เรียกได้ว่าในประวัติศาสตร์การเมืองไทย พื้นที่ ‘ภาคใต้’ ถือเป็นฐานที่มั่นหลักของ ‘ประชาธิปัตย์’ ที่ไม่ว่าจะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ครองแชมป์ มีคำเปรียบเปรยว่าต่อให้ส่ง ‘เสาไฟฟ้า’ ลงแข่งก็ได้รับเลือก แต่เวลาผ่านไปการแข่งขันเริ่มเข้มข้นขึ้นในปี 2562 พรรคเก่าแก่ต้องเสียรังวัดหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ‘เมืองคอน’ หัวเมืองสำคัญที่ถูก ‘พลังประชารัฐ’ แหวกอก แบ่ง ส.ส.เข้าสภาไปคนละครึ่ง 4 ต่อ 4
ย้อนเกร็ดเล็กน้อยสำหรับ ‘นครศรีธรรมราช’ มีฐานะเป็นเมืองท่าสำคัญ มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์โด่งดังทั้ง จตุคามรามเทพ -ไอ้ไข่ เลื่องชื่อถิ่นเสือและอิทธิพล รวมถึงเป็นจุดที่การเมืองที่ร้อนแรง หากย้อนวันวาน ‘ปชป.’ เต็มแชมปฺ์ครองชัยมาโดยตลอด มี 2 รอบที่โดนเจาะไข่แดง ครั้งล่าสุดคือศึกเลือกตั้งปี 2562 ที่กล่าวไปย่อหน้าแรก และครั้งปฐม คือช่วงศึกการเลือกตั้ง ปี 2535 ที่ 3 นักการเมืองหน้าใหม่ สังกัด ‘พรรคพลังธรรม’ ได้แก่ ชำนิ ศักดิเศรษฐ์ - วิทยา แก้วภราดัย (ย้ายไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ในเวลาต่อมา) และสุธรรม แสงประทุม (ย้ายสังกัดไปพรรคไทยรักไทยในเวลาต่อมา) เบียดแย่งพื้นที่เมืองคอนได้สำเร็จ โดยขุนพลตรีเพชร ณ ที่นี่เป็นแกน ‘ส.ส. กลุ่มนกนางแอ่นลุ่มน้ำปากพนัง’ ที่ต่อมาจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวแปรสำคัญในการเลือกตั้งรอบนี้
หากพูดถึงจุดภูมิศาสตร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงเป็นพื้นที่สำคัญ ในเชิงเศรษฐกิจและแรงศรัทธา พูดขนาดพื้นที่ ถือว่าเป็น ‘บิ๊กไซต์’ ของปักษ์ใต้ เพราะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองรองมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี อย่างไรก็ดี จากการแบ่งเขตการเลือกตั้งของ กกต. ล่าสุด ทำให้พื้นที่ เมืองนครศรีฯ มีเขตเลือกตั้งมากที่สุดในแดนสะตอ คือ 10 เขต และการเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 เรียกได้ว่าสู้กันสุดฤทธิ์ 3 พรรคใหญ่ ได้แก่ พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ และรวมไทยสร้างชาติ
วัดกันด้วยขุมกำลังที่จะเข้าฟาดฟันในรอบนี้ อย่าง ‘พลังประชารัฐ’ ในรอบที่แล้ว สามารถกวาด ส.ส. เข้ากระเป๋าได้ 4 คน (3 คนจากการเลือกตั้งใหญ่ 1 คนจากเลือกตั้งซ่อม) ซึ่งในสายตาของนักรัฐศาสตร์มองว่า เป็นผลมาจากกระแส ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’ แต่ในปี 2566 นี้ ‘บิ๊กตู่’ เลือกลงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ มีขุนพลแปรพักตร์ย้ายตามไปด้วย
อย่างไรก็ดี ยังมี ‘รงค์ บุญสวยขวัญ’ ,‘สัจพจน์ สุขศรีเมือง’ และ ‘อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ’ อดีต ส.ส. เก่าที่ยังภัคดีต่อ ‘บิ๊กป้อม’ ลงป้องกันแชมป์ นอกจากนี้ยังมี ‘ฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง’ อดีต ส.ส. ประชาธิปัตย์ น้องสาว ‘สุรินทร์ พิศสุวรรณ’ อดีตแกนนำ ปชป. และเลขาธิการอาเซียนผู้ล่วงลับ
ขณะที่ แชมป์ร่วมเมืองคอนปี 2562 อย่าง ‘ประชาธิปัตย์’ เรียกว่า สูญเสียขุนพลจากวิกฤติเลือดทะลัก ตระกูลใหญ่ ‘แก้วภราดัย’ หนึ่งในหนึ่งกลุ่ม ส.ส.นกนางแอ่นลุ่มน้ำปากพนัง , ตระกูล ‘วิชัยกุล’ ของ ‘มาโนชญ์’ อดีต ส.ส. 9 สมัยผู้ล่วงลับ บิดาของ ‘ปุ้ย - พิมภัทรา วิชัยกุล’ ส.ส. แชมป์เก่า และ บ้านใหญ่ ‘เสนพงศ์’ ซึ่งทั้งหมดต่างย้ายสำมะโนไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์จะไร้คนมีชื่อสู้ศึก เพราะยังมี 2 ตระกูลเก่าแก่อย่าง ‘บุณยเกียรติิ์ - เดชเดโช’ ที่มีผู้แทนคนสำคัญเข้าไปทำงานในสภาฯ มาแล้ว อย่าง ‘ชินวรณ์ ‘บุณยเกียรติิ์’ และ ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ รวมถึงมี ‘ชำนิ ศักดิเศรษฐ์’ ส.ส. กลุ่มนกนางแอ่นลุ่มน้ำปากพนังเป็นแบ็กอัพให้ทัพหลวง
สำหรับพรรคการเมืองน้องใหม่ อย่าง ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ที่ประกาศปักธงเมืองนครศรีฯ หวังอิงกระแสนิยม ‘ประยุทธ์’ เรียกคะแนนเสียง ก็มีกำลังสำคัญที่ได้จากทั้งพลังประชารัฐ อย่า ‘สายันต์ ยุติธรรม’ ผู้ปวารณาตนเป็น ‘องครักษ์พิทักษ์ลุงตู่’ และมี ส.ส.ที่ย้ายมาจากประชาธิปัตย์ มี ‘ปุ้ย - พิภัทรา’ ที่กล่าวไปข้างต้น และว่าที่ผู้สมัครจากบ้านใหญ่ตระกูล ‘แก้วภราดัย - วิชัยกุล - เสนพงศ์’ คือ ‘พูน แก้วภราดัย’ ลูกชายวิทยา แก้วภราดัย -‘พงศ์สิน เสนพงศ์’ น้องชาย เทพไท เสนพงศ์ ในขณะที่พรรคนอกสายตาอย่างเพื่อไทย ก็มี ‘สุธรรม แสงประทุม’ อดีต ส.ส.ก๊วนนกนางแอ่นฯ เป็นแบ็กอัพ แต่คงเป็นไปได้ยากในการเอาชนะพรรคการเมืองทั้ง 3
‘สายัณห์ ยุติธรรม’ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ที่ปัจจุบันย้ายสังกัดตามสนับสนุน ‘ลุงตู่’ ณ บ้านหลังใหม่ พรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงความเห็นกับผู้เขียน ว่าในสนามการเลือกตั้งนครศรีธรรมราชรอบนี้ จะดุเดือดกว่าครั้งที่ผ่านมา เพราะ มี 3 พรรคใหญ่ห่ำหั่นหวังโกยแต้มให้มากที่สุด แต่การแข่งขันจริง ๆ จะอยู่ระหว่าง ปชป. กับ รทสช. เรียกได้ว่าเป็นศึก ใหญ่ชนใหญ่’ในส่วนพลังประชารัฐมีลุ้นไม่มาก เพราะขาด ‘บิ๊กตู่’ ในการเรียกคะแนนเสียง
ในส่วนนี้คิดว่าจะมีพรรคไหนสามารถสร้างปรากฏการณ์แลนสไดล์กวาดทั้งจังหวัดหรือไม่ สายัณห์ระบุว่าา ไม่มีพรรคไหนที่จะสามารถสร้างผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบนั้นได้ แต่พรรคที่มีหวังที่สุดคือพรรคที่สนับสนุน ‘ลุงตู่’ เท่านั้น
“ ไม่มีใครกวาดนครศรีธรรมราชได้ ถ้าจะกวาดได้ก็จะมีแค่ รทสช. เพราะผมเชื่อว่าคนนครฯ จะกาบัตรทั้ง 2 ใบไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งหากดูตามโพลสำรวจ จะเห็นว่า พลเอกประยุทธ์มาเป็นอันดับ 1 ดังนั้นผมเชื่อว่า เปอร์เซนต์การเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติและ ผู้สมัครฯ ของ รทสช. จะมาเหนือกว่าพรรคอื่นๆ ” สายันต์ ยุติธรรม กล่าว
ขณะที่ ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช ประชาธิปัตย์ บอกกับผู้เขียน จะทำเต็มที่ในการรักษาเก้าอี้ และมั่นใจว่าจะได้รับเลือกตั้งยกทีม เพราะทำพื้นที่มานาน ในส่วนที่มีบ้านใหญ่ย้ายออกหลายคน ชัยชนะถามย้อนผู้เขียนว่า ‘ไหนบ้านใหญ่’ ก่อนจะบอกว่า ประชาชนจะเป็นผู้ตอบ ว่าจะบุคคลที่ทิ้งสถาบันทางการเมืองไปอยู่พรรคเฉพาะกิจ
“วันนี้ชาวนครฯ ทราบกันดีว่าใครคือคนทำงาน ทราบพรรคไหนคือสถาบันการเมือง พรรคไหนคือพรรคเฉพาะกิจ มั่นใจ 100 เปอรเซนต์ว่าเราจะรักษาเก้าอี้และชนะการเลือกตั้งยกทีม ” ชัยชนะ เดชเดโช กล่าว
นี่อาจเป็นมุมมองของนักเลือกตั้งส่วนหนึ่ง ที่การันตีว่าเมืองนครฯ ไม่ได้มีแค่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็น ‘ของดี’ แต่ยังมีการชิงไหวชิงพริบอย่างดุเดือดของคนการเมือง ในศึกเลือกตั้งชิง ‘เมืองคอน’ ที่กำลังจะถึงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ย้อนเกร็ดเล็กน้อยสำหรับ ‘นครศรีธรรมราช’ มีฐานะเป็นเมืองท่าสำคัญ มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์โด่งดังทั้ง จตุคามรามเทพ -ไอ้ไข่ เลื่องชื่อถิ่นเสือและอิทธิพล รวมถึงเป็นจุดที่การเมืองที่ร้อนแรง หากย้อนวันวาน ‘ปชป.’ เต็มแชมปฺ์ครองชัยมาโดยตลอด มี 2 รอบที่โดนเจาะไข่แดง ครั้งล่าสุดคือศึกเลือกตั้งปี 2562 ที่กล่าวไปย่อหน้าแรก และครั้งปฐม คือช่วงศึกการเลือกตั้ง ปี 2535 ที่ 3 นักการเมืองหน้าใหม่ สังกัด ‘พรรคพลังธรรม’ ได้แก่ ชำนิ ศักดิเศรษฐ์ - วิทยา แก้วภราดัย (ย้ายไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ในเวลาต่อมา) และสุธรรม แสงประทุม (ย้ายสังกัดไปพรรคไทยรักไทยในเวลาต่อมา) เบียดแย่งพื้นที่เมืองคอนได้สำเร็จ โดยขุนพลตรีเพชร ณ ที่นี่เป็นแกน ‘ส.ส. กลุ่มนกนางแอ่นลุ่มน้ำปากพนัง’ ที่ต่อมาจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวแปรสำคัญในการเลือกตั้งรอบนี้
หากพูดถึงจุดภูมิศาสตร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงเป็นพื้นที่สำคัญ ในเชิงเศรษฐกิจและแรงศรัทธา พูดขนาดพื้นที่ ถือว่าเป็น ‘บิ๊กไซต์’ ของปักษ์ใต้ เพราะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองรองมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี อย่างไรก็ดี จากการแบ่งเขตการเลือกตั้งของ กกต. ล่าสุด ทำให้พื้นที่ เมืองนครศรีฯ มีเขตเลือกตั้งมากที่สุดในแดนสะตอ คือ 10 เขต และการเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 เรียกได้ว่าสู้กันสุดฤทธิ์ 3 พรรคใหญ่ ได้แก่ พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ และรวมไทยสร้างชาติ
วัดกันด้วยขุมกำลังที่จะเข้าฟาดฟันในรอบนี้ อย่าง ‘พลังประชารัฐ’ ในรอบที่แล้ว สามารถกวาด ส.ส. เข้ากระเป๋าได้ 4 คน (3 คนจากการเลือกตั้งใหญ่ 1 คนจากเลือกตั้งซ่อม) ซึ่งในสายตาของนักรัฐศาสตร์มองว่า เป็นผลมาจากกระแส ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’ แต่ในปี 2566 นี้ ‘บิ๊กตู่’ เลือกลงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ มีขุนพลแปรพักตร์ย้ายตามไปด้วย
อย่างไรก็ดี ยังมี ‘รงค์ บุญสวยขวัญ’ ,‘สัจพจน์ สุขศรีเมือง’ และ ‘อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ’ อดีต ส.ส. เก่าที่ยังภัคดีต่อ ‘บิ๊กป้อม’ ลงป้องกันแชมป์ นอกจากนี้ยังมี ‘ฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง’ อดีต ส.ส. ประชาธิปัตย์ น้องสาว ‘สุรินทร์ พิศสุวรรณ’ อดีตแกนนำ ปชป. และเลขาธิการอาเซียนผู้ล่วงลับ
ขณะที่ แชมป์ร่วมเมืองคอนปี 2562 อย่าง ‘ประชาธิปัตย์’ เรียกว่า สูญเสียขุนพลจากวิกฤติเลือดทะลัก ตระกูลใหญ่ ‘แก้วภราดัย’ หนึ่งในหนึ่งกลุ่ม ส.ส.นกนางแอ่นลุ่มน้ำปากพนัง , ตระกูล ‘วิชัยกุล’ ของ ‘มาโนชญ์’ อดีต ส.ส. 9 สมัยผู้ล่วงลับ บิดาของ ‘ปุ้ย - พิมภัทรา วิชัยกุล’ ส.ส. แชมป์เก่า และ บ้านใหญ่ ‘เสนพงศ์’ ซึ่งทั้งหมดต่างย้ายสำมะโนไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์จะไร้คนมีชื่อสู้ศึก เพราะยังมี 2 ตระกูลเก่าแก่อย่าง ‘บุณยเกียรติิ์ - เดชเดโช’ ที่มีผู้แทนคนสำคัญเข้าไปทำงานในสภาฯ มาแล้ว อย่าง ‘ชินวรณ์ ‘บุณยเกียรติิ์’ และ ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ รวมถึงมี ‘ชำนิ ศักดิเศรษฐ์’ ส.ส. กลุ่มนกนางแอ่นลุ่มน้ำปากพนังเป็นแบ็กอัพให้ทัพหลวง
สำหรับพรรคการเมืองน้องใหม่ อย่าง ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ที่ประกาศปักธงเมืองนครศรีฯ หวังอิงกระแสนิยม ‘ประยุทธ์’ เรียกคะแนนเสียง ก็มีกำลังสำคัญที่ได้จากทั้งพลังประชารัฐ อย่า ‘สายันต์ ยุติธรรม’ ผู้ปวารณาตนเป็น ‘องครักษ์พิทักษ์ลุงตู่’ และมี ส.ส.ที่ย้ายมาจากประชาธิปัตย์ มี ‘ปุ้ย - พิภัทรา’ ที่กล่าวไปข้างต้น และว่าที่ผู้สมัครจากบ้านใหญ่ตระกูล ‘แก้วภราดัย - วิชัยกุล - เสนพงศ์’ คือ ‘พูน แก้วภราดัย’ ลูกชายวิทยา แก้วภราดัย -‘พงศ์สิน เสนพงศ์’ น้องชาย เทพไท เสนพงศ์ ในขณะที่พรรคนอกสายตาอย่างเพื่อไทย ก็มี ‘สุธรรม แสงประทุม’ อดีต ส.ส.ก๊วนนกนางแอ่นฯ เป็นแบ็กอัพ แต่คงเป็นไปได้ยากในการเอาชนะพรรคการเมืองทั้ง 3
‘สายัณห์ ยุติธรรม’ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ที่ปัจจุบันย้ายสังกัดตามสนับสนุน ‘ลุงตู่’ ณ บ้านหลังใหม่ พรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงความเห็นกับผู้เขียน ว่าในสนามการเลือกตั้งนครศรีธรรมราชรอบนี้ จะดุเดือดกว่าครั้งที่ผ่านมา เพราะ มี 3 พรรคใหญ่ห่ำหั่นหวังโกยแต้มให้มากที่สุด แต่การแข่งขันจริง ๆ จะอยู่ระหว่าง ปชป. กับ รทสช. เรียกได้ว่าเป็นศึก ใหญ่ชนใหญ่’ในส่วนพลังประชารัฐมีลุ้นไม่มาก เพราะขาด ‘บิ๊กตู่’ ในการเรียกคะแนนเสียง
ในส่วนนี้คิดว่าจะมีพรรคไหนสามารถสร้างปรากฏการณ์แลนสไดล์กวาดทั้งจังหวัดหรือไม่ สายัณห์ระบุว่าา ไม่มีพรรคไหนที่จะสามารถสร้างผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบนั้นได้ แต่พรรคที่มีหวังที่สุดคือพรรคที่สนับสนุน ‘ลุงตู่’ เท่านั้น
“ ไม่มีใครกวาดนครศรีธรรมราชได้ ถ้าจะกวาดได้ก็จะมีแค่ รทสช. เพราะผมเชื่อว่าคนนครฯ จะกาบัตรทั้ง 2 ใบไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งหากดูตามโพลสำรวจ จะเห็นว่า พลเอกประยุทธ์มาเป็นอันดับ 1 ดังนั้นผมเชื่อว่า เปอร์เซนต์การเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติและ ผู้สมัครฯ ของ รทสช. จะมาเหนือกว่าพรรคอื่นๆ ” สายันต์ ยุติธรรม กล่าว
ขณะที่ ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช ประชาธิปัตย์ บอกกับผู้เขียน จะทำเต็มที่ในการรักษาเก้าอี้ และมั่นใจว่าจะได้รับเลือกตั้งยกทีม เพราะทำพื้นที่มานาน ในส่วนที่มีบ้านใหญ่ย้ายออกหลายคน ชัยชนะถามย้อนผู้เขียนว่า ‘ไหนบ้านใหญ่’ ก่อนจะบอกว่า ประชาชนจะเป็นผู้ตอบ ว่าจะบุคคลที่ทิ้งสถาบันทางการเมืองไปอยู่พรรคเฉพาะกิจ
“วันนี้ชาวนครฯ ทราบกันดีว่าใครคือคนทำงาน ทราบพรรคไหนคือสถาบันการเมือง พรรคไหนคือพรรคเฉพาะกิจ มั่นใจ 100 เปอรเซนต์ว่าเราจะรักษาเก้าอี้และชนะการเลือกตั้งยกทีม ” ชัยชนะ เดชเดโช กล่าว
นี่อาจเป็นมุมมองของนักเลือกตั้งส่วนหนึ่ง ที่การันตีว่าเมืองนครฯ ไม่ได้มีแค่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็น ‘ของดี’ แต่ยังมีการชิงไหวชิงพริบอย่างดุเดือดของคนการเมือง ในศึกเลือกตั้งชิง ‘เมืองคอน’ ที่กำลังจะถึงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
