‘กิตติศักดิ์’ ลั่นไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ท้าฟ้องพิสูจน์ปมพิพาท ‘วัดบางคลาน’

19 กันยายน 2566 - 10:47

Kittisak-reiterated-that-not-violate-the-ethics-of-senator-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ‘กิตติศักดิ์’ ลั่น สว.ไม่ได้อุ้ม เพราะไม่ได้ทำผิด ยันไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล

  • บอกทำหน้าที่ดูแลประชาชน หลังพบเงื่อนงำ ‘เจ้าอาวาส’ ทำพระเครื่องขายไม่ผ่านพิธีและไม่เอาเงินเข้าวัด

  • ท้าหากไม่จริง ขอให้ไปฟ้องเพื่อพิสูจน์กันในชั้นศาล มั่นใจเรื่องจบด้วยกฎหมาย

กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ประเด็น สว.มีการ อุ้ม กิตติศักดิ์ ว่าไม่ผิดจริยธรรม กรณีเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่วัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จ.พิจิตร โดย กิตติศักดิ์ กล่าวติดตลกว่า เจ้าตัวมีน้ำหนักถึง 84 กิโล ใครจะอุ้มไหว และยืนยันว่า ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีการลงมติเรื่องร้องเรียนจริยธรรม ของคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมประชุม จึงไม่ทราบว่าผลออกมาเป็นอย่างไร มาทราบจากสื่อฯ เท่านั้น และไม่ทราบบรรยากาศในห้องประชุม

ทั้งนี้ เห็นว่าคนที่ไปร้องกล่าวหานั้นไม่มีข้อมูล ดังนั้น จะผิดได้อย่างไร โดยเฉพาะกรณีที่กล่าวหาว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ไปขัดขวางการดำเนินการของเจ้าอาวาสคนใหม่ ซึ่งก็มีการสอบแล้ว ไม่เป็นความจริง พร้อมพูดติดตลกว่า “ผมน่ารักจะตาย

ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านออกมาขับไล่ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวนั้น กิตติศักดิ์ ชี้แจงว่า เรื่องนี้ต้องถามเจ้าอาวาสคนใหม่ เพราะสืบแล้วว่าเจ้าอาวาสคนใหม่ ไปจ้างคนที่อื่นมา ไม่ใช่ชาวบ้านจริงๆ ที่อยู่ในวัด 400-500 คน และการที่มาชูป้ายขับไล่ตนก็ไม่มีผลอะไร เพราะตอนไปตะโกนขับไล่ตนอยู่ที่สภาฯ แต่มีความพยายามใส่ร้ายตน อย่างไรก็ตาม ให้ทนายความเก็บรวบรวมข้อมูลทุกอย่างไว้แล้ว และให้ดำเนินคดีกับทุกคน

“ความจริงแล้ว เจ้าอาวาสกับกลุ่มนี้ไม่กี่คน เขามีคนมีปัญหากับชาวบ้าน ไม่ได้มีปัญหากับ สว. จะมาบุกวัดไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งแล้ว แต่ สว.ไม่เคยอยู่ สว.ก็ติดประชุมก็มีงาน มีวันนั้นแหละ ไปชี้หน้านั้นแหละ ไม่ตบเอาก็บุญแล้ว พระนั้นนะ เพราะอะไรผมไม่รู้มาก่อนว่าจะไป ไปถึงปุ๊บ บอกโยมมาทำไม มาก็ดีแล้ว เปิดประตูให้ด้วย เป็นพระเล็กๆ แล้วมาชี้นิ้วใช้ผมให้เปิดประตู มันใช่ไหมละ ในคลิปมีนี่ เปิดประตูเลย เปิดประตูให้หน่อย มันใช่ไหมละ แล้วผมเป็นผู้ใหญ่ เราไม่เคยไปพูดไปอะไรกับเจ้าอาวาสเลย แต่กลับเดินปรี่มาหาผมแล้วบอกว่า โยมมาทำไม ผมจึงตอบไปว่า เอ๊ะ นี่วัดเข้ามาไม่ได้หรืออย่างไร ดังนั้น เราต้องฟังความจริงนะ และอีกอย่างนึงคือ ถ้าพระดี ทำไมเข้าวัดไม่ได้”  กิตติศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ยืนยันว่า เรื่องนี้ต้องจบแน่นอน โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. งานเบาลงแล้ว เข้ามาตรวจสอบทรัพย์สินและดำเนินคดีกับกลุ่มเจ้าอาวาสเหล่านี้ เพราะมีการทุจริตมีการจำหน่ายพระหลายร้อยล้าน ซึ่งได้ตรวจสอบแล้ว ไม่นำเงินเข้าวัด ดังนั้น ต้องถูกดำเนินคดีหมด พร้อมยืนยันว่า ชาวบ้านและอดีตเจ้าอาวาสที่ได้มรณภาพไปแล้ว ปฏิบัติตามคำสั่งศาลฎีกา

และที่อ้างว่าส่งมอบทรัพย์สินไม่หมด ขอยืนยันว่า ส่วนสุดท้ายที่มีงาช้าง ก็ส่งมอบแล้ว โดยเจ้าอาวาสคนใหม่เซ็นรับ จึงถือว่าชุดเก่าได้ส่งมอบทรัพย์สินไปหมดแล้ว ต่อไปนี้ จะเป็นการตรวจสอบเจ้าอาวาสชุดใหม่และพวก ถึงสินทรัพย์ที่ส่งมอบไปทั้งหมด พร้อมเปิดเผยได้ว่า ที่ไม่พอใจตนเอง เป็นเพราะมีการจัดทำพระที่ไม่ได้เข้าพิธีกรรม

“มีสายแจ้งมาที่ผมว่า น่าจะมีมูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งทราบว่าขณะนี้ พระดังกล่าวกองอยู่จำนวนมาก เจ้าอาวาสและพวกจึงพยายามจะเข้ามาขน พระเครื่องเหล่านี้ซึ่งเก็บไว้เต็ม 3 - 4 ห้อง”  กิตติศักดิ์ กล่าว

กิตติศักดิ์ ยืนยันด้วยว่า ที่ออกมาคัดค้านเรื่องนี้ เพราะเป็น สว.ที่ดูแลประชาชน ซึ่งพระเหล่านี้ ใช้เงินบริจาคมาจ้างทนายไว้ 3 คน เตรียมฟ้องร้องชาวบ้าน เพราะไม่อยากให้มาเห็นว่า มีการทำพุทธพาณิชย์ ขายพระแล้วเอาเงินไปแบ่งกัน และในส่วนของคณะกรรมการชุดเก่า และเจ้าอาวาสที่มรณภาพไปแล้ว ได้ส่งมอบบัญชีเงิน 106 ล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ย พร้อมวัตถุมงคลจำนวนมากครบทุกชิ้นแล้ว

“ดังนั้น อย่ากล่าวหาว่ามีประโยชน์เลย เข้าไปทำบุญยังถูกแจ้งจับ”  กิตติศักดิ์ กล่าว

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจะกู้ศรัทธามาได้อย่างไรนั้น กิตติศักดิ์ บอกว่า ความจริงก็คือความจริง ซึ่งตนอยู่กับความเป็นจริง และทราบว่าสำนักพระพุทธศาสนาได้ขึ้นบัญชีดำพระเหล่านี้ไว้แล้ว แต่ยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามมติของมหาเถรสมาคม

“คนเหล่านี้กระด้างกระเดือง ไม่ยอมรับคำตัดสินใดๆ ดังนั้น สิ่งที่จะจบได้ก็คือกฎหมาย โดยดำเนินคดีกับคนที่ทุจริตเงินวัด จำหน่ายวัตถุมงคลแล้วเงินไม่เข้าบัญชีวัด”  กิตติศักดิ์ กล่าว

พร้อมกันนี้ ได้ท้าให้เจ้าอาวาสคนใหม่และคณะ ฟ้องร้องในสิ่งที่เจ้าตัวนำมาเปิดเผย เพราะมีหลักฐานทั้งหมด จะได้ไปพิสูจน์กันในชั้นศาล ทั้งนี้ ยังมีข้อมูลว่า เจ้าอาวาสซื้อที่ดินข้างวัดโดยไม่จำเป็น ราคาไร่ละ 5-6 หมื่นบาท แต่กลับนำเงินบริจาคไปซื้อไร่ละ 1 ล้านบาท และมีเงินทอน ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ถึงมือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์