แม้ว่า ‘พลังประชารัฐ’ เลือดจะไหลออก ไปซบ ‘ภูมิใจไทย’ แต่ก็มีเลือดไหลเข้า ล่าสุด ‘นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ’ ได้ลาออกจาก ‘พรรคสร้างอนาคตไทย’ มาซบอก พปชร. แทน โดยเหตุผลสำคัญ ‘นิพิฏฐ์’ ได้ให้คือเรื่องการ ‘ควบรวมพรรค’ ระหว่าง ‘พรรคสร้างอนาคตไทย-พรรคไทยสร้างไทย’ หลังใช้เวลาตัดสินใจ 2-3 เดือน จนได้บทสรุปในวันนี้ จึงไปลาออกจากพรรคสร้างอนาคตไทย ที่ กกต. ในช่วงสาย และมาสมัคร พปชร. ในช่วงบ่าย ชนิดว่า ‘วันเดียวจบ’ ซึ่ง ‘นิพิฏฐ์’ พร้อมระบุว่า ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้า พปชร. ได้ขอให้มาดูแลพื้นที่ภาคใต้ พร้อมเปรียบตัวเองว่าเป็น ‘นักรบ’ ดังนั้นก็ต้อง ‘ได้รบ’
สำหรับ ‘นิพิฏฐ์’ เป็นชาว จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับที่ ‘ภูมิใจไทย’ ต้องการเจาะเช่นกัน ซึ่ง ‘นิพิฏฐ์’ พ่ายเลือกตั้ง จ.พัทลุง ครั้งแรก เมื่อปี 2562 ให้กับ ‘ฉลอง เทอดวีระพงศ์’ จาก ภท. ซึ่งเป็นพื้นที่ ‘บ้านใหญ่รัชกิจประการ’ นำโดย ‘เจ๊เปี๊ยะ’นาที รัชกิจประการ ที่เป็นแม่ทัพใหญ่ของ ภท. ในพื้นที่ภาคใต้ เท่ากับว่า ‘นิพิฏฐ์’ จะกลับมาชนคนของ ‘เจ๊เปี๊ยะ-นาที’ อีกครั้ง ในศึกเลือกตั้งปี 2566 เรียกว่า ‘สิบปีไม่สายล้างแค้น’
ซึ่งก่อนหน้านี้ ‘นิพิฏฐ์’ ได้ออกมาแฉ ส.ส. เสียบบัตรแทนกัน คือ 2 ส.ส.พัทลุง ภท. ‘ฉลอง เทิดวีระพงศ์ - ภูมิศิษฎ์ คงมี’ พ่วง ‘เจ๊เปี๊ยะ-นาที’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ภท. ทำให้ ‘เจ๊เปี๊ยะ-นาที’ ต้องหลุดจากการเป็น ส.ส.
การอยู่ ‘พรรคสร้างอนาคตไทย’ ของ ‘นิพิฏฐ์’ หากจะระดม ‘เสบียง-กระสุน’ ไปสู้กับ ภท. คงยาก แถมเจอเลือกตั้งบัตร 2 ใบ สูตรหาร 100 ทำให้ ‘พรรคเกิดใหม่-พรรคเล็ก’ พากันหาทางเอาตัวรอด ทำให้ ‘นิพิฏฐ์’ ต้องหาทางออกในการสู้กับ ‘เจ๊เปี๊ยะ-นาที’ นั่นคือการมา พปชร. ที่เป็น ‘คู่แข่งสมน้ำสมเนื้อ’ กับ ภท. นั่นเอง
ทั้งนี้ ‘นิพิฏฐ์’ ตอบคำถามสื่อกรณีการมาอยู่ พปชร. เพื่อไปชนกับ ‘เจ๊นาที’ ว่า “ไม่หรอกครับ อยู่ที่ไหนก็ชนได้ ผมก็ชนเจ๊นาทีกระเด็นไปแล้ว หยุดพักการทำหน้าที่ไป 3 ปีแล้ว ไม่มีปัญหา” จากนั้น ‘นิพิฏฐ์’ ระบุว่า ไม่ได้ไปชนแบบนั้น แต่เป็นตัวเลือกใหม่มากกว่า ไม่ถึงกับชนเป็นศัตรูกัน พร้อมเปิดเผยว่ามี ‘ลูกทีม’ ของตนอีกราว 30 คน จะมาอยู่ พปชร. ด้วย แต่การมาแล้วจะมีการ ‘ทับซ้อนพื้นที่’ ก็ต้องมาแก้ปัญหา
ดังนั้นการที่ ‘นิพิฏฐ์’ อ้างเหตุผล ‘ควบรวมพรรค’ ระหว่าง ‘สร้างอนาคตไทย-ไทยสร้างไทย’ จึงอาจเป็นเพียง ‘เหตุผลรอง’ เท่านั้น ที่มีกระแสข่าวว่าจะชูชื่อ ‘คุณหญิงหน่อย’ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรคฯ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 1 ส่วน ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ลำดับ 2 ส่วน ‘อุตตม สาวนายน’ กับ ‘สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์’ จะไม่มีตำแหน่งใดๆ
หากถามว่าทำไม ‘นิพิฏฐ์’ ไม่ไปอยู่ ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ เพราะกระแส ‘บิ๊กตู่’ ขายได้ในพื้นที่ภาคใต้ โดย ‘นิพิฏฐ์’ ระบุว่า โพลนั้นจริง ที่ชื่นชอบ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ มีเงื่อนไขหลายประการ ตนคิดว่าไม่เหมือนปี 62 แล้ว เช่นวาระดำรงตำแหน่งได้อีกเพียง 2 ปี ก็ต้องเปลี่ยนนายกฯ รวมทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นเหมือนพรรคสร้างใหม่-เกิดใหม่ จึงไม่ง่ายที่จะไปแข่งขันกับพรรคที่มีอยู่แล้ว และมี ส.ส. ค่อนข้างเยอะ และไม่ร้อนแรงเหมือนเดิม
ทั้งหมดนี้จึงทำให้ ‘นิพิฏฐ์’ ตัดสินใจมาซบอก ‘บิ๊กบราเธอร์ป้อม’ สังกัด พปชร. ร่วมสร้างอาณาจักร ‘สายป่ารอยต่อด้ามขวาน’ นั่นเอง
สำหรับ ‘นิพิฏฐ์’ เป็นชาว จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับที่ ‘ภูมิใจไทย’ ต้องการเจาะเช่นกัน ซึ่ง ‘นิพิฏฐ์’ พ่ายเลือกตั้ง จ.พัทลุง ครั้งแรก เมื่อปี 2562 ให้กับ ‘ฉลอง เทอดวีระพงศ์’ จาก ภท. ซึ่งเป็นพื้นที่ ‘บ้านใหญ่รัชกิจประการ’ นำโดย ‘เจ๊เปี๊ยะ’นาที รัชกิจประการ ที่เป็นแม่ทัพใหญ่ของ ภท. ในพื้นที่ภาคใต้ เท่ากับว่า ‘นิพิฏฐ์’ จะกลับมาชนคนของ ‘เจ๊เปี๊ยะ-นาที’ อีกครั้ง ในศึกเลือกตั้งปี 2566 เรียกว่า ‘สิบปีไม่สายล้างแค้น’
ซึ่งก่อนหน้านี้ ‘นิพิฏฐ์’ ได้ออกมาแฉ ส.ส. เสียบบัตรแทนกัน คือ 2 ส.ส.พัทลุง ภท. ‘ฉลอง เทิดวีระพงศ์ - ภูมิศิษฎ์ คงมี’ พ่วง ‘เจ๊เปี๊ยะ-นาที’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ภท. ทำให้ ‘เจ๊เปี๊ยะ-นาที’ ต้องหลุดจากการเป็น ส.ส.
การอยู่ ‘พรรคสร้างอนาคตไทย’ ของ ‘นิพิฏฐ์’ หากจะระดม ‘เสบียง-กระสุน’ ไปสู้กับ ภท. คงยาก แถมเจอเลือกตั้งบัตร 2 ใบ สูตรหาร 100 ทำให้ ‘พรรคเกิดใหม่-พรรคเล็ก’ พากันหาทางเอาตัวรอด ทำให้ ‘นิพิฏฐ์’ ต้องหาทางออกในการสู้กับ ‘เจ๊เปี๊ยะ-นาที’ นั่นคือการมา พปชร. ที่เป็น ‘คู่แข่งสมน้ำสมเนื้อ’ กับ ภท. นั่นเอง
ทั้งนี้ ‘นิพิฏฐ์’ ตอบคำถามสื่อกรณีการมาอยู่ พปชร. เพื่อไปชนกับ ‘เจ๊นาที’ ว่า “ไม่หรอกครับ อยู่ที่ไหนก็ชนได้ ผมก็ชนเจ๊นาทีกระเด็นไปแล้ว หยุดพักการทำหน้าที่ไป 3 ปีแล้ว ไม่มีปัญหา” จากนั้น ‘นิพิฏฐ์’ ระบุว่า ไม่ได้ไปชนแบบนั้น แต่เป็นตัวเลือกใหม่มากกว่า ไม่ถึงกับชนเป็นศัตรูกัน พร้อมเปิดเผยว่ามี ‘ลูกทีม’ ของตนอีกราว 30 คน จะมาอยู่ พปชร. ด้วย แต่การมาแล้วจะมีการ ‘ทับซ้อนพื้นที่’ ก็ต้องมาแก้ปัญหา
ดังนั้นการที่ ‘นิพิฏฐ์’ อ้างเหตุผล ‘ควบรวมพรรค’ ระหว่าง ‘สร้างอนาคตไทย-ไทยสร้างไทย’ จึงอาจเป็นเพียง ‘เหตุผลรอง’ เท่านั้น ที่มีกระแสข่าวว่าจะชูชื่อ ‘คุณหญิงหน่อย’ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรคฯ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 1 ส่วน ‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ลำดับ 2 ส่วน ‘อุตตม สาวนายน’ กับ ‘สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์’ จะไม่มีตำแหน่งใดๆ
หากถามว่าทำไม ‘นิพิฏฐ์’ ไม่ไปอยู่ ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ เพราะกระแส ‘บิ๊กตู่’ ขายได้ในพื้นที่ภาคใต้ โดย ‘นิพิฏฐ์’ ระบุว่า โพลนั้นจริง ที่ชื่นชอบ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ มีเงื่อนไขหลายประการ ตนคิดว่าไม่เหมือนปี 62 แล้ว เช่นวาระดำรงตำแหน่งได้อีกเพียง 2 ปี ก็ต้องเปลี่ยนนายกฯ รวมทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นเหมือนพรรคสร้างใหม่-เกิดใหม่ จึงไม่ง่ายที่จะไปแข่งขันกับพรรคที่มีอยู่แล้ว และมี ส.ส. ค่อนข้างเยอะ และไม่ร้อนแรงเหมือนเดิม
ทั้งหมดนี้จึงทำให้ ‘นิพิฏฐ์’ ตัดสินใจมาซบอก ‘บิ๊กบราเธอร์ป้อม’ สังกัด พปชร. ร่วมสร้างอาณาจักร ‘สายป่ารอยต่อด้ามขวาน’ นั่นเอง
