







พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมแกนนำและ ส.ส.พรรคก้าวไกล เปิดเวทีปราศรัยแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดภาคอีสานตอนบน ได้แก่ บึงกาฬ, นครพนม และ สกลนคร ณ ลานตลาดนัด บ้านอีสานพัฒนา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
โดยหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า จังหวัดบึงกาฬ เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงมาก ทั้งอยู่สุดปลายอีสาน และกึ่งกลางอาเซียน มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างถ้ำนาคา แต่ที่ผ่านมา กลับไม่มีการส่งเสริมให้มีโครงสร้างที่รองรับจุดเด่นเหล่านี้ ในด้านการท่องเที่ยวของ จ.บึงกาฬ ทุกวันนี้ยังมีปัญหาโรงแรมไม่พอ ไม่มีตำแหน่งงานในภาคการท่องเที่ยวรองรับมากพอ
“ตนไปถามคนทำรีสอร์ตที่พักเมื่อคืน ทราบมาว่ายังมีข้าราชการมารีดไถ เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับโรงแรมมีข้อจำกัดและอุปสรรค ที่เอื้ออำนวยกับแค่โรงแรมขนาดใหญ่เท่านั้น” พิธา กล่าว
ดังนั้น นอกจากต้องกระจายงบประมาณที่เกี่ยวกับการโปรโมตการท่องเที่ยวลงมามากกว่าเดิมแล้ว ยังต้องแก้ พ.ร.บ.โรงแรม และทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก มีโอกาสทำมาหากินได้อย่างถูกกฎหมาย หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะผลักดัน ‘พ.ร.บ.โฮมสเตย์’ พร้อมแก้ ‘พ.ร.บ.โรงแรม’ ให้รองรับผู้ประกอบการขนาดเล็กทันที
พิธา ยังกล่าวถึงอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจหลักของ จ.บึงกาฬ คือยางพารา ซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหาราคาตกต่ำ มีโรงงานแปรรูปยางพาราแต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดปัญหาคดีความเกี่ยวกับการทุจริต นี่คือปัญหาที่ต้องแก้ด้วยการนำของรัฐบาล ด้วยวิสัยทัศน์ของพรรคก้าวไกล ในการ ‘สร้างงาน ซ่อมประเทศ’ โดยจะนำความต้องการและความขาดแคลนของประชาชนไปสู่การสร้างอุตสาหกรรม ทำให้เกิดอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์จากการแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า สนามเด็กเล่น ของเล่นเด็ก รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถ้ารัฐบาลมีวิสัยทัศน์มากพอเช่นนี้ จะสามารถทำให้ยางพาราราคาขึ้นได้แน่นอน
นอกจากนี้ จ.บึงกาฬ ยังมีปัญหาด้านสาธารณสุข ขณะที่อัตราจำนวนแพทย์ต่อหัวประชากรที่กรุงเทพมหานคร มีอยู่ 1 คนต่อคนไข้ 500 คน ที่บึงกาฬ หมอ 1 คนต้องดูแลคนไข้เกือบ 5,000 คน แย่เป็นอันดับสองของประเทศ ทำให้แพทย์ต้องทำงานเฉลี่ย 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำนวนคนไข้โรคหัวใจมากติด 5 อันดับแรกของประเทศตลอด พรรคก้าวไกลมีนโยบายกระจายงบประมาณลงมายังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพิ่มบุคลากรและลดเวลาการทำงานของหมอ ยกระดับ จ.บึงกาฬออกจากสถานะที่ตกต่ำด้านสาธารณสุขให้ได้
ส่วนปัญหาด้านที่ดินและการเกษตรของ จ.บึงกาฬ คือมีระบบชลประทานครอบคลุมพื้นที่เกษตรเพียงแค่ 1% เท่านั้น พร้อมชี้ให้เห็นว่า ที่ผ่านมา พรรคที่เป็นรัฐบาลบางพรรคมีสโลแกน ‘มีเราไม่มีแล้ง มีที่ทำกิน ไม่มีจน’ บอกว่าจะจริงจังกับการแก้ปัญหาแล้งให้มากขึ้น ตนไม่แน่ใจว่าเป็นการวางยาหรือไม่ แต่การพูดแบบนี้ แปลว่า 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้จริงจังกับการแก้ปัญหาใช่หรือไม่
“ที่บอกว่าจากนี้จะจริงจังมากขึ้น แปลว่า 8 ปีที่ผ่านมาคือจิงโจ้ใช่ไหม ชาวบึงกาฬพอได้หรือยังกับความไม่จริงจังแบบ 8 ปีที่ผ่านมา ที่แก้ปัญหาที่ดิน ปัญหาน้ำ ปัญหาหนี้สิน ทุกการเลือกตั้งคือโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลง อย่าปล่อยให้เขามาขี้ตั๋วเราได้อีก แค่ 8 ปีที่ผ่านมามันก็มากพอแล้ว” พิธา กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงเย็น พรรคก้าวไกลมีกำหนดเปิดเวทีที่ตลาดอำเภอเฝ้าไร่ จ.หนองคาย ส่วนผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ในจังหวัดบึงกาฬ นครพนม สกลนคร และหนองคาย ประกอบด้วย
บึงกาฬ
(1) นาวินทร์ ลครแก้ว (อ.เมือง)
(2) สำรวย ศรีทิน (บึงโขงโหลง เซกา)
(3) ณัฐพงษ์ ป้องปิ่น (โซ่พิสัย พรเจริญ)
นครพนม
(1) เทิดศักดิ์ แพงสาร (บ้านแพง นาทุม ศรีสงคราม นาหว้า)
(2) สุพิชญ์ชญา กิตติ์พรศิริกุล (อ.เมือง โพนสวรรค์ ท่าอุเทน)
(3) ศิริพงษ์ นาคงแนบ (ธาตุพนม เรณูนคร อ.เมืองบางส่วน)
(4) วุฒิพงษ์ มีบุญ (นาแก ปลาปาก วังยาก อ.เมืองบากส่วน)
สกลนคร
(1) วีระชน นามประกาย (อ.เมือง)
(2) ภูเบศวร์ เห็นหลอด (โคกศรี เต่างอย กุสุมาลย์ โพนนาแก้ว)
(3) ขจรศักดิ์ เบ็ญชัย (วาริชภูมิ ส่องดาว กุดบาก ภูพาน นิคมน้ำอูน)
(4) บัญชา จันทรศรี (สว่างแดนดิน)
(5) อภิชิต ถาบุตร (บ้านม่วง คำตากล้า)
(6) ภิญโญ ขันติยู (พรรณานิคม อากาศอำนวย)
(7) ปิยะศักดิ์ เดชทองทิพย์ (วานรนิวาส พังโคน เจริญศิลป์)
หนองคาย
(1) อภิญญา บุญจันทร์ (อ.เมือง สระใคร)
(2) แสวง ราชพลแสน (โพนพิสัย เฝ้าไร่ รัตนวาปี)
(3) จริวัฒน์ ตัณทรัตน์ (ท่าบ่อ ศรีเชียงใหม่ สังคม โพธิ์ตาก อ.เมืองบางส่วน)
โดยหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า จังหวัดบึงกาฬ เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงมาก ทั้งอยู่สุดปลายอีสาน และกึ่งกลางอาเซียน มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างถ้ำนาคา แต่ที่ผ่านมา กลับไม่มีการส่งเสริมให้มีโครงสร้างที่รองรับจุดเด่นเหล่านี้ ในด้านการท่องเที่ยวของ จ.บึงกาฬ ทุกวันนี้ยังมีปัญหาโรงแรมไม่พอ ไม่มีตำแหน่งงานในภาคการท่องเที่ยวรองรับมากพอ
“ตนไปถามคนทำรีสอร์ตที่พักเมื่อคืน ทราบมาว่ายังมีข้าราชการมารีดไถ เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับโรงแรมมีข้อจำกัดและอุปสรรค ที่เอื้ออำนวยกับแค่โรงแรมขนาดใหญ่เท่านั้น” พิธา กล่าว
ดังนั้น นอกจากต้องกระจายงบประมาณที่เกี่ยวกับการโปรโมตการท่องเที่ยวลงมามากกว่าเดิมแล้ว ยังต้องแก้ พ.ร.บ.โรงแรม และทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก มีโอกาสทำมาหากินได้อย่างถูกกฎหมาย หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะผลักดัน ‘พ.ร.บ.โฮมสเตย์’ พร้อมแก้ ‘พ.ร.บ.โรงแรม’ ให้รองรับผู้ประกอบการขนาดเล็กทันที
พิธา ยังกล่าวถึงอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจหลักของ จ.บึงกาฬ คือยางพารา ซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหาราคาตกต่ำ มีโรงงานแปรรูปยางพาราแต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดปัญหาคดีความเกี่ยวกับการทุจริต นี่คือปัญหาที่ต้องแก้ด้วยการนำของรัฐบาล ด้วยวิสัยทัศน์ของพรรคก้าวไกล ในการ ‘สร้างงาน ซ่อมประเทศ’ โดยจะนำความต้องการและความขาดแคลนของประชาชนไปสู่การสร้างอุตสาหกรรม ทำให้เกิดอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์จากการแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า สนามเด็กเล่น ของเล่นเด็ก รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถ้ารัฐบาลมีวิสัยทัศน์มากพอเช่นนี้ จะสามารถทำให้ยางพาราราคาขึ้นได้แน่นอน
นอกจากนี้ จ.บึงกาฬ ยังมีปัญหาด้านสาธารณสุข ขณะที่อัตราจำนวนแพทย์ต่อหัวประชากรที่กรุงเทพมหานคร มีอยู่ 1 คนต่อคนไข้ 500 คน ที่บึงกาฬ หมอ 1 คนต้องดูแลคนไข้เกือบ 5,000 คน แย่เป็นอันดับสองของประเทศ ทำให้แพทย์ต้องทำงานเฉลี่ย 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำนวนคนไข้โรคหัวใจมากติด 5 อันดับแรกของประเทศตลอด พรรคก้าวไกลมีนโยบายกระจายงบประมาณลงมายังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพิ่มบุคลากรและลดเวลาการทำงานของหมอ ยกระดับ จ.บึงกาฬออกจากสถานะที่ตกต่ำด้านสาธารณสุขให้ได้
ส่วนปัญหาด้านที่ดินและการเกษตรของ จ.บึงกาฬ คือมีระบบชลประทานครอบคลุมพื้นที่เกษตรเพียงแค่ 1% เท่านั้น พร้อมชี้ให้เห็นว่า ที่ผ่านมา พรรคที่เป็นรัฐบาลบางพรรคมีสโลแกน ‘มีเราไม่มีแล้ง มีที่ทำกิน ไม่มีจน’ บอกว่าจะจริงจังกับการแก้ปัญหาแล้งให้มากขึ้น ตนไม่แน่ใจว่าเป็นการวางยาหรือไม่ แต่การพูดแบบนี้ แปลว่า 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้จริงจังกับการแก้ปัญหาใช่หรือไม่
“ที่บอกว่าจากนี้จะจริงจังมากขึ้น แปลว่า 8 ปีที่ผ่านมาคือจิงโจ้ใช่ไหม ชาวบึงกาฬพอได้หรือยังกับความไม่จริงจังแบบ 8 ปีที่ผ่านมา ที่แก้ปัญหาที่ดิน ปัญหาน้ำ ปัญหาหนี้สิน ทุกการเลือกตั้งคือโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลง อย่าปล่อยให้เขามาขี้ตั๋วเราได้อีก แค่ 8 ปีที่ผ่านมามันก็มากพอแล้ว” พิธา กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงเย็น พรรคก้าวไกลมีกำหนดเปิดเวทีที่ตลาดอำเภอเฝ้าไร่ จ.หนองคาย ส่วนผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ในจังหวัดบึงกาฬ นครพนม สกลนคร และหนองคาย ประกอบด้วย
บึงกาฬ
(1) นาวินทร์ ลครแก้ว (อ.เมือง)
(2) สำรวย ศรีทิน (บึงโขงโหลง เซกา)
(3) ณัฐพงษ์ ป้องปิ่น (โซ่พิสัย พรเจริญ)
นครพนม
(1) เทิดศักดิ์ แพงสาร (บ้านแพง นาทุม ศรีสงคราม นาหว้า)
(2) สุพิชญ์ชญา กิตติ์พรศิริกุล (อ.เมือง โพนสวรรค์ ท่าอุเทน)
(3) ศิริพงษ์ นาคงแนบ (ธาตุพนม เรณูนคร อ.เมืองบางส่วน)
(4) วุฒิพงษ์ มีบุญ (นาแก ปลาปาก วังยาก อ.เมืองบากส่วน)
สกลนคร
(1) วีระชน นามประกาย (อ.เมือง)
(2) ภูเบศวร์ เห็นหลอด (โคกศรี เต่างอย กุสุมาลย์ โพนนาแก้ว)
(3) ขจรศักดิ์ เบ็ญชัย (วาริชภูมิ ส่องดาว กุดบาก ภูพาน นิคมน้ำอูน)
(4) บัญชา จันทรศรี (สว่างแดนดิน)
(5) อภิชิต ถาบุตร (บ้านม่วง คำตากล้า)
(6) ภิญโญ ขันติยู (พรรณานิคม อากาศอำนวย)
(7) ปิยะศักดิ์ เดชทองทิพย์ (วานรนิวาส พังโคน เจริญศิลป์)
หนองคาย
(1) อภิญญา บุญจันทร์ (อ.เมือง สระใคร)
(2) แสวง ราชพลแสน (โพนพิสัย เฝ้าไร่ รัตนวาปี)
(3) จริวัฒน์ ตัณทรัตน์ (ท่าบ่อ ศรีเชียงใหม่ สังคม โพธิ์ตาก อ.เมืองบางส่วน)