‘แพทองธาร’ เผย ‘ทักษิณ’ อ่อนเพลีย เครียด

29 ส.ค. 2566 - 07:52

  • ‘แพทองธาร’ เผยหลังเยี่ยม ‘ทักษิณ’ ยังอ่อนเพลีย เหนื่อย เครียด

  • ชี้ เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงหลังกลับไทย ย้ำ เคยติดโควิดรุ่นอู่ฮั่น อาการหนักส่งผลต่อปอด ยัน ยังอยู่ รพ.ตำรวจ ไม่ย้ายไปเอกชน

  • ลั่น ขอพระราชทานอภัยโทษให้ ‘พ่อ’ดำเนินการเอง

Ink-Said-Thaksin-still-tried-stress-sick-SPACEBAR-Hero
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้รับช่อดอกไม้ที่กลุ่มผู้สนับสนุนนำมามอบให้ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับแพทองธาร  

จากนั้น แพทองธาร ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยบอกว่า รู้สึกตื่นเต้นเพราะวันนี้มีผู้สื่อข่าวเยอะ ก่อนจะเล่าถึงการเข้าเยี่ยมทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ รพ.ตำรวจ ว่า ตอนนี้คุณพ่อมีอาการอ่อนเพลีย ซึ่งหากดูจะเห็นว่า มีอาการตั้งแต่เดินทางมาถึงประเทศไทย คือไม่ได้สดชื่นเท่าเดิม แต่ตนเองก็เข้าใจเพราะ 17 ปีที่ผ่านมาไม่ได้อยู่เมืองไทย คงมีอาการเครียดพอสมควร และในครอบครัวก็ได้คุยกันก็เห็นอยู่ว่ามีอาการเครียด ซึ่งในคืนนั้น ( 22 ส.ค.) ก็ทราบพร้อมกับสื่อว่า ได้ไปโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากมีอาการเครียดและอ่อนเพลีย เท่าที่ได้ไปเจอมาก็เห็นแบบนั้นว่า อ่อนเพลีย 

เมื่อถามว่า ที่ทนายความบอกว่าอาการน่าเป็นห่วง คือน่าเป็นห่วงถึงขั้นไหน แพทองธาร กล่าวว่า ที่บอกว่าน่าเป็นห่วงคือ ตั้งแต่ช่วงที่ตนตั้งท้องน้องธิธาร (ลูกสาว) ในปี 2020(พ.ศ.2563) คุณพ่อเป็นโควิดรุ่นอู่ฮั่น เป็นหนักมากรุ่นก่อนเดลต้าที่จะมียาฉีด คุณพ่อเข้าไอซียู ไป 9 วัน และอยู่โรงพยาบาลหนึ่งเดือนน้ำหนักลดไป 10 กิโลกรัม เพราะฉะนั้นที่ปอดยังมีร่องรอย ซึ่งคุณพ่อพยายามที่จะออกกำลังกายเพื่อจะให้ฟื้น และก็กลับมาได้เยอะพอสมควร แต่แน่นอนว่าคนอายุ 74 ปีและบวกกับความเครียดด้วย 

เมื่อถามว่าสภาพร่างกายจิตใจ ความเครียดของทักษิณอยู่ในระดับใด แพทองธาร กล่าวว่า คุณพ่อดีใจที่ได้เจอตนเอง แต่ก็มีความเครียดและเหนื่อยแต่คุณพ่อก็สู้ ซึ่งรู้สึกว่าท่านมีความเปลี่ยนแปลงเยอะ เพราะตอนอยู่เมืองนอกก็ได้ออกไปข้างนอก ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องผลอายุ 74 ปีใครก็ตามที่ต้องอยู่กับสถานการณ์การเปลี่ยนที่ ไม่ต้องเปลี่ยนราชทัณฑ์ หรือ ไม่ต้องเป็นโรงพยาบาลก็ได้ แค่เปลี่ยนไปเรียนเมืองนอก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดความรู้สึกกับทุกคน คุณพ่อก็เช่นกัน พร้อมขอขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงท่าน ตอนนี้ทีมคุณหมอก็เก่งมาก มอนิเตอร์ทุกอย่างรวมถึงประวัติการรักษาตัวจากเมืองนอกก็ได้มอบให้หมอไปหมดแล้ว ทั้งเรื่องหัวใจ เรื่องปอด หรือประวัติการรักษาที่ผ่านมา 10 กว่าปี ไปผ่าอะไรมาบ้าง เหล่านี้มอบให้กับโรงพยาบาลไปหมดแล้ว 

เมื่อถามว่า ครอบครัวได้พูดคุยเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษแล้วหรือยัง แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ให้เป็นดุลพินิจของคุณพ่อ ว่าจะจัดทำเมื่อไหร่ ก็ให้คุณพ่อเป็นคนทำเอง  

ส่วนกระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษสามารถทำได้ตั้งแต่วันแรกที่รับโทษจนถึงวันนี้ติดขัดอะไรหรือไม่นั้น แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้ติดขัดอะไร เพียงแต่เรื่องเวลา ของการร่างจดหมายเป็นของคุณพ่อที่จะเลือกเวลาและกระบวนการทั้งหมด ซึ่งคุณพ่อทำคนเดียวและตนเองก็ไม่ได้เห็นตัวจดหมาย  

เมื่อถามว่า จะต้องย้ายตัวทักษิณออกมารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ แพทองธารกล่าวว่า ไม่มี เพราะที่โรงพยาบาลตำรวจคุณหมอเก่งๆ เยอะมาก เราไม่ได้ขอหรือจะย้ายไปที่โรงพยาบาลเอกชนยังอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ 

เมื่อถามว่า หมอได้ประเมินหรือไม่ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาตัวกี่วัน แพทองธาร กล่าวว่าวันนี้ก็ถามแต่ยังไม่ทราบ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัย รวมถึงเรื่องของเครื่องมือด้วย อีกทั้งหากเกิดเหตุการณ์ด่วน  

“อิ๊งเอง พูดอยู่ตรงนี้ก็รู้สึกนิดนึงว่า มันก็แปลก เพราะคุณพ่ออายุเยอะจริงๆ และครอบครัวเราก็ยอมรับว่าคุณพ่ออายุเยอะ” แพทองธาร กล่าว  

เมื่อถามว่า เสียใจหรือไม่ที่สังคมเหมือนจะไม่เชื่อ และมองว่าเป็นผู้มีอภิสิทธิ์ชน แพทองธาร กล่าวว่า ตนไม่ได้ เสียใจหรือไม่เสียใจ ตนเป็นห่วงคุณพ่อมากกว่า และเป็นห่วงคนที่เป็นห่วงท่านด้วยว่าทุกวันนี้ทุกคนเป็นห่วง รวมถึงญาติเองก็ส่งมาถามว่าคุณพ่อเป็นอย่างไรบ้าง ตนก็ดีใจที่ได้ไปเยี่ยมเมื่อวาน (28 ส.ค.) และวันนี้ (29 ส.ค.) คุณพ่อก็มีเหนื่อยเพลียบ้างแต่ก็คุยกับตนเองได้ 

ส่วนที่สังคมสงสัยเรื่องห้องพัก เมื่อได้ไปเข้าเยี่ยมทักษิณแล้วเป็นอย่างไร แพทองธาร ยืนยันว่า เป็นห้องที่อยู่ฝั่งที่เห็นเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งก็เป็นห้องปกติไม่ได้มีอะไรและตอนนี้ก็ได้ซ่อมและมีแอร์แล้ว

เมื่อถามว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับทักษิณมีความเป็นห่วงหรือย้ำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่นั้น แพทองธาร กล่าวว่า ถ้าถามตนส่วนตัวห่วงเรื่องหัวใจ ส่วนเรื่องปอดเป็นพื้นฐานเดิมที่คุณพ่อเป็น ซึ่งตนคิดว่าถ้ามีอะไรยังไม่เร็วเท่าหัวใจ ถ้าถามว่า ตนเองในฐานะที่เป็นลูกและไม่ได้เรียนหมอมาก็เป็นห่วงเรื่องหัวใจ  แต่เรื่องอื่นถ้าเป็นข้อมูลทางการแพทย์ขอให้ถามคุณหมอ 

ส่วนการเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยวันนี้ แพทองธาร กล่าวว่า จะมาพูดคุยเรื่องซอฟท์พาวเวอร์ที่จะทำต่อ และต้องทำเพิ่มเติมตามที่ได้บอกกับประชาชนเอาไว้ เพื่อจะได้ทำงานหลังมีคณะรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า จะเอาไปซัพพอร์ทกับรัฐบาล ถ้าเขารับนโยบายของเราก็จะทำให้เต็มที่

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์