วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ยอมรับกรณีที่ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เสนอขอร่วมเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ นั้นมีความเป็นไปได้ เพราะถือเป็นคนเก่งและมีความสามารถ แต่เรื่องดังกล่าวอยู่ที่การตัดสินใจของหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค เพราะการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ต้องเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ของคณะกรรมการบริหารพรรค และถือเป็นเรื่องใหญ่ สมาชิกทุกคนต้องรับทราบโดยทั่วถึง
ทั้งนี้ มาตรา 88 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ระบุให้ พรรคการเมืองสามารถส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ถึง 3 รายชื่อ ซึ่งหากมีชื่อบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถอย่าง มิ่งขวัญ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเสียงของพรรคในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งไม่มากก็น้อย เพราะตอนที่ มิ่งขวัญ นำพรรคเศรษฐกิจไทยเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรก็ได้คะแนนเสียงในระดับหนึ่ง เชื่อว่า ด้วยความสามารถของ มิ่งขวัญ จะสามารถเติมคะแนนให้กับพรรคพลังประชารัฐได้มากพอสมควร โดยเฉพาะบทบาทที่ มิ่งขวัญ ได้แสดงในสภาผู้แทนราษฎรในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าโดดเด่นมากพอสมควร
ขณะที่ รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ตามกลไกของพรรคที่ต้องผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.ของพรรค ทั้งการสรรหาผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเรียงลำดับบัญชีรายชื่อและระบบบัญชีรายชื่อ รวมถึงบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐด้วย ทั้งหมดนี้ จะต้องมีการระดมความคิดเห็นและต้องผ่านการประชุม ดังนั้น ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา จึงเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล สิ่งที่เกิดขึ้นในการแถลงข่าวจึงไม่ได้ผูกพันอะไร
“การที่เสนอตัวว่า จะเข้ามาทำอะไรบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติ มองเป็นการตลาดของนายมิ่งขวัญ ถือว่าเข้าเป้าและขายได้ แต่ไม่ได้เป็นข้อผูกมัดต่อพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งยังไม่ถึงเวลาและมีกลไกที่จะต้องประชุมพิจารณา ทั้งนี้ ตนได้สอบถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็บอกว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนของการที่จะบอกว่าใครอยู่ในลิสต์ของบุคคลที่ถูกเสนอชื่อ ตอนนี้ กำลังปวดหัวว่า มีคนเสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคจำนวนมาก จึงต้องมีการคัดสรร” รงค์ กล่าว
เมื่อถามถึงประเด็นที่ มิ่งขวัญ ระบุว่าเข้ามาอยู่พรรคฯเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปอยู่พรรคอื่นนั้น ส.ส.นครศรีธรรมราช ก็ตอบว่า เมื่อเข้ามาแล้วบอกว่าไม่เอา ‘ลุงตู่’ อย่างนี้ไม่ดีกับพรรค และถ้าประกาศเช่นนี้ ภาคใต้ไม่ได้คะแนนเสียงแน่นอน และคนที่จะเสนอตัวมาเป็นผู้บริหารหรืออยู่ในบัญชีรายชื่อที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องนิ่ง มีบารมี หนักแน่น และต้องรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนที่ ส.ส.นครศรีธรรมราชจะมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร เป็นที่เรียบร้อยและ พล.อ.ประวิตร ให้ชี้แจงกับสื่อฯ ได้
ทั้งนี้ มาตรา 88 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ระบุให้ พรรคการเมืองสามารถส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ถึง 3 รายชื่อ ซึ่งหากมีชื่อบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถอย่าง มิ่งขวัญ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเสียงของพรรคในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งไม่มากก็น้อย เพราะตอนที่ มิ่งขวัญ นำพรรคเศรษฐกิจไทยเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรก็ได้คะแนนเสียงในระดับหนึ่ง เชื่อว่า ด้วยความสามารถของ มิ่งขวัญ จะสามารถเติมคะแนนให้กับพรรคพลังประชารัฐได้มากพอสมควร โดยเฉพาะบทบาทที่ มิ่งขวัญ ได้แสดงในสภาผู้แทนราษฎรในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าโดดเด่นมากพอสมควร
ขณะที่ รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ตามกลไกของพรรคที่ต้องผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.ของพรรค ทั้งการสรรหาผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเรียงลำดับบัญชีรายชื่อและระบบบัญชีรายชื่อ รวมถึงบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐด้วย ทั้งหมดนี้ จะต้องมีการระดมความคิดเห็นและต้องผ่านการประชุม ดังนั้น ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา จึงเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล สิ่งที่เกิดขึ้นในการแถลงข่าวจึงไม่ได้ผูกพันอะไร
“การที่เสนอตัวว่า จะเข้ามาทำอะไรบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติ มองเป็นการตลาดของนายมิ่งขวัญ ถือว่าเข้าเป้าและขายได้ แต่ไม่ได้เป็นข้อผูกมัดต่อพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งยังไม่ถึงเวลาและมีกลไกที่จะต้องประชุมพิจารณา ทั้งนี้ ตนได้สอบถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็บอกว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนของการที่จะบอกว่าใครอยู่ในลิสต์ของบุคคลที่ถูกเสนอชื่อ ตอนนี้ กำลังปวดหัวว่า มีคนเสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคจำนวนมาก จึงต้องมีการคัดสรร” รงค์ กล่าว
เมื่อถามถึงประเด็นที่ มิ่งขวัญ ระบุว่าเข้ามาอยู่พรรคฯเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปอยู่พรรคอื่นนั้น ส.ส.นครศรีธรรมราช ก็ตอบว่า เมื่อเข้ามาแล้วบอกว่าไม่เอา ‘ลุงตู่’ อย่างนี้ไม่ดีกับพรรค และถ้าประกาศเช่นนี้ ภาคใต้ไม่ได้คะแนนเสียงแน่นอน และคนที่จะเสนอตัวมาเป็นผู้บริหารหรืออยู่ในบัญชีรายชื่อที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องนิ่ง มีบารมี หนักแน่น และต้องรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนที่ ส.ส.นครศรีธรรมราชจะมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร เป็นที่เรียบร้อยและ พล.อ.ประวิตร ให้ชี้แจงกับสื่อฯ ได้
