กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) แถลงเปิดตัว วรนัยน์ (โก้) วาณิชกะ อดีตหัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด พร้อมสมาชิกที่มาจากพรรครวมไทยยูไนเต็ดอีก 3 คน คือ กอบกฤต สุขสถิตย์, วรธรรม แซ่โง้ว และ ปัญจเดช สิงห์โท เข้าร่วมงานกับพรรค ชพก. เพื่อร่วมสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งหน้า
โดยกรณ์ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคต้องย้ำอีกครั้งว่าชาติพัฒนากล้า คือพรรคของคนทุกรุ่น พร้อมทำงานกับคนทุกกลุ่ม ทุกวัย เรามีเป้าหมายในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยทุกคนให้ดีขึ้น
“ที่ผ่านมาเราได้พยายามทำงานในหลายเรื่อง และจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทั้งปัญหาของแพง ความมั่นคงในชีวิตของประชาชนในวัยทำงาน และผู้สูงอายุ ที่มีความกังวลว่าในอนาคตจะมีใครมาดูแลเขาหรือไม่ และคนรุ่นใหม่ที่รู้สึกขาดโอกาส ขาดความหวัง ซึ่งทั้งหมด เป็นเหตุให้คนไทย รอคอยโอกาส ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้นั่นคือการเลือกตั้ง หมดยุคแล้วที่จะหวังอัศวินม้าขาวหรือใครคนใดคนหนึ่งที่จะมาแก้ปัญหาในทุกเรื่องให้กับเรา ประสบการณ์หลายปีที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน ต้องมีความเป็นทีมที่จะสามารถขับเคลื่อนเรื่องยากๆ และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน”
หัวหน้าพรรค ชพก. กล่าวว่า ทีมจะต้องมาหนุนเสริม 4 ปัจจัยหลักคือ
1. คือจินตนาการ อุดมการณ์ ความคิด ความฝันและความเข้าใจ ในโลกที่เปลี่ยนไปในเรื่องของเทคโนโลยี และจะเอาความเปลี่ยนแปลงนั้นมาทำให้ประโยชน์ให้กับประชาชนและขับเคลื่อนประเทศได้อย่างไร
2. ประสบการณ์ เป็นสิ่งสำคัญที่จะแปรความคิดความฝันไปสู่ความเป็นจริง ต้องบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างไร
3. ต้องมีความมุ่งมั่นที่จะทำเรื่องยากได้
4. สำคัญมากคือต้องมีไฟ มีกำลังแรงกล้าที่จะลงมือ ซึ่งเมื่อเรามอง ปัจจัยเหล่านี้จะเห็นว่ามีความสำคัญอย่างมาก วันนี้เราพูดได้เลยว่าพรรคชาติพัฒนากล้าเรามีครบทุกองค์ประกอบที่พร้อมจะทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้กับบ้านเมือง สร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชน ทำให้คนรุ่นใหม่ มีความรู้สึกมีความหวัง อนาคตของตัวเองและบ้านเมือง
ด้านวรนัยน์ กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเข้าร่วมงานพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า จากการพูดคุยกับกรณ์ ตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านพบว่า มีความคลิกกันในเรื่องของแนวคิดนโยบายที่พร้อมพลิกโฉมประเทศไทย พลิกโฉมคุณภาพชีวิตของคนไทย โดยอาศัยความร่วมมือกันทั้งประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของการกระจายอำนาจ เปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกตั้งผู้ว่าฯ เลือกอนาคตของตัวเอง
นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องการสร้างรายได้เข้าประเทศ จากการสนับสนุนการเปิดคาสิโนเสรี ที่สามารถนำรายได้มาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้ นโยบาย Soft Power ของไทย ที่ขับเคลื่อนโดยกลุ่ม LGBT+ ที่เรามีอยู่แล้ว และสอดคล้องกับแนวคิดของนายกรณ์เรื่องเศรษฐกิจสีรุ้ง Rainbow Economy ที่สามารถต่อยอดได้มากมาย ทั้งวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสถานะทางการเมือง แต่ทุกอย่างไม่สามารถเป็นไปได้ถ้าวันนี้ยังไม่มีความเท่าเทียม ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานั้นต้องดำเนินการโดยรัฐ
“และสิ่งที่ผมและทีมงานคนรุ่นใหม่ไม่ได้จำกัดอายุ จะลุยทำโครงการ My Life My Goal ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เราจะพิสูจน์ว่าไม่ใช่โครงการที่พูดอย่างเดียว แต่จะทำให้เห็นว่า ชีวิตนี้ ประเทศนี้เป็นของทุกคน และผมก็พร้อมทำงานโดยไม่สนใจว่าจะต้องมีตำแหน่งใดๆ ในพรรค” วรนัยน์ กล่าว
โดยกรณ์ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคต้องย้ำอีกครั้งว่าชาติพัฒนากล้า คือพรรคของคนทุกรุ่น พร้อมทำงานกับคนทุกกลุ่ม ทุกวัย เรามีเป้าหมายในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยทุกคนให้ดีขึ้น
“ที่ผ่านมาเราได้พยายามทำงานในหลายเรื่อง และจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทั้งปัญหาของแพง ความมั่นคงในชีวิตของประชาชนในวัยทำงาน และผู้สูงอายุ ที่มีความกังวลว่าในอนาคตจะมีใครมาดูแลเขาหรือไม่ และคนรุ่นใหม่ที่รู้สึกขาดโอกาส ขาดความหวัง ซึ่งทั้งหมด เป็นเหตุให้คนไทย รอคอยโอกาส ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้นั่นคือการเลือกตั้ง หมดยุคแล้วที่จะหวังอัศวินม้าขาวหรือใครคนใดคนหนึ่งที่จะมาแก้ปัญหาในทุกเรื่องให้กับเรา ประสบการณ์หลายปีที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน ต้องมีความเป็นทีมที่จะสามารถขับเคลื่อนเรื่องยากๆ และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน”
หัวหน้าพรรค ชพก. กล่าวว่า ทีมจะต้องมาหนุนเสริม 4 ปัจจัยหลักคือ
1. คือจินตนาการ อุดมการณ์ ความคิด ความฝันและความเข้าใจ ในโลกที่เปลี่ยนไปในเรื่องของเทคโนโลยี และจะเอาความเปลี่ยนแปลงนั้นมาทำให้ประโยชน์ให้กับประชาชนและขับเคลื่อนประเทศได้อย่างไร
2. ประสบการณ์ เป็นสิ่งสำคัญที่จะแปรความคิดความฝันไปสู่ความเป็นจริง ต้องบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างไร
3. ต้องมีความมุ่งมั่นที่จะทำเรื่องยากได้
4. สำคัญมากคือต้องมีไฟ มีกำลังแรงกล้าที่จะลงมือ ซึ่งเมื่อเรามอง ปัจจัยเหล่านี้จะเห็นว่ามีความสำคัญอย่างมาก วันนี้เราพูดได้เลยว่าพรรคชาติพัฒนากล้าเรามีครบทุกองค์ประกอบที่พร้อมจะทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้กับบ้านเมือง สร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชน ทำให้คนรุ่นใหม่ มีความรู้สึกมีความหวัง อนาคตของตัวเองและบ้านเมือง
ด้านวรนัยน์ กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเข้าร่วมงานพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า จากการพูดคุยกับกรณ์ ตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านพบว่า มีความคลิกกันในเรื่องของแนวคิดนโยบายที่พร้อมพลิกโฉมประเทศไทย พลิกโฉมคุณภาพชีวิตของคนไทย โดยอาศัยความร่วมมือกันทั้งประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของการกระจายอำนาจ เปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกตั้งผู้ว่าฯ เลือกอนาคตของตัวเอง
นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องการสร้างรายได้เข้าประเทศ จากการสนับสนุนการเปิดคาสิโนเสรี ที่สามารถนำรายได้มาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้ นโยบาย Soft Power ของไทย ที่ขับเคลื่อนโดยกลุ่ม LGBT+ ที่เรามีอยู่แล้ว และสอดคล้องกับแนวคิดของนายกรณ์เรื่องเศรษฐกิจสีรุ้ง Rainbow Economy ที่สามารถต่อยอดได้มากมาย ทั้งวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสถานะทางการเมือง แต่ทุกอย่างไม่สามารถเป็นไปได้ถ้าวันนี้ยังไม่มีความเท่าเทียม ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานั้นต้องดำเนินการโดยรัฐ
“และสิ่งที่ผมและทีมงานคนรุ่นใหม่ไม่ได้จำกัดอายุ จะลุยทำโครงการ My Life My Goal ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เราจะพิสูจน์ว่าไม่ใช่โครงการที่พูดอย่างเดียว แต่จะทำให้เห็นว่า ชีวิตนี้ ประเทศนี้เป็นของทุกคน และผมก็พร้อมทำงานโดยไม่สนใจว่าจะต้องมีตำแหน่งใดๆ ในพรรค” วรนัยน์ กล่าว
