‘อัยการ’ ส่งหนังสือด่วน! ออกหมายจับ ‘อิทธิพล’ ฉบับใหม่

7 กันยายน 2566 - 09:25

New-arrest-warrant-issued-for-Itthipol Kunplome-SPACEBAR-Hero
  • อธิบดีอัยการปราบทุจริตฯ ส่งหนังสือด่วนถึง เลขาฯ ป.ป.ช.

  • ขอศาลฯ ออกหมายจับ ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’ ฉบับใหม่

  • ชี้ พ.ร.ป. ป.ป.ช. 2561 ไม่ให้นับอายุความผู้ต้องหาที่หลบหนี

วันที่ 7 กันยายน 2566 โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา คำนึง วงษ์ทวีทรัพย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ได้มีหนังสือด่วนที่สุดเรื่องขอให้ดำเนินการออกหมายจับใหม่ ถึงเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. 

ความว่า สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ได้มีหนังสือขอให้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 เพื่อขอออกหมายจับ อิทธิพล คุณปลื้ม, พิเชษฐ อุทัยวัฒนานนท์, วิทยา ศิรินทร์วรชัย, ญัติพงค์ อินทรัตน์ และเอกพงษ์ บุญชาย ผู้ต้องหาที่ 1-4 , 6 

เนื่องจากผู้ต้องหาที่ 1,2,3,4,6 มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ในวันที่ 4 กันยายน เวลา 10.00 น. และตามหนังสือที่อ้างถึง ท่านได้แจ้งผลการดำเนินการขอออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวข้างต้นต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 

โดยแจ้งว่าศาลฯ ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 1,2,3 และมีคำสั่งยกคำร้องขอออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 4,6 นั้น

กรณีศาลฯ ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 1-3 นั้น พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 2 พิจารณาแล้วเห็นว่า ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 7 บัญญัติไว้ว่า “…ถ้าผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีไป ในระหว่างถูกดำเนินคดี หรือระหว่างการพิจารณาของศาล มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ…” ประกอบมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 และตามหนังสือที่อ้างถึง (1) พนักงานอัยการ ได้แจ้งให้ท่านดำเนินการขอออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหา 

โดยขอให้ท่านขอให้ศาลระบุหมายเหตุไว้ในหมายจับด้วยว่าผู้ถูกกล่าวหาได้หลบหนีไปเมื่อวันที่เท่าใด ตามสำเนาตัวอย่างหมายจับที่พนักงานอัยการแนบไปพร้อมกับหนังสือที่อ้างถึง (1) แต่ปรากฏว่าตามสำเนาหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ จ. 23-25/2566, ลงวันที่ 5 กันยายน 2566 นั้น ศาลฯ ไม่ได้ระบุหมายเหตุดังกล่าวไว้แต่อย่างใด 

ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 2 จึงขอให้ท่านดำเนินการขอออกหมายจับ อิทธิพล คุณปลื้ม, พิเชษฐ์ อุทัยวัฒนานนท์ และ วิทยา ศิรินทร์รชัย ผู้ต้องหาที่ 1-3 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยขอให้ท่านขอให้ศาลระบุหมายเหตุไว้ในหมายจับด้วยว่าผู้ถูกกล่าวหาได้หลบหนีไปเมื่อวันที่เท่าใด 

สำหรับกรณี ญัติพงค์ อินทรัตน์ และ เอกพงษ์ บุญชาย ผู้ต้องหาที่ 5-6 ที่ศาลฯ มีคำสั่งยกคำร้องขอออกหมายจับนั้น เนื่องจากคดีนี้จะครบกำหนดอายุความฟ้องร้องในวันที่ 8 กันยายน 2566 ดังนั้น จึงขอให้ท่านมีหนังสือแจ้ง ญัติพงค์ อินทรัตน์ และ เอกพงษ์ บุญชาย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4,6 ให้มารายงานตัวต่อพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2  

โดยให้พนักงานไต่สวนผู้ประสานงาน (อภิรัฐ คงเจริญ นำตัวผู้ถูกกล่าวหาที่ 4,6 ไปส่ง และยืนยันตัวผู้ถูกกล่าวหาต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ในวันที่ 7 กันยายน เวลา 10.00 น. เพื่อดำเนินการยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหาที่ 4,6 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 พร้อมทั้งให้ผู้ต้องหาที่ 4,6 เตรียมหลักประกันเพื่อยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ในชั้นศาลฯ ด้วย 

รองโฆษกอัยการ กล่าวต่อว่า เนื่องจากมีการถกเถียงกันเรื่องปัญหาอายุความสะดุดหยุดลงหรือไม่หากมีการหลบหนี เพราะคดีนี้เกิดก่อนกฎหมายปราบปรามการทุจริตแก้ไข อัยการจึงเห็นว่าอำนาจในการออกหมายจับเป็นของศาลฯ จึงควรดำเนินการให้ชัดเจนเสนอให้ศาลเพื่อโปรดพิจารณา จะได้เป็นแนวทางให้ผู้ปฏิบัติ ทำหน้าที่กันได้อย่างถูกต้อง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อหาในคดีนี้ อิทธิพล คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมถูก ป.ป.ช.ชี้มูลกระทำความผิดส่งอัยการฟ้อง เมื่อครั้งดำรงตำเเหน่งนายกเมืองพัทยา ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ลงวันที่ 10 กันยายน 2551 ให้แก่บริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย 

โดยคดีนี้ ป.ป.ช. ส่งเรื่องให้อัยการเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566 เเละอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนในชั้นอัยการไม่ถึง 1 เดือน

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจากคดีจะหมดอายุความในวันที่ 10 กันยายน 2566 ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน และมีบางกระแสถกเถียงว่า คดีนี้ไม่น่าจะมีการนับอายุความ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีคดี เป็นไปตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช. ฉบับใหม่ ปี 2561  

โดยเมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดี ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจาก อิทธิพล คุณปลื้ม ว่าจะเข้ามามอบตัว แต่จะต้องนำตัว อิทธิพล มาส่งฟ้องให้ได้ภายในวันศุกร์ที่ 8 กันยายน นี้ มิฉะนั้นอายุความคดี ซึ่งมีอายุความ 15 ปี ก็จะสิ้นสุดหมดอายุในวันที่ 10 กันยายน 2566 และอาจไม่สามารถดำเนินคดีเอาผิดกับนายอิทธิพลตามกฎหมายได้ เพราะคดีหมดอายุความ 

ทั้งนี้ อธิบดีอัยการ ระบุว่าจะต้องนำไปพิจารณาต่อว่า คดีของ อิทธิพล คุณปลื้ม จะเข้าข่ายตามมาตรา 13 พ.ร.บ. วิธีการพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559 หรือไม่ ที่ระบุว่า “ในกรณีผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีไป ในระหว่างการถูกดำเนินคดี หรือระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฯ มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหา หรือจำเลยหลบหนี รวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ ซึ่งหากเข้าข่ายก็จะต้องมีการขอหมายจับเพื่อเอาตัวมาดำเนินคดีต่อไป เพราะยังถือว่าคดียังไม่หมดอายุความ” 

อธิบดีอัยการ กล่าวด้วยว่า สำหรับคดีนี้ มีผู้ร่วมกระทำผิด และถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดรวม 10 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือกลุ่มผู้ออกใบอนุญาต มี 5 คน ในจำนวนนี้มีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รวมอยู่ด้วย 

กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มผู้อนุญาตให้ก่อสร้าง มี 5 คน 

โดยกลุ่มแรกได้ถูกนำตัวส่งฟ้องไปแล้ว 4 คน ขาด อิทธิพล คุณปลื้ม ที่ยังไม่มามอบตัว และกลุ่มที่ 2 อีก 5 คน ยังคงหลบหนี

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์