ผู้สื่อข่าวรายงาน (7 เมษายน 2566) มีรายงานว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีคำวินิจฉัยที่ 54/2566 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เรื่องการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ร้อยเอ็ด โดยวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนางจุรีพร สินธุไพร ผู้สมัครนายก อบจ.ร้อยเอ็ด กรณีถูกกล่าวหาว่า เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้ ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนแก่ตัวเอง
กรณีดังกล่าว กกต.ได้รับคำร้องว่า นางจุรีพร ได้มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) โดยกล่าวหาว่า เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้ ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนแก่ตัวเอง โดย กกต.พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนรับฟังได้ว่า พยานคนที่ 1-2 ของผู้ร้องให้ถ้อยคำทำนองเดียวกันว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 ระหว่างเวลาประมาณ 10.00-12.00 น. ได้ไปฟังผู้ถูกร้อง (นางจุรีพร) ปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งที่โรงเรียนจตุรพักตรพิมานรัชดาภิเษก ต.หัวช้าง อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด
โดยผู้ถูกร้องปราศรัยว่า “เฮ็ดโรงแรม ผู้ใดไปพัทยา อย่าลืมพักโรงแรมฟรีเด้อ” วิญญูชนทั่วไปย่อมเข้าใจว่า ผู้ถูกร้องประกอบธุรกิจโรงแรมที่พัทยา และได้เชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปฟังการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งในวันดังกล่าวที่ไปพัทยา ให้ไปพักที่โรงแรมของผู้ถูกร้องได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเข้าข่ายหรือมีลักษณะเป็นการเสนอให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ผู้ถูกร้อง
ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวของผู้ถูกร้องที่ว่า เป็นการแนะนำประวัติของตน และตนไม่มีนโยบายที่จะให้ผู้ใดที่ไปเที่ยวพัทยาเข้าพักโรงแรมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะไม่ได้เป็นเจ้าของ หรือผู้มีอำนาจบริหารจัดการโรงแรมแต่อย่างใด ซึ่งตนได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท เดอะ ตำนานโฮเต็ลแอนด์ รีสอร์ท กรุ๊ป จำกัด ตั้งแต่ 6 สิงหาคม 2565 จึงไม่มีอำนาจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าพักที่โรงแรมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้นั้น ยังไม่อาจหักล้างน้ำหนักพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวน
กรณีจึงปรากฏหลักฐานอันเชื่อได้ว่า คำพูดดังกล่าวของผู้ถูกร้อง เป็นการเสนอให้หรือสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนแก่ตัวเอง อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกร้อง มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง
กกต.จึงมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนางจุรีพร ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง และให้ดำเนินคดีอาญาแก่นางจุรีพร ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) ประกอบมาตรา 126
สำหรับนางจุรีพร สินธุไพร เป็นน้องสาวของนายนิสิต สินธุไพร อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ก่อนหน้านี้ เคยสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และตกเป็นข่าวกับนายเสกสกล อัตถาวงศ์ กรณีโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนลาออกเพื่อมาลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด แต่พ่ายให้กับนายเศกสิทธิ์ ไวยนิยมพงศ์ จากพรรคเพื่อไทย
ปัจจุบันนางจุรีพร ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ร้อยเอ็ด เขต 8 ในนามพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.)
กรณีดังกล่าว กกต.ได้รับคำร้องว่า นางจุรีพร ได้มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) โดยกล่าวหาว่า เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้ ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนแก่ตัวเอง โดย กกต.พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนรับฟังได้ว่า พยานคนที่ 1-2 ของผู้ร้องให้ถ้อยคำทำนองเดียวกันว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 ระหว่างเวลาประมาณ 10.00-12.00 น. ได้ไปฟังผู้ถูกร้อง (นางจุรีพร) ปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งที่โรงเรียนจตุรพักตรพิมานรัชดาภิเษก ต.หัวช้าง อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด
โดยผู้ถูกร้องปราศรัยว่า “เฮ็ดโรงแรม ผู้ใดไปพัทยา อย่าลืมพักโรงแรมฟรีเด้อ” วิญญูชนทั่วไปย่อมเข้าใจว่า ผู้ถูกร้องประกอบธุรกิจโรงแรมที่พัทยา และได้เชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปฟังการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งในวันดังกล่าวที่ไปพัทยา ให้ไปพักที่โรงแรมของผู้ถูกร้องได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเข้าข่ายหรือมีลักษณะเป็นการเสนอให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ผู้ถูกร้อง
ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวของผู้ถูกร้องที่ว่า เป็นการแนะนำประวัติของตน และตนไม่มีนโยบายที่จะให้ผู้ใดที่ไปเที่ยวพัทยาเข้าพักโรงแรมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะไม่ได้เป็นเจ้าของ หรือผู้มีอำนาจบริหารจัดการโรงแรมแต่อย่างใด ซึ่งตนได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท เดอะ ตำนานโฮเต็ลแอนด์ รีสอร์ท กรุ๊ป จำกัด ตั้งแต่ 6 สิงหาคม 2565 จึงไม่มีอำนาจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าพักที่โรงแรมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้นั้น ยังไม่อาจหักล้างน้ำหนักพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวน
กรณีจึงปรากฏหลักฐานอันเชื่อได้ว่า คำพูดดังกล่าวของผู้ถูกร้อง เป็นการเสนอให้หรือสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนแก่ตัวเอง อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกร้อง มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง
กกต.จึงมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนางจุรีพร ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง และให้ดำเนินคดีอาญาแก่นางจุรีพร ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) ประกอบมาตรา 126
สำหรับนางจุรีพร สินธุไพร เป็นน้องสาวของนายนิสิต สินธุไพร อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ก่อนหน้านี้ เคยสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และตกเป็นข่าวกับนายเสกสกล อัตถาวงศ์ กรณีโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนลาออกเพื่อมาลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด แต่พ่ายให้กับนายเศกสิทธิ์ ไวยนิยมพงศ์ จากพรรคเพื่อไทย
ปัจจุบันนางจุรีพร ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ร้อยเอ็ด เขต 8 ในนามพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.)
