https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3j6w4Qc1uRbvU41nZc1Pmr/a230a8f775f3ecec44043d550e7d5d0b/PM-Srettha-explain-first-time-after-member-of-parliament-debate-policy-government-SPACEBAR-Photo00
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2KAzxUOT24Ow84e4PySAhR/5e038612411872db823fac36b2121ff0/PM-Srettha-explain-first-time-after-member-of-parliament-debate-policy-government-SPACEBAR-Photo01
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/50SUaGn0OwpkIKvioDXXjV/56ae32fc63433c3b933a1ac10407f51e/PM-Srettha-explain-first-time-after-member-of-parliament-debate-policy-government-SPACEBAR-Photo02
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/fIuOJR49I202sZQXFiiBF/3602367e1b38e835a72689a2e004b7e9/PM-Srettha-explain-first-time-after-member-of-parliament-debate-policy-government-SPACEBAR-Photo03

Photo Story: ‘นายกฯ’ ลั่น ไม่ยกเลิก ‘บัตรคนจน’

11 ก.ย. 2566 - 11:36

  • ‘นายกรัฐมนตรี’ ขอบคุณคำแนะนำจากสมาชิกรัฐสภา

  • ย้ำแก้ รธน.ไม่แตะหมวด 1-2 ยันยังคง รัศมี 4 กม.เงินดิจิทัล แต่จะพิจารณาขยายบางพื้นที่ห่างไกล ชี้จำเป็นต้องใช้ใน 6 เดือน กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจโตเฉลี่ยปีละ 5% ตลอด 4 ปี

  • นไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3j6w4Qc1uRbvU41nZc1Pmr/a230a8f775f3ecec44043d550e7d5d0b/PM-Srettha-explain-first-time-after-member-of-parliament-debate-policy-government-SPACEBAR-Photo00
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2KAzxUOT24Ow84e4PySAhR/5e038612411872db823fac36b2121ff0/PM-Srettha-explain-first-time-after-member-of-parliament-debate-policy-government-SPACEBAR-Photo01
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/50SUaGn0OwpkIKvioDXXjV/56ae32fc63433c3b933a1ac10407f51e/PM-Srettha-explain-first-time-after-member-of-parliament-debate-policy-government-SPACEBAR-Photo02
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/fIuOJR49I202sZQXFiiBF/3602367e1b38e835a72689a2e004b7e9/PM-Srettha-explain-first-time-after-member-of-parliament-debate-policy-government-SPACEBAR-Photo03
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.33 น. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงเป็นครั้งแรกของวัน โดยขอบคุณทุกความเห็นจากสมาชิกรัฐสภาที่ให้คำแนะกับรัฐบาลในการดำเนินนโยบายรัฐบาลจะยึดโยงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และประชาชนของรัฐบาลนี้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งคนเมือง คนต่างจังหวัด และคนทุกฐานะ รวมถึงข้าราชการอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง 

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันเพื่อให้เกิดความชัดเจนเรื่องนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จะไม่แก้ไขหมวดหนึ่งและหมวดสองว่าด้วยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะดำรงไว้ซึ่งการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข  

ส่วนเรื่องการพักหนี้เกษตรกรทราบหรือไม่ว่า 9 ปี ที่ผ่านมามีการพักหนี้มาแล้วถึง 13 ครั้ง แม้หลายคนจะท้วงติงว่าการพักหนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน แต่เราตระหนักดี จึงมีมาตรการหลายอย่างเพื่อเพิ่มรายได้ เช่นการทำให้รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายในเวลา 4 ปี ด้วยการใช้ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ควบคู่ไปกับการพักหนี้ เพื่อทำให้เกษตรกรหายใจได้ลืมตาอ้าปากได้ เป็นช่วงที่ฟื้นฟูตัวเอง และมีกำลังใจในการแก้ไขปัญหา ประกอบอาชีพอย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี ซึ่งการพักหนี้ครั้งนี้จะทำประโยชน์มากกว่าการพักหนี้ในอดีต 9 ปีที่ผ่านมา    

ส่วนเรื่อง 4 กิโลเมตร ของนโยบายเงิน Digital Wallet นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราตระหนักดีว่า ชนบทอาจจะมีร้านค้าไม่เพียงพอ จึงขอไปดูรายละเอียดและดำเนินงานให้เหมาะสมตามคำแนะนำของสมาชิก ขณะที่เรื่องระยะเวลาในการใช้ 6 เดือน  เรื่องนี้จำเป็น เราต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ดังนั้นระยะเวลาในการใช้เงินครั้งนี้จึงเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างมาก 

สำหรับกรณีที่มีบางคนบอกว่า อยากให้ยกเลิกการใช้รัศมี 4 กิโลเมตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เศรษฐกิจภูมิภาคต้องการการกระตุ้น ถ้าเกิดคนที่มีถิ่นฐานอยู่ที่จังหวัดใด ก็ควรกลับไปใช้ที่นั่น ซึ่งมีเวลาถึง 6 เดือน กลับไปเยี่ยมญาติพี่น้อง ทำให้สถาบันครอบครัวแข็งแกร่งขึ้น เพราะฉะนั้น 4 กิโลเมตร ตามบัตรประชาชนขอคงไว้ ยกเว้นบางเขตอาจจะต้องขยาย  

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า จะผลักดันให้มีการท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งจะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว และรัฐบาลเรามีแผนหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการยกเว้นขอวีซ่าเข้ามาในประเทศไทยสำหรับบางประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ การท่องเที่ยวเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเพื่อนำเงินเข้ามาในประเทศทำให้ภาคท่องเที่ยวเติบโตอีกครั้ง ตั้งเป้าสร้างเงินรายได้ประมาณ 3 ล้านล้านบาทต่อปี และมีคำถามเข้ามาเยอะเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ นายกรัฐมนตรี  ระบุว่า ก็สมควรได้รับการปรับโดยเร็วที่สุด ซึ่งเราตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้เศรษฐกิจโตเฉลี่ยปีละ 5% ตลอด 4 ปี ซึ่งจะทำให้ค่าแรงขึ้นไปถึง 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน

ส่วนค่าพลังงานเป็นเรื่องที่พี่น้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งและเป็นเรื่องที่เราตระหนักดีว่า การลดค่าใช้จ่ายของพลังงานเป็นเรื่องสำคัญ เราก็มั่นใจว่าสามารถทำให้ราคาพลังงานต่ำลงอย่างมีนัยยะได้ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงต่อ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนยังคงมีอยู่

ส่วนเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ  ที่จะต้องจัดสรรเพื่อให้ประชาชนสามารถมีที่ดินทำมาหากินได้ จะต้องดูทั้งที่ดิน ส.ปก. และที่ดินของหน่วยงานรัฐอื่นๆ ผ่านรูปแบบที่เหมาะสม ทำให้พี่น้องมีที่ดินทำกินอย่างมีศักดิ์ศรี

สำหรับเรื่องน้ำในอีอีซี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้วที่จะต้องดูแลอย่างเหมาะสมทุกมิติ การบริหารจัดการเรื่องน้ำให้มีความเหมาะสมระหว่างภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม การอุปโภคบริโภค และรักษาไว้ซึ่งความสมดุลย์ของระบบนิเวศ  

ขณะที่การแก้ปัญหาฝุ่นPM 2.5 นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อีก 5 เดือนก็จะเข้าสู่วิกฤตของภาคเหนือเราจะเริ่มทำโดยเร็ว ให้เห็นผลภายในต้นปี ดำเนินการส่วนที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากแล้วค่อยๆ พัฒนาเรื่องอื่นตามขีดจำกัดของงบประมาณที่ทำได้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะทิ้งท้ายเรื่องแก้ปัญหาการทุจริต โดยยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องโปร่งใส จะเอาระบบดิจิตทัลมาใช้ให้มากขึ้นเพื่อลดการทุจริต ประพฤติมิชอบ 

จากนั้น จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงนโยบายของรัฐบาล ในโครงการเงิน Digital Wallet 10,000 บาทว่า เป็นโครงการที่กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากไปที่ชุมชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ด้วยกลไกการใช้ Block chain และกำหนดกรอบที่จะสามารถใช้จ่ายเงินที่อยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ โดยหลักคิดของนโยบายนี้ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง ไม่ว่าประชาชนจะอยู่ในจุดใดของประเทศ รวมถึงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนคนไทยในอนาคตสามารถมีกระเป๋าเงิน 2 กระเป๋า คือกระเป๋าเงินสดและกระเป๋าเงินดิจิทัล ในการสร้างพื้นฐานรองรับเศรษฐกิจระดับโลกได้  

สำหรับแหล่งที่มาของงบประมาณ ที่มีการอภิปรายอย่างหลากหลาย ขอให้สมาชิกระมัดระวังในการชี้นำแหล่งที่มาให้กับสังคม อาจทำให้สังคมเข้าใจผิด และกระทบความน่าเชื่อถือและกรอบวินัยทางการเงินการคลัง โดยขอยืนยันรัฐบาลยึดมั่นกรอบวินัยการเงินการคลัง ไม่แตะต้องทรัพย์สมบัติของชาติ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนน้ำมัน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ กองทุนประกันตนก็ตาม ซึ่งรัฐบาลรู้จุดประสงค์ในตัวเม็ดเงินนั้นดี จึงขอให้รัฐสภามั่นใจได้ ดังนั้น กระบวนการที่รัฐบาลจะทำสุดท้ายจะมีความชัดเจน ทั้งกรอบการใช้เงิน ระยะเวลาในการดำเนินการ และการนำเงินมาใช้คืนในระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่กระทบต่อหนี้สาธารณะ ไม่มีการกู้เพิ่มแน่นอน พร้อมย้ำยึดกรอบวินัยทางการเงินการคลัง 

ทั้งนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจของ Digital Wallet เช่น กรณีรัศมี 4 กิโลเมตร ขณะนี้ อยู่ในช่วงของการรับฟังความคิดเห็น ซึ่งมีการเสนอมากมายจากภาคประชาชน ก็พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิกไปพิจารณาในภาพรวม เพื่อหาหนทางที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดในกระบวนการใช้เม็ดเงิน สุดท้ายข้อสรุปจะเป็นเช่นไร เม็ดเงินทั้งหมดจะถึงมือพี่น้องประชาชนและเกิดประโยชน์สูงสุดในเป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจ 

ส่วนการเอื้อทุนใหญ่และการดำเนินการในราคาที่ไม่เป็นธรรม ก็จะรับฟังด้วยความเป็นธรรม แต่โดยหลักคิดแล้ว รัฐบาลไม่ได้มองพี่น้องประชาชนเป็นผู้ร้าย เพราะประชาชนส่วนมากเมื่อได้เงินไปแล้วหากจัดสรรการใช้เงินได้เป็นประโยชน์ เชื่อว่า การใช้เงินจาก Digital Wallet ด้านการบริโภคที่เป็นประโยชน์หมุนเวียนในชุมชนของตน ส่วนข้อกังวลเม็ดเงินจะไหลไปที่ทุนใหญ่ ขอชี้แจงว่า โครงการ Digital Wallet ไม่มีการเลือกปฏิบัติ จึงขอให้ความมั่นใจกับประชาชน โดยขณะนี้มีพี่น้องประชาชนรวมกลุ่มจำนวนมาก เพื่อนำเม็ดเงินไปต่อยอดอาชีพจัดกิจกรรมที่จะสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน ซึ่งเป็นแนวความคิดของประชาชนล้ำหน้ากว่ารัฐบาลปัจจุบันนี้ ดังนั้น นโยบายนี้เมื่อลงไปแล้ว ก็จะแตกยอดความคิด  

ขณะเดียวกัน ในช่วงท้าย จุลพันธ์ ยืนยันว่า เทคโนโลยี Block chain โปร่งใส ตรวจสอบได้ และย้ำว่านโยบายนี้เกิดประโยชน์ตรวจสอบได้โดยครบถ้วนสมบูรณ์

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์