ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ศาลฎีกา สนามหลวง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นคำร้องกล่าวหาว่า กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผู้คัดค้าน ดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินในเลขที่ 41576, 41577, 41578, 41579 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยไม่ชอบ และที่ดินอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และแนวเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ จึงมิชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลฎีกา มีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่า ผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ให้ผู้คัดค้าน หยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ศาลฎีกา รับคำร้องจนกว่าจะมีคำพิพากษา ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกินสิบปี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 235 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 8 และข้อ 11, 17 ประกอบข้อ 27 ตามคดีหมายเลขดำที่ คมจ. 2/2565 ของศาลฎีกา
คดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาว่าจะมีคำสั่งรับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่
ก่อนหน้าคดีนี้ ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยกรณี กนกวรรณ วิลาวัลย์ ดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินในเลขที่ 41158 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี มาแล้ว ซึ่งคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างนัดไต่สวนพยานผู้ร้อง ส่วนคดีนี้ ผู้ร้องมีมติให้แยกข้อกล่าวหาออกเป็นคดีใหม่
ส่วนเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ศาลฎีกาเคยมีคำสั่งให้รับคำร้อง กับสั่งให้ กนกวรรณ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ในภายหลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเเละฟ้องดำเนินคดีอาญา
ให้ผู้คัดค้าน หยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ศาลฎีกา รับคำร้องจนกว่าจะมีคำพิพากษา ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกินสิบปี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 235 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 8 และข้อ 11, 17 ประกอบข้อ 27 ตามคดีหมายเลขดำที่ คมจ. 2/2565 ของศาลฎีกา
คดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาว่าจะมีคำสั่งรับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่
ก่อนหน้าคดีนี้ ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยกรณี กนกวรรณ วิลาวัลย์ ดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินในเลขที่ 41158 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี มาแล้ว ซึ่งคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างนัดไต่สวนพยานผู้ร้อง ส่วนคดีนี้ ผู้ร้องมีมติให้แยกข้อกล่าวหาออกเป็นคดีใหม่
ส่วนเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ศาลฎีกาเคยมีคำสั่งให้รับคำร้อง กับสั่งให้ กนกวรรณ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ในภายหลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเเละฟ้องดำเนินคดีอาญา