










ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. ... วาระ 2 ตามที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแล้วเสร็จ โดยเริ่มจากเรื่องคำปรารภ หลักการและเหตุผล เรื่องวัตถุประสงค์การใช้กัญชาทางการแพทย์ ซึ่ง ส.ส.ส่วนใหญ่ อภิปรายสนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์ แต่ไม่สนับสนุนการใช้กัญชาเสรี บางส่วนมองว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเปิดช่องนำไปสู่การใช้กัญชาในทางสันทนาการ เป็นสิ่งเสพติดไปสู่เยาวชน ไม่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ แต่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคนบางกลุ่มเท่านั้น
อาทิ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ร่างกฎหมายนี้หละหลวม ไม่ผ่านความเห็นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 เพราะเร่งรีบเสนอ วัตถุประสงค์ตามไม่ได้ระบุให้ใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น แต่เปิดช่องให้นำกัญชาไปใช้ทางนันทนาการได้ สถานการณ์จริงขณะนี้คือ กัญชาเสรีสุดขั้ว ไม่รู้จะควบคุมให้ใช้ทางการแพทย์ได้จริงหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ใช่การเมือง แต่เอากัญชาไปเสี่ยงกับอนาคตเยาวชนทั้งประเทศ
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายว่า ทราบว่า มีรัฐมนตรีบางคนให้ญาติไปตั้งบริษัท ที่อาจนำไปสู่การค้ากัญชาเสรี เตรียมขยายจากทางการแพทย์เพื่อไปสู่อุตสาหกรรม ฝ่ายนิติบัญญัติต้องออกกฎหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ดีกว่าออกกฎหมายมาส่งเสริม ทำลายความเป็นมนุษย์
ขณะที่ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้ เป็นอันตรายต่อประเทศ ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะให้กัญชากลับเป็นยาเสพติดแน่นอน
ทั้งนี้ หลังจาก ส.ส.อภิปรายครบถ้วนแล้ว ได้ลงมติเห็นชอบคำปรารภของร่างกฎหมายดังกล่าว
ต่อมา เมื่อเข้าสู่การพิจารณามาตรา 3 ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ แจ้งต่อที่ประชุมว่า จากการหารือ กมธ.มีมติให้ตัดมาตรา 3 “ให้กัญชา กัญชง ไม่ถือเป็นยาเสพติดให้โทษ ตามพ.ร.บ.ฉบับนี้” ทิ้งทั้งมาตรา ตามข้อห่วงใยของสมาชิกหลายคน เพื่อให้กฎหมายเดินหน้าต่อไปได้ แต่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ทักท้วงขอให้พักการประชุม เพื่อให้ กมธ.ไปดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามกระบวนการ
ขณะที่ พิเชษฐ์ อภิปรายเสริม โดยอ้างทราบว่าการตัดมาตรา 3 ทิ้งทั้งวรรค ไม่ใช่มติ กมธ. เป็นเพียงการพูดคุยหารือกันเฉยๆ อยากขอดูมติดังกล่าวมีอยู่จริงหรือไม่ ในที่สุด ศุภชัย ก็ยอมรับ กมธ.ยังไม่มีมติดังกล่าว เป็นเพียงการพูดคุยหารือเท่านั้น ขออนุญาตพักประชุม 20 นาที ให้ กมธ.กลับไปแก้ไขทำเป็นมติอย่างถูกต้องตามกระบวนการ ภายหลังพักประชุม 20 นาที ศุภชัย กลับมาชี้แจงต่อที่ประชุมอีกครั้งว่า กมธ.มีมติตัดมาตรา 3 ทิ้งทั้งวรรคอย่างถูกต้องตามกระบวนการแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นประธานการประชุม ได้แจ้งวาระรับทราบต่อที่ประชุมสภาฯ เรื่องการสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 คน คือ แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2565 และ เดชทวี ศรีวิชัย ส.ส.ลำปาง พรรคเสรีรวมไทย โดยมีหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2565 เป็นผลให้สมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ แนน และ เดชทวี สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(3) ดังนั้น ขณะนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่าที่มีอยู่และปฏิบัติหน้าที่ได้คือ 471 คน องค์ประชุทกึ่งหนึ่ง 236 คน
อาทิ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ร่างกฎหมายนี้หละหลวม ไม่ผ่านความเห็นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 เพราะเร่งรีบเสนอ วัตถุประสงค์ตามไม่ได้ระบุให้ใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น แต่เปิดช่องให้นำกัญชาไปใช้ทางนันทนาการได้ สถานการณ์จริงขณะนี้คือ กัญชาเสรีสุดขั้ว ไม่รู้จะควบคุมให้ใช้ทางการแพทย์ได้จริงหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ใช่การเมือง แต่เอากัญชาไปเสี่ยงกับอนาคตเยาวชนทั้งประเทศ
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายว่า ทราบว่า มีรัฐมนตรีบางคนให้ญาติไปตั้งบริษัท ที่อาจนำไปสู่การค้ากัญชาเสรี เตรียมขยายจากทางการแพทย์เพื่อไปสู่อุตสาหกรรม ฝ่ายนิติบัญญัติต้องออกกฎหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ดีกว่าออกกฎหมายมาส่งเสริม ทำลายความเป็นมนุษย์
ขณะที่ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้ เป็นอันตรายต่อประเทศ ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะให้กัญชากลับเป็นยาเสพติดแน่นอน
ทั้งนี้ หลังจาก ส.ส.อภิปรายครบถ้วนแล้ว ได้ลงมติเห็นชอบคำปรารภของร่างกฎหมายดังกล่าว
ต่อมา เมื่อเข้าสู่การพิจารณามาตรา 3 ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ แจ้งต่อที่ประชุมว่า จากการหารือ กมธ.มีมติให้ตัดมาตรา 3 “ให้กัญชา กัญชง ไม่ถือเป็นยาเสพติดให้โทษ ตามพ.ร.บ.ฉบับนี้” ทิ้งทั้งมาตรา ตามข้อห่วงใยของสมาชิกหลายคน เพื่อให้กฎหมายเดินหน้าต่อไปได้ แต่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ทักท้วงขอให้พักการประชุม เพื่อให้ กมธ.ไปดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามกระบวนการ
ขณะที่ พิเชษฐ์ อภิปรายเสริม โดยอ้างทราบว่าการตัดมาตรา 3 ทิ้งทั้งวรรค ไม่ใช่มติ กมธ. เป็นเพียงการพูดคุยหารือกันเฉยๆ อยากขอดูมติดังกล่าวมีอยู่จริงหรือไม่ ในที่สุด ศุภชัย ก็ยอมรับ กมธ.ยังไม่มีมติดังกล่าว เป็นเพียงการพูดคุยหารือเท่านั้น ขออนุญาตพักประชุม 20 นาที ให้ กมธ.กลับไปแก้ไขทำเป็นมติอย่างถูกต้องตามกระบวนการ ภายหลังพักประชุม 20 นาที ศุภชัย กลับมาชี้แจงต่อที่ประชุมอีกครั้งว่า กมธ.มีมติตัดมาตรา 3 ทิ้งทั้งวรรคอย่างถูกต้องตามกระบวนการแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นประธานการประชุม ได้แจ้งวาระรับทราบต่อที่ประชุมสภาฯ เรื่องการสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 คน คือ แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2565 และ เดชทวี ศรีวิชัย ส.ส.ลำปาง พรรคเสรีรวมไทย โดยมีหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2565 เป็นผลให้สมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ แนน และ เดชทวี สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(3) ดังนั้น ขณะนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่าที่มีอยู่และปฏิบัติหน้าที่ได้คือ 471 คน องค์ประชุทกึ่งหนึ่ง 236 คน