ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (ประธานวิปฝ่ายค้าน) เผยความคืบหน้าการเจรจาเพื่อจัดสรรโควต้าประธานกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ 35 คณะ ว่า การเจรจากับพรรคการเมืองที่ต้องการประธาน กมธ.ตรงกันกับพรรคก้าวไกล นั้นเป็นไปได้ด้วยดี และคาดว่าจะมีข้อยุติได้ก่อนวันที่ 21 ก.ย.นี้ ตามที่ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 นัดหารือเรื่องดังกล่าว เป็นรอบที่ 3
พร้อมยอมรับว่า มีอีก 3 กมธ. ที่ยังอยู่ระหว่างเจรจา คือ กมธ.การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ, กมธ.แรงงาน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องการ และ กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่พรรคเพื่อไทยต้องการ แต่เชื่อว่าการนัดเจรจาระหว่างพรรคการเมืองในวันนี้ (20 ก.ย.) จะหาข้อยุติได้
ส่วนโควตาประธาน กมธ.ของพรรคก้าวไกลนั้น หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลเลือกตั้งซ่อม สส.ระยองแล้ว เมื่อ 19 ก.ย. ทำให้พรรคต้องได้โควตาเพิ่มอีก 1 คณะ เป็น 11 คณะ อย่างไรก็ดี ไม่จำเป็นต้องคำนวณโควตาใหม่ เพราะตามสัดส่วนแล้ว จะทำให้โควตาประธาน กมธ.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ลดไป 1 ที่นั่ง ดังนั้น ใช้การเจรจาระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรครวมไทยสร้างชาติ เท่านั้น
สำหรับกรณีที่ พิเชษฐ์ เตรียมใช้ 'กล่องสุ่ม' เพื่อยุติข้อขัดแย้งนั้น พรรคก้าวไกลไม่ขัดข้อง หากจะใช้วิธีการดังกล่าว หากให้นำชื่อ กมธ. 35 คณะ ใส่กล่อง และให้พรรคจับสลากตามจำนวนประธาน กมธ.ที่ได้รับ เช่น พรรคก้าวไกลได้ 11 คณะ ให้จับครั้งเดียว 11 คณะ, พรรคเพื่อไทยได้ 10 คณะ ให้จับครั้งเดียวทั้งหมด แต่ต้องถามว่าพรรคการเมืองอื่นยอมรับหรือจะมีปัญหาหรือไม่
“มองว่ามีแนวทางออกอื่นที่จบได้เร็ว เช่น ให้นำชื่อ กมธ.เฉพาะที่มีความต้องการเหมือนกัน ใส่ในกล่องและให้จับสลาก ซึ่งผมมองว่า ทุกพรรคได้ประโยชน์ ยกเว้น พรรคก้าวไกล” ปกรณ์วุฒิ ระบุ

‘รองประธานสภาฯ’ ขีดเส้นโควต้า ‘ประธาน กมธ.’ ขึ้นอยู่กับ ‘สส.ระยอง ก้าวไกล’ รายงานตัวสภาฯ พรุ่งนี้ ทันหรือไม่
พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ชี้แจงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดระยอง ทำให้พรรคก้าวไกล ได้ สส.เพิ่มอีก 1 คน จะส่งผลต่อการได้เก้าอี้ประธานกรรมาธิการ เพิ่มอีก 1 คณะหรือไม่
โดย พิเชษฐ์ ระบุว่า ถ้า กกต.รับรองเรียบร้อยแล้ว หากทางพรรคก้าวไกลมายื่นเอกสารต่อสภาฯ และสภาฯ รับรอง ก็เป็นไปตามโควต้า แต่ถ้าพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) มายื่นไม่ทัน ก็ยังถือว่าเป็นไปตามจำนวน 499 คน เหมือนเดิม
“ดังนั้น ขึ้นอยู่กับทางพรรคก้าวไกล ว่าจะมายื่นเอกสารทันหรือไม่ แต่หากยื่นทันก็จะเป็นไปสัดส่วน ซึ่งถือว่ายุติธรรมที่สุดแล้ว ในการใช้หลักการของ กตต. การจับฉลาก ใครจะพอใจหรือไม่ เป็นเรื่องของแต่ละพรรคจะพิจารณา” พิเชษฐ์ กล่าว