทยมันไม่ได้มีมาตรฐานเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ในคุก มันมีสิทธิพิเศษแน่นอน แต่มันก็ต้องรอดูว่ามันมีระดับไหน ช้าหรือเร็ว แล้วคนระดับนายกฯจะไปนั่งฟังผู้คุม มันจะเป็นไปได้เหรอ ดังนั้น เรื่องสิทธิพิเศษในคุกไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องสำคัญอยู่ที่ว่าจะได้ออกจากคุกช้าหรือเร็ว แต่การต้องรับโทษของทักษิณ ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ได้เป็นธรรมตั้งแต่แรก
ชูวิทย์ ยังเปิดเผยอีกว่า ตอนนี้ทักษิณน่าจะอยู่ที่กัมพูชา ก่อนจะระบุว่า ดีลนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ การเมืองไม่นิ่ง และการเมืองคือการประนีประนอม ขณะเดียวกัน การเมืองก็คือสงคราม มีรุกและมีถอย
ชูวิทย์ ยังเชื่อว่า ไม่เกินวันที่ 15 สิงหาคม จะมีนายกฯคนใหม่ เชื่อว่าในวันที่ 10 สิงหาคม มีความเป็นไปได้ 80% ที่ทักษิณจะกลับมาอยู่ในสถานะตัวประกันและผู้คุมเกมแน่นอน
ชูวิทย์ ยังเปิดเผยด้วยว่า พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเป็นผู้มาคุมกระทรวงกลาโหม ส่วนพลเอกประวิตร จองกระทรวงมหาดไทย
เมื่อถามว่าสิ่งที่ทักษิณจะทำเมื่อกลับมาถึงประเทศไทย คืออะไร ชูวิทย์ ระบุว่า คุกเข่า พนมมือ และก้มกราบ
ชูวิทย์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า แผนที่จะเดินหน้าหลังจากนี้ คือการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบสาม ซึ่งจะเป็นแผนลวงก่อน พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อตัวหลอกให้ไม่ผ่าน ซึ่ง
ชูวิทย์ยอมรับกับผู้สื่อข่าวในภายหลังว่าคือ ชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เพื่อแสดงให้เห็นว่า เมื่อมีก้าวไกลอยู่จะโหวตไม่ผ่าน จากนั้น จะเริ่มเข้าสู่ปฎิบัติการแดงผสมเหลืองล้มส้ม โดยให้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และดึงเสียงจากพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งพรรคเพื่อไทย พลังประชารัฐ และพรรคอื่นๆ รวมเป็น 279 เสียง ส่วนพรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องไปเป็นฝ่ายค้าน โดยดีลนี้จะเกิดขึ้นได้ เมื่อทักษิณกลับมา แต่พรรคภูมิใจไทยจะไม่เป็นนายกฯ ขอแค่กระทรวงคมนาคม สาธารณสุข แถมอาจจะได้กระทรวงเกษตรฯ ไปด้วย และนี่คือ ดีลกลับบ้านแลกเปลี่ยน เชื่อว่า สูตรนี้จะสำเร็จ และตนขอเรียกสูตรนี้ว่า สูตรปล้นประชาชน ยืมมือภูมิใจไทย สลัดก้าวไกล
“ดีลนี้จะเกิดขึ้นได้ ทักษิณต้องกลับบ้านก่อน เพราะเขาคือผู้นำจิตวิญญาณที่ทุกคนต้องไปหา ส่วนการจะเลิกข้าวต้มมัด ก็ต้องทำให้เห็นว่า หากมีก้าวไกล ก็ไม่สำเร็จ จากนั้นภูมิใจไทย จะเป็นแกนนำเชิญคนมาร่วมโดยไม่มีก้าวไกล และเป็นการแกะข้าวต้มมัดที่ถูกมัดไว้ โดยมวลชนของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จะให้เพื่อไทยพูดเองไม่ได้ ดังนั้น คนที่จะพูดคือ ภูมิใจไทย และเขามีจุดยืนอยู่แล้วว่า ไม่เอาพรรคก้าวไกล ก้าวไกลจึงต้องเป็นฝ่ายค้านโดยชัดเจน” ชูวิทย์ กล่าว
ชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี ตอนนี้ก็ดีล ครม.จบแล้วเหมือนกัน ซึ่ง ‘Superdeal’ นี้เจรจาจบแล้ว ที่มูลนิธิป่ารอยต่อและฮ่องกง
จากนั้น ชูวิทย์ ได้หยิบแสตนดี้ที่ลักษณะเป็นผู้ชายตัวสูงมากกว่าปกติ และมีข้อความบนแสตนดี้ว่า ‘นายกฯ คนใหม่ประเทศไทย ซื่อสัตย์ เป็นที่ประจักษ์หรือไม่?’ โดยไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร แต่คนนี้จะเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงและจะได้รับการโหวตในรอบที่ 4 ภายใต้ ‘Superdeal’ ที่ภูมิใจไทยเป็นแกนนำ แต่ตนยังมีคำถามกับแคนดิเดตนายกฯคนนี้ ว่าเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 ที่กำหนดว่า ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่มีพฤติกรรมที่เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยทันทีที่บุคคลดังกล่าวรับตำแหน่งนายกฯ ให้เปรอะเปื้อนตั้งแต่วันแรก ตนจะออกมาแฉข้อมูลเลี่ยงภาษี 500 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังเปิดภาพบุคคลปริศนาเพื่อเรียกน้ำย่อย โดย ชูวิทย์เรียกบุคคลดังกล่าวว่า มิสเตอร์มาย หรือมีนามว่า ขงเบ้ง เป็นผู้หยั่งรู้ในวงการหุ้นและที่ดิน เป็นอยู่เบื้องหลังการผลักดันคนตัวสูงดังกล่าว
เมื่อถามว่า มีปัญหาส่วนตัวอะไรกับคนตัวสูงนี้หรือไม่ ชูวิทย์ ย้อนถามว่า ทำไมมองผมในแง่ดีบ้างไม่ได้ จะทำอะไรเพื่อบ้านเมืองบ้างไม่ได้เลยหรอ ตนมองแค่ว่า แผนนี้มันเป็นการปล้นคะแนนของประชาชน โรบินฮู้ดอย่างตนต้องออกมาพูด
เมื่อถามว่า ข้อมูลที่ออกมาแฉ จะเป็นประโยชน์อะไรกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ ชูวิทย์ กล่าวว่า ตอนนี้พรรคก้าวไกลทำใจแล้ว ว่าต้องกลับไปเป็นฝ่ายค้าน ทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมรับสภาพทุกอย่าง
ส่วนการกลับบ้านของ ทักษิณ คนอายุ 70 ปี เรียกได้ว่าแก่ ติดคุกไปชั่วโมงเดียวหรือ 1 วัน ก็สามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ เพราะเป็นสิทธิของนักโทษ ดังนั้น ก็จะออกมาในรูปแบบของคนแก่
เมื่อถามว่า การกลับมาถูกดำเนินคดีของทักษิณจะได้รับสิทธิพิเศษหรือไม่ ชูวิทย์ กล่าวว่า ต้องยอมรับ เมืองไทยมันไม่มีมาตรฐานเดียวอยู่แล้ว ทุกที่ในประเทศไทยมันไม่ได้มีมาตรฐานเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ในคุก มันมีสิทธิพิเศษแน่นอน แต่มันก็ต้องรอดูว่ามันมีระดับไหน ช้าหรือเร็ว แล้วคนระดับนายกฯจะไปนั่งฟังผู้คุม มันจะเป็นไปได้เหรอ ดังนั้น เรื่องสิทธิพิเศษในคุกไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องสำคัญอยู่ที่ว่าจะได้ออกจากคุกช้าหรือเร็ว แต่การต้องรับโทษของทักษิณ ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ได้เป็นธรรมตั้งแต่แรก
ชูวิทย์ ยังเปิดเผยอีกว่า ตอนนี้ทักษิณน่าจะอยู่ที่กัมพูชา ก่อนจะระบุว่า ดีลนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ การเมืองไม่นิ่ง และการเมืองคือการประนีประนอม ขณะเดียวกัน การเมืองก็คือสงคราม มีรุกและมีถอย
ชูวิทย์ ยังเชื่อว่า ไม่เกินวันที่ 15 สิงหาคม จะมีนายกฯคนใหม่ เชื่อว่าในวันที่ 10 สิงหาคม มีความเป็นไปได้ 80% ที่ทักษิณจะกลับมาอยู่ในสถานะตัวประกันและผู้คุมเกมแน่นอน
ชูวิทย์ ยังเปิดเผยด้วยว่า พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเป็นผู้มาคุมกระทรวงกลาโหม ส่วนพลเอกประวิตร จองกระทรวงมหาดไทย
เมื่อถามว่าสิ่งที่ทักษิณจะทำเมื่อกลับมาถึงประเทศไทย คืออะไร ชูวิทย์ ระบุว่า คุกเข่า พนมมือ และก้มกราบ
