บิ๊กแมตช์ เมืองฟ้าอมร! ศึกวัดพลัง ‘เจ้าพ่อ-เจ้าแม่นครบาล’ สลายทัพ ‘ทหารเสือ กปปส.’

25 มกราคม 2566 - 10:09

Keyman-BKK-Thai-Party-Election-SPACEBAR-Thumbnail
  • เรียกว่า ‘บิ๊กแมตช์’ เมืองฟ้าอมร ศึกวัดพลังระหว่าง ‘เจ้าพ่อ-เจ้าแม่นครบาล’ ในวันสลายทัพ ‘ทหารเสือ กปปส.’ ในการเลือกตั้งใหญ่ สนาม กทม. ปีนี้ ที่แต่ละพรรคต่างเห็น ‘โอกาส’ ช่วงชิงคะแนน-พื้นที่ เพราะสนาม กทม. ไม่มีใครเป็น ‘เจ้าของพื้นที่’ แถมมี ส.ส. 33 คน แต่คนที่จะมานำทัพจะต้องเป็น ‘ตัวจริง’ ในสนามนี้ เพราะเป็นพื้นที่ ‘ปราบเซียน’

สนามเลือกตั้ง กทม. กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังผ่านพ้นสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพฯ (สก.) เมื่อปีที่แล้ว หากย้อนไปในการเลือกตั้งใหญ่ปี 62 ที่เรียกว่า ‘หักปากกาเซียน’ สร้างปรากฏการณ์ที่ทำให้ ‘นักเลือกตั้ง’ ต้องประเมินสนาม กทม. กันใหม่ หลังผลเลือกตั้งออกมาพบว่า ‘พรรคประชาธิปัตย์’ ถึงขั้น ‘สูญพันธุ์’ ในพื้นที่ กทม. ไม่ได้ ส.ส.กรุงเทพฯ แม้แต่คนเดียว 

กลายเป็นสนามรบ ‘เชิงอุดมการณ์’ เพราะพรรคพลังประชารัฐ ที่จุดกระแส ‘เลือกความสงบจบที่ลุงตู่’ ได้ไป 12 ที่นั่ง ส่วนอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่มีกระแส ‘ธนาธรฟีเวอร์’ และพรรคเพื่อไทย ได้ ส.ส. พรรคละ 9 ที่นั่ง แต่ในการเลือกตั้งปี 66 ที่มีการเพิ่มจำนวน ส.ส.เขต จาก 350 เขต เป็น 400 เขต ทำให้เก้าอี้ ส.ส.กรุงเทพฯ เพิ่มจาก 30 เป็น 33 ที่นั่ง ถือว่าเป็น ‘เค้กก้อนใหญ่’ ที่แต่ละพรรคหวังจับจ้อง และต่างมองว่าพื้นที่ กทม. เป็นเรื่องของ ‘กระแส-นโยบาย’ เป็นหลัก ไม่มีใครเป็น ‘เจ้าของพื้นที่’ ตายตัว 

ในครั้งนี้แต่ละพรรคจึงได้วาง ‘แม่ทัพ-เจ้าพ่อ’ ที่จะมาวางยุทธศาสตร์สนาม กทม. ซึ่งแต่ละพรรคได้ดึง ‘ขุนพล-คีย์แมน’ ที่เชี่ยวชาญพื้นที่ กทม. มานำทัพทั้งสิ้น เริ่มจากการล่มสลายของ ‘ทหารเสือ กปปส.’ ที่กระจัดกระจายไปหลายพรรค เริ่มจาก ‘บี’ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ที่ไปซบ ‘พรรคภูมิใจไทย’ แยกทางจาก พปชร. กับขั้วอำนาจ 3ป. หากไป ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ก็มีคนที่ดูแลพื้นที่ กทม. อยู่แล้ว โอกาสที่จะกลับไป พปชร. ก็ยาก เพราะ ‘บี-พุทธิพงษ์’ มาจากสาย ‘บิ๊กตู่’ นั่นเอง 

ในฝั่ง ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ที่มองพื้นที่ กทม. มีความสำคัญ เพราะเป็นอีกฐานที่มั่น แม้ผลจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.-สก. ที่ต้านกระแส ‘ชัชชาติฟีเวอร์’ ไม่ไหว อีกทั้ง ‘เรตติ้ง’ ของฝั่ง ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ที่ตกต่ำ ทำให้ขั้วอำนาจ 3ป. แพ้ราบคาบ แม้แต่เก้าอี้ สก. ก็เป็นของ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ชนิดที่ว่า ‘แลนด์สไลน์’ ทำให้การเลือกตั้งใหญ่ปีนี้ ทั้ง ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’หน.รวมไทยสร้างชาติ กับ ‘ขิง’เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการ รทสช. มาดูแลพื้นที่ กทม. เอง ซึ่งทั้งคู่เป็นศิษย์เก่า ปชป. 

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ใช้คนคุ้นเคย ที่รีเทิร์นกลับพรรคอีกครั้ง นั่นคือ ‘จั้ม สกลธี ภัททิยกุล’อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. หนึ่งในอดีต ‘ทหารเสือ กปปส.’ ที่เคยลาออกจาก พปชร. ไปลงชิงผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งในครั้งนี้ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้า พปชร. ได้มอบให้ ‘สกลธี’ ดูแลพื้นที่ กทม. กับ ‘อ.แหม่ม’ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค เหตุผลที่ ‘สกลธี’ ไป รทสช. ไม่ได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะมี ‘เอกนัฏ-พีระพันธุ์’ รับผิดชอบอยู่แล้ว อีกทั้ง ‘สกลธี’ ยังเป็นลูกชาย พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตเลขาธิการ สมช. เพื่อน ตท.6 กับ พล.อ.ประวิตร 

ในฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบให้ ‘ดร.เอ้’ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนาม ปชป. ที่ฟื้นศรัทธา ปชป. ในสนาม กทม. ขึ้นมาอีกครั้ง ที่พรรคได้คะแนนมาเป็นที่ 2 และได้ สก. มาอีก 7 คน ล่าสุดได้ ‘มาดามเดียร์’ วทันยา บุนนาค มาเสริมทัพด้วย โดยมี ‘องอาจ คร้ามไพบูลย์’ รองหัวหน้า ปชป. ดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ เป็น ‘พี่เลี้ยง’ 

มากันที่ ‘พรรคเพื่อไทย’ ต้องยกให้ ‘เจ๊แจ๋น’ พวงเพ็ชร ชุนละเอียด สายตรง ‘ทักษิณ’ เพราะเป็นมือขวาของ ‘เฮียเพ้ง’ พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ที่ถนัดทำงานการเมืองเบื้องหลัง แต่วันนี้ ‘เจ๊แจ๋น’ เปิดหน้า ทำงานการเมืองสนาม กทม. หลังเคยเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ส.ก. พรรคเพื่อไทย การันตีด้วยผลงาน ‘แลนด์สไลด์’ ในสนาม สก. รวมทั้ง ‘ศึกหลักสี่’ เลือกตั้งซ่อม เมื่อต้นปี65 ที่พรรคเพื่อไทย ทวงคืนพื้นที่จาก พปชร. มาได้ 

สุดท้ายที่ ‘พรรคก้าวไกล’ ใช้ไอคอนของพรรค นั่นคือ ‘วิโรจน์ ลักขณาอดิศร’ หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายกรุงเทพฯ ที่เคยปักธงสนาม กทม. ให้กับพรรคก้าวไกล หลัง ‘วิโรจน์’ สร้างกระแสให้กับพรรคก้าวไกลในสนาม กทม. ทวงคืนกระแสนิยมเฉกเช่น ‘อดีตพรรคอนาคตใหม่’ อีกครั้ง โดย ‘วิโรจน์’ ได้ลงชิงผู้ว่าฯ กทม. ได้คะแนนมาลำดับที่ 3 เป็นรอง ‘ดร.เอ้’ จาก ปชป. ที่ได้ที่ 2 เพียง 800 คะแนน เท่านั้น 

ดังนั้นสนาม กทม. ในการเลือกตั้งใหญ่ปีนี้ ดุเดือดแน่นอน แต่ละพรรคใส่ไม่ยั้ง จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร ยิ่งกว่าสนามผู้ว่าฯ กทม.-สก. ก่อนหน้านี้แน่นอน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์