







พรรคไทยสร้างไทย เปิดตัว การุณ โหสกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตดอนเมือง กทม. ชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครพนม โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรค และผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทย ต้อนรับ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต้อนรับว่า เป็นอดีต ส.ส.คุณภาพทั้งสองคน โดยชวลิตมีจุดเด่นเรื่องการทำงานเรื่องความปรองดอง เป็นอดีตนายอำเภอมาก่อน ทำงานอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย ทำงานให้ประชาชนมายาวนาน ส่วนเก่ง-การุณ เป็นขวัญใจชาวดอนเมือง เอาจริงกับทุกปัญหา เรามั่นใจว่าทั้งคู่จะนำทัพพรรคให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้ จึงรู้สึกยินดีที่จะได้นักรบที่หัวใจเต็มเปี่ยมด้วยประชาชาธิปไตย มีประชาชนในหัวใจ เรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ
ขณะที่ ชวลิต กล่าวว่า มี 2 เหตุผลที่มาอยู่พรรคไทยสร้างไทย คือเรื่องเวลา สถานการณ์ที่สุกงอมในการตัดสินใจ ตนเป็น ส.ส. มาตั้งแต่ปี 2544 ผ่านการยุบพรรคมาแล้ว 2 ครั้ง การรัฐประหาร 2 ครั้ง เห็นความขัดแย้ง 2 ขั้ว เปลี่ยนอำนาจกันไปมา หัวหน้าที่เปลี่ยนมาแล้วก็ไป แต่คนเดือนร้อนคือประชาชน ถ้าออกจากความขัดแย้งไม่ได้ ย้านเมืองก็ยังเป็นแบบนี้ ตนได้เห็นนโยบายของพรรค ที่จะเป็นทางออกของประเทศ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งตรงกับใจของตนเอง อีกทั้งเรื่องนโยบาย ตนเป็น ส.ส.อีสาน มีประชากรมากที่สุด มีเนื้อที่มากที่สุด แต่กลับเป็นภาคที่ยากจน แห้งแล้ง มีแต่คำหวานๆ จากพรรคต่างๆ แต่สุดท้ายก็ผ่านไป ชาวอีสานไม่เคยได้รับโครงการขนาดใหญ่ที่จะมาแก้ความยากจน แห้งแล้ง ตนเห็นนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย ‘อีสานมั่งคั่ง’ โดยเฉพาะเรื่องแก้ปัญหาความแห้งแล้ง จึงมีความสนใจ และเห็นความเป็นผู้นำของคุณหญิงสุดารัตน์
ด้าน การุณ กล่าวว่า ตนอาศัยเรื่องคุณธรรม กตัญญู เป็นหลัก ที่จะต้องกตัญญูกับชาวดอนเมืองในเรื่องความเป็นอยู่ การทำมาหากิน การทำงานการเมือง ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับประเทศ อีกความกตัญญูคือการออกจากบ้านหลังเก่า ที่เป็นบ้านหลังใหญ่ ที่ตนก่อร่างสร้างมา ตนจะได้เป็นผู้แทนตั้งแต่ปี 2544 แต่ไม่ได้ลง แต่ทำการเมืองท้องถิ่น การออกมาแม้จะมีเหตุ แต่เราละวางไว้ เพื่อจะเดินกันต่อไป ไม่ต้องกังขา ตนไม่มีตัวเลือกอื่นๆ คือการมุ่งหน้าสื่อพรรคไทยสร้างไทย เพราะคุณหญิงสุดารัตน์ เมตตาต่อตัวตน และเป็นแบบอย่างในการทำงานให้กับคนกรุงเทพฯ ตนได้รับความกรุณาจากคุณหญิงสุดารัตน์ ในช่วงตกต่ำที่สุดในเรื่องการเมืองและภัยส่วนตัว มีคุณหญิงสุดารัตน์ที่โอบอุ้มมาโดยตลอด อีกทั้งพรรคไทยสร้างไทยเป็นแบบอย่างในการเรียกร้องประชาธิปไตย ตั้งแต่ปี 2535 สมันตนอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็ได้เห็นมาตลอด ในการต่อสู้ทางการเมืองของคุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งตนเป็น ส.ส. มา 3 สมัย อยู่เคียงข้างประชาชนมาตลอด
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต้อนรับว่า เป็นอดีต ส.ส.คุณภาพทั้งสองคน โดยชวลิตมีจุดเด่นเรื่องการทำงานเรื่องความปรองดอง เป็นอดีตนายอำเภอมาก่อน ทำงานอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย ทำงานให้ประชาชนมายาวนาน ส่วนเก่ง-การุณ เป็นขวัญใจชาวดอนเมือง เอาจริงกับทุกปัญหา เรามั่นใจว่าทั้งคู่จะนำทัพพรรคให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้ จึงรู้สึกยินดีที่จะได้นักรบที่หัวใจเต็มเปี่ยมด้วยประชาชาธิปไตย มีประชาชนในหัวใจ เรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ
ขณะที่ ชวลิต กล่าวว่า มี 2 เหตุผลที่มาอยู่พรรคไทยสร้างไทย คือเรื่องเวลา สถานการณ์ที่สุกงอมในการตัดสินใจ ตนเป็น ส.ส. มาตั้งแต่ปี 2544 ผ่านการยุบพรรคมาแล้ว 2 ครั้ง การรัฐประหาร 2 ครั้ง เห็นความขัดแย้ง 2 ขั้ว เปลี่ยนอำนาจกันไปมา หัวหน้าที่เปลี่ยนมาแล้วก็ไป แต่คนเดือนร้อนคือประชาชน ถ้าออกจากความขัดแย้งไม่ได้ ย้านเมืองก็ยังเป็นแบบนี้ ตนได้เห็นนโยบายของพรรค ที่จะเป็นทางออกของประเทศ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งตรงกับใจของตนเอง อีกทั้งเรื่องนโยบาย ตนเป็น ส.ส.อีสาน มีประชากรมากที่สุด มีเนื้อที่มากที่สุด แต่กลับเป็นภาคที่ยากจน แห้งแล้ง มีแต่คำหวานๆ จากพรรคต่างๆ แต่สุดท้ายก็ผ่านไป ชาวอีสานไม่เคยได้รับโครงการขนาดใหญ่ที่จะมาแก้ความยากจน แห้งแล้ง ตนเห็นนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย ‘อีสานมั่งคั่ง’ โดยเฉพาะเรื่องแก้ปัญหาความแห้งแล้ง จึงมีความสนใจ และเห็นความเป็นผู้นำของคุณหญิงสุดารัตน์
ด้าน การุณ กล่าวว่า ตนอาศัยเรื่องคุณธรรม กตัญญู เป็นหลัก ที่จะต้องกตัญญูกับชาวดอนเมืองในเรื่องความเป็นอยู่ การทำมาหากิน การทำงานการเมือง ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับประเทศ อีกความกตัญญูคือการออกจากบ้านหลังเก่า ที่เป็นบ้านหลังใหญ่ ที่ตนก่อร่างสร้างมา ตนจะได้เป็นผู้แทนตั้งแต่ปี 2544 แต่ไม่ได้ลง แต่ทำการเมืองท้องถิ่น การออกมาแม้จะมีเหตุ แต่เราละวางไว้ เพื่อจะเดินกันต่อไป ไม่ต้องกังขา ตนไม่มีตัวเลือกอื่นๆ คือการมุ่งหน้าสื่อพรรคไทยสร้างไทย เพราะคุณหญิงสุดารัตน์ เมตตาต่อตัวตน และเป็นแบบอย่างในการทำงานให้กับคนกรุงเทพฯ ตนได้รับความกรุณาจากคุณหญิงสุดารัตน์ ในช่วงตกต่ำที่สุดในเรื่องการเมืองและภัยส่วนตัว มีคุณหญิงสุดารัตน์ที่โอบอุ้มมาโดยตลอด อีกทั้งพรรคไทยสร้างไทยเป็นแบบอย่างในการเรียกร้องประชาธิปไตย ตั้งแต่ปี 2535 สมันตนอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็ได้เห็นมาตลอด ในการต่อสู้ทางการเมืองของคุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งตนเป็น ส.ส. มา 3 สมัย อยู่เคียงข้างประชาชนมาตลอด