



พรรคพลังประชารัฐ จัดประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ ประจำปี ครั้งที่ 2/2566 โดยมี ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรคฯ ได้แก่ สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคฯ, วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคฯ, พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร กรรมการ, พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนสมาชิกพรรคฯ ผู้แทนสาขาพรรคฯ ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด และสมาชิกพรรคฯ เกิน 250 คน เข้าร่วมครบองค์ประชุมตามที่กฎหมายกำหนด ภายใต้วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีที่ผ่านมา อาทิ การแก้ไขข้อบังคับพรรค และการคัดเลือกกรรมการบริหารพรรคฯ การประชุมสาขาพรรคฯ และพิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานการเงินของพรรคการเมืองในรอบปีที่ผ่านมา
จากนั้น ไพบูลย์ แถลงผลการประชุมว่า หัวหน้าพรรคฯ มอบหมายให้ตนทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมใหญ่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองฯ มาตรา 43 ที่กำหนดให้พรรคการเมืองต้องจัดทำรายงานพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทิน เพื่อเสนอในที่ประชุมใหญ่ในรอบปี ภายในเดือนเมษายน
โดยที่ประชุมเห็นชอบการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองที่ดำเนินการ ตามที่ สันติ เป็นผู้นำเสนอ และเห็นชอบรายงานการเงินของพรรคในรอบปี ตามที่ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคฯ เสนอ นอกจากนั้น ที่ประชุมได้รับรองและเห็นชอบเรื่องการนำเสนอ 20 นโยบายสำหรับหาเสียงของพรรคฯ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เห็นชอบทั้ง 20 นโยบาย ที่มีประเด็นสำคัญ แยกเป็น 3 นโยบาย ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน คือ 1. ลดค่าไฟฟ้า เหลือ 2.50 บาท เพื่อช่วยประชาชน และ 2.70 บาท ช่วยภาคอุตสาหกรรม 2. ลดค่าน้ำมันเบนซิน เหลือลิตรละ 25.99 บาท, ดีเซลเหลือลิตรละ 28.07 บาท โดยยึดหลักให้ความยุติธรรม ไม่เพิ่มภาระประชาชน ไม่เห็นด้วยเก็บภาษีสรรพามิต และกองทุนน้ำมัน และ 3. ลดค่าแก๊ส
ส่วน 7 นโยบายเพิ่มเงินในบัญชีให้ประชาชนโดยตรง คือ 1. บัตรประชารัฐ 700 พร้อมวงเงินประกันชีวิต 2 แสนบาท 2. โครงการ แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ 3. เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 4. ให้ทุนการเพาะปลูกเกษตรกร 7.5 ล้านครัวเรือน ที่ลงทะเบียน ครัวเรือนละ 30,000 บาท 5. สร้างอาชีพผู้ถือบัตรประชารัฐ 1 ล้านคน โดยให้ทุนรายละ 3 หมื่นบาท 6. ลดต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้ชาวนา ไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ เป็นเงิน 30,000 บาท และ 7. สนับสนุนปุ๋ยคนละครึ่ง โดยให้รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือประชาชนครึ่งหนึ่ง โดยที่ประชุมรับรองทุกประเด็นเรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่านโยบายที่ออกมาจะเป็นประโยชน์ให้กับประชาชน
จากนั้น ไพบูลย์ แถลงผลการประชุมว่า หัวหน้าพรรคฯ มอบหมายให้ตนทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมใหญ่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองฯ มาตรา 43 ที่กำหนดให้พรรคการเมืองต้องจัดทำรายงานพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทิน เพื่อเสนอในที่ประชุมใหญ่ในรอบปี ภายในเดือนเมษายน
โดยที่ประชุมเห็นชอบการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองที่ดำเนินการ ตามที่ สันติ เป็นผู้นำเสนอ และเห็นชอบรายงานการเงินของพรรคในรอบปี ตามที่ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคฯ เสนอ นอกจากนั้น ที่ประชุมได้รับรองและเห็นชอบเรื่องการนำเสนอ 20 นโยบายสำหรับหาเสียงของพรรคฯ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เห็นชอบทั้ง 20 นโยบาย ที่มีประเด็นสำคัญ แยกเป็น 3 นโยบาย ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน คือ 1. ลดค่าไฟฟ้า เหลือ 2.50 บาท เพื่อช่วยประชาชน และ 2.70 บาท ช่วยภาคอุตสาหกรรม 2. ลดค่าน้ำมันเบนซิน เหลือลิตรละ 25.99 บาท, ดีเซลเหลือลิตรละ 28.07 บาท โดยยึดหลักให้ความยุติธรรม ไม่เพิ่มภาระประชาชน ไม่เห็นด้วยเก็บภาษีสรรพามิต และกองทุนน้ำมัน และ 3. ลดค่าแก๊ส
ส่วน 7 นโยบายเพิ่มเงินในบัญชีให้ประชาชนโดยตรง คือ 1. บัตรประชารัฐ 700 พร้อมวงเงินประกันชีวิต 2 แสนบาท 2. โครงการ แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ 3. เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 4. ให้ทุนการเพาะปลูกเกษตรกร 7.5 ล้านครัวเรือน ที่ลงทะเบียน ครัวเรือนละ 30,000 บาท 5. สร้างอาชีพผู้ถือบัตรประชารัฐ 1 ล้านคน โดยให้ทุนรายละ 3 หมื่นบาท 6. ลดต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้ชาวนา ไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ เป็นเงิน 30,000 บาท และ 7. สนับสนุนปุ๋ยคนละครึ่ง โดยให้รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือประชาชนครึ่งหนึ่ง โดยที่ประชุมรับรองทุกประเด็นเรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่านโยบายที่ออกมาจะเป็นประโยชน์ให้กับประชาชน