พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประชุมมอบนโยบายการศึกษาและแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย ‘เรียนดี มีความสุข’
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวตอนหนึ่งว่า มีนโยบายลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา ประกอบด้วย ปรับวิธีการประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา ลดขั้นตอน มุ่งผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนถิ่น โดยโยกย้ายกลับภูมิลำเนาเดิมด้วยความโปร่งใสไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง รวมถึงแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา จัดหาอุปกรณ์สอนและสวัสดิการ คือ 1 ครู 1 แท็บเล็ต
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง โดยให้เด็กเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เรียนฟรี มีงานทำ และยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดย 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวต่อว่า นโยบายอุปกรณ์การเรียน ต้องยอมรับว่า ผู้มีโอกาสก็จะมีสื่อการเรียนการสอน แต่ผู้ด้อยโอกาส อาจจะไม่มี ดังนั้น เพื่อความเท่าเทียมเสมอภาคทางการศึกษา จึงต้องจัดการแท็บเล็ต ส่วนการดำเนินการ ต้องมาศึกษาและดูงบประมาณในการดำเนินการ โดยดูว่า สามารถชื้อได้หรือไม่ ถ้าซื้อไม่ได้อาจจะเช่า หรือ ยืม โดยทำอย่างไรให้ทั่วถึง แต่อยู่บนพื้นฐานว่าสื่อการเรียนการสอนต้องมีก่อน สามารถเข้าถึงสื่อการเรียนการสอนได้ทุกที่ ทั้งนี้ จะยึดผู้เรียนเป็นศุนย์กลางในการขับเคลื่อนและดำเนินการ
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวตอนหนึ่งว่า มีนโยบายลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา ประกอบด้วย ปรับวิธีการประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา ลดขั้นตอน มุ่งผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนถิ่น โดยโยกย้ายกลับภูมิลำเนาเดิมด้วยความโปร่งใสไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง รวมถึงแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา จัดหาอุปกรณ์สอนและสวัสดิการ คือ 1 ครู 1 แท็บเล็ต
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง โดยให้เด็กเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เรียนฟรี มีงานทำ และยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดย 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวต่อว่า นโยบายอุปกรณ์การเรียน ต้องยอมรับว่า ผู้มีโอกาสก็จะมีสื่อการเรียนการสอน แต่ผู้ด้อยโอกาส อาจจะไม่มี ดังนั้น เพื่อความเท่าเทียมเสมอภาคทางการศึกษา จึงต้องจัดการแท็บเล็ต ส่วนการดำเนินการ ต้องมาศึกษาและดูงบประมาณในการดำเนินการ โดยดูว่า สามารถชื้อได้หรือไม่ ถ้าซื้อไม่ได้อาจจะเช่า หรือ ยืม โดยทำอย่างไรให้ทั่วถึง แต่อยู่บนพื้นฐานว่าสื่อการเรียนการสอนต้องมีก่อน สามารถเข้าถึงสื่อการเรียนการสอนได้ทุกที่ ทั้งนี้ จะยึดผู้เรียนเป็นศุนย์กลางในการขับเคลื่อนและดำเนินการ