ที่ ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ‘พรรคเพื่อไทย’ จัดงานแถลงข่าว ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขตทั่วประเทศ และเปิดตัวนโยบายใหม่ โดยพรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคแรก ที่มีการเปิดตัวผู้รับสมัครรับเลือกตั้งครบ 400 เขต หลัง กตต. ได้เผยแพร่จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการเลือกตั้งปี 2566 ครบ 400 เขต เมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีแฟนคลับของว่าที่ผู้สมัครในเขตต่างๆ เดินทางมาให้กำลังใจเต็มพื้นที่กิจกรรม
สำหรับแกนนำคนสำคัญที่มาร่วมงานวันนี้ อาทิ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1 ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ และ ‘นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค
นพ.ชลน่าน กล่าวบนเวที ว่ายุทธศาสตร์และเป้าหมายในการเลือกตั้ง จะต้องชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน พร้อมเปิด 3 ปัจจัยสำคัญในการต่อสู้ศึกเลือกตั้ง 1) ผู้นำที่มีความพร้อม มีคุณสมบัติ หลากหลายช่วงอายุทั้งคนรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ และมีแคนดิเดตนายกฯ ช่วยฝ่าวิกฤตที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ 2. นโยบายที่ดีผ่านกระบวนการคิดใหญ่ ทำเป็น 3. มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบเขต และบัญชีรายชื่อ ที่เข้าถึงพื้นที่และเข้าใจประชาชน
“เรามีความพร้อมที่จะส่งผู้สมัคร 400 คน เข้าแข่งขันในสนามเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดแลนด์สไลด์ เปลี่ยนแปลงประเทศให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เรามีความแตกต่างทั้งอายุ อาชีพ และบางคนเป็นทายาททางการเมือง ที่พวกเขาต้องการทำงานให้เข้าถึงความต้องการของประชาชน” นพ.ชลน่าน กล่าว
ทั้งนี้ยังระบุว่า นโยบายพรรคเพื่อไทย สนับสนุนประชาธิปไตยกินได้ จับต้องได้ ทำลายการสืบทอดอำนาจรัฐประหาร และทำลายอำนาจ ส.ว. 250 เสียง ออกไปจากรัฐสภา ขจัดระบอบประยุทธ์ออกไป ส่ง 3 ป. กลับบ้าน ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
ด้าน แพทองธาร กล่าวบนเวทีว่า นโยบายคิดใหญ่ ทำเป็น หลังจากเกิดรัฐประหาร โควิด สงครามการค้า ผู้นำไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่รู้เท่าทันเศรษฐกิจโลก ไม่ทันเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ปัญหาสะสมมาเรื่อยๆ ทั้งโครงสร้างเศรษฐกิจและการเมืองที่อ่อนแอลง วิกฤตระดับนี้ถ้าคิดไม่ใหญ่ เอาไม่อยู่
พร้อมกล่าวนโยบายใหม่ที่เปิดตัวครั้งนี้ 1. นโยบายแก้จนลดช่องว่างรายได้ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจระดับรากหญ้า 2. การจัดตั้งศูนย์กลางเทคโนโลยีการเงินสมัยใหม่ในอาเซียน สนับสนุน blockchain ระดมทุนเกษตรกรและ SME สนับสนุนศิลปินผ่านการขาย NFT และ 3. นโยบายการแก้ปัญหา PM 2.5 ที่ต้นเหตุและศึกษาให้เกิดความร่วมมือในการยับยั้งปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก และการแก้ไขปัญหาร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน
“ขอให้คนชนะการติดตั้งอย่างถล่มทลาย ชนะใจของประชาชน ขอให้ประเทศไทยมีพรรคเพื่อไทยที่จริงใจรักประชาชนอย่างแท้จริง ดูแลชีวิตของประชาชน เราจะร่วมกันแก้ปัญหาที่สะสมมา 8 ปี ให้เบาบางและหายไปในที่สุด” แพทองธาร กล่าว
ขณะที่เศรษฐา กล่าวว่า 8 ปีการบริหารของรัฐบาลที่ผ่านมาประเทศตกต่ำ ตนเห็นความเดือดร้อน ความเสียหาย และความยากลำบากของประชาชน รายได้น้อยลงสวนกับรายจ่ายที่สูงขึ้น ความไม่เท่าเทียมทางเพศสภาพ คนมีอำนาจกดขี่ประชาชน และผู้นำที่ไร้หัวใจ ขับไล่คนมีศักยภาพและรักประเทศให้ออกจากแผ่นดินเกิด เพียงเพราะพวกเขาไม่อยู่ภายใต้โอวาท
“ประชาชนคาดหวังว่าเลือกตั้งจะเปลี่ยนแปลงประเทศ 400 เขต คือตัวแทนของประชาชนที่จะมานำพาชีวิตดีขึ้น วันนี้จึงอยากจะเน้นถึงเศรษฐกิจปากท้อง และความคับแค้นใจของประชาชน” เศรษฐา กล่าว
ทั้งนี้ ได้ระบุว่า ด้วยนโยบายกระตุ้นใเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องจุดประกายเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจไทยให้กลับมาวิ่งฉลุยอีกครั้ง นำธุรกิจไม่เสียภาษีเข้าสู่ระบบจัดเก็บภาษี นำระบบเหรียญดิจิตอลใส่กระเป๋าเงิน และเหรียญจะต้องใช้ในระยะ 4 กิโลเมตร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ใช้จ่ายในบ้านด้วยระบบดิจิตอล เพื่อที่จะสร้างงานสร้างรายได้สร้างโอกาส
ข้อสอง เปิดประตูการค้าต่างประเทศ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะสร้างความสัมพันธ์ระดับประเทศให้มากขึ้น และพาสปอร์ตไทยจะต้องใช้ได้ในหลายประเทศโดยไม่ให้มีผลเชิงลบต่อการท่องเที่ยว จะมีนโยบายเพื่อนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้นและให้ทั่วโลกนำเงินมาฝากที่ประเทศไทย
ข้อสาม สิทธิเสรีภาพของประชาชน จากความไม่เท่าเทียมในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ระบบเส้นสาย เอื้อประโยชน์พรรคพวก รวมถึงเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารให้เป็นระบบสมัครใจ เป็นอาชีพที่แข่งขันกับภาคเอกชน รวมถึงเรื่องเพศสภาพและสิทธิความหลากหลายทางเพศ ทุกคนมีสิทธิและเสียงเท่ากัน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะไม่สนับสนุนอภิสิทธิ์ชน ปฏิรูปการใช้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม นำศักดิ์ศรีคืนกับประชาชน สังคมเช่นสายจะต้องหมดหรือเบาบางลง
“จุดยืนของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะทำให้ประชาชนทุกคน ทุกกลุ่มมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีศักดิ์ศรี มีกินมีใช้ ว่าที่ผู้สมัคร 400 เขต จะนำนโยบายไปให้ประชาชนได้เข้าใจและเข้าถึงให้มากที่สุด ขออวยพรให้ทุกคนชนะการเลือกตั้งนี้ ทำให้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล”
สำหรับแกนนำคนสำคัญที่มาร่วมงานวันนี้ อาทิ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1 ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ และ ‘นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค
นพ.ชลน่าน กล่าวบนเวที ว่ายุทธศาสตร์และเป้าหมายในการเลือกตั้ง จะต้องชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน พร้อมเปิด 3 ปัจจัยสำคัญในการต่อสู้ศึกเลือกตั้ง 1) ผู้นำที่มีความพร้อม มีคุณสมบัติ หลากหลายช่วงอายุทั้งคนรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ และมีแคนดิเดตนายกฯ ช่วยฝ่าวิกฤตที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ 2. นโยบายที่ดีผ่านกระบวนการคิดใหญ่ ทำเป็น 3. มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบเขต และบัญชีรายชื่อ ที่เข้าถึงพื้นที่และเข้าใจประชาชน
“เรามีความพร้อมที่จะส่งผู้สมัคร 400 คน เข้าแข่งขันในสนามเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดแลนด์สไลด์ เปลี่ยนแปลงประเทศให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เรามีความแตกต่างทั้งอายุ อาชีพ และบางคนเป็นทายาททางการเมือง ที่พวกเขาต้องการทำงานให้เข้าถึงความต้องการของประชาชน” นพ.ชลน่าน กล่าว
ทั้งนี้ยังระบุว่า นโยบายพรรคเพื่อไทย สนับสนุนประชาธิปไตยกินได้ จับต้องได้ ทำลายการสืบทอดอำนาจรัฐประหาร และทำลายอำนาจ ส.ว. 250 เสียง ออกไปจากรัฐสภา ขจัดระบอบประยุทธ์ออกไป ส่ง 3 ป. กลับบ้าน ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
ด้าน แพทองธาร กล่าวบนเวทีว่า นโยบายคิดใหญ่ ทำเป็น หลังจากเกิดรัฐประหาร โควิด สงครามการค้า ผู้นำไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่รู้เท่าทันเศรษฐกิจโลก ไม่ทันเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ปัญหาสะสมมาเรื่อยๆ ทั้งโครงสร้างเศรษฐกิจและการเมืองที่อ่อนแอลง วิกฤตระดับนี้ถ้าคิดไม่ใหญ่ เอาไม่อยู่
พร้อมกล่าวนโยบายใหม่ที่เปิดตัวครั้งนี้ 1. นโยบายแก้จนลดช่องว่างรายได้ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจระดับรากหญ้า 2. การจัดตั้งศูนย์กลางเทคโนโลยีการเงินสมัยใหม่ในอาเซียน สนับสนุน blockchain ระดมทุนเกษตรกรและ SME สนับสนุนศิลปินผ่านการขาย NFT และ 3. นโยบายการแก้ปัญหา PM 2.5 ที่ต้นเหตุและศึกษาให้เกิดความร่วมมือในการยับยั้งปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก และการแก้ไขปัญหาร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน
“ขอให้คนชนะการติดตั้งอย่างถล่มทลาย ชนะใจของประชาชน ขอให้ประเทศไทยมีพรรคเพื่อไทยที่จริงใจรักประชาชนอย่างแท้จริง ดูแลชีวิตของประชาชน เราจะร่วมกันแก้ปัญหาที่สะสมมา 8 ปี ให้เบาบางและหายไปในที่สุด” แพทองธาร กล่าว
ขณะที่เศรษฐา กล่าวว่า 8 ปีการบริหารของรัฐบาลที่ผ่านมาประเทศตกต่ำ ตนเห็นความเดือดร้อน ความเสียหาย และความยากลำบากของประชาชน รายได้น้อยลงสวนกับรายจ่ายที่สูงขึ้น ความไม่เท่าเทียมทางเพศสภาพ คนมีอำนาจกดขี่ประชาชน และผู้นำที่ไร้หัวใจ ขับไล่คนมีศักยภาพและรักประเทศให้ออกจากแผ่นดินเกิด เพียงเพราะพวกเขาไม่อยู่ภายใต้โอวาท
“ประชาชนคาดหวังว่าเลือกตั้งจะเปลี่ยนแปลงประเทศ 400 เขต คือตัวแทนของประชาชนที่จะมานำพาชีวิตดีขึ้น วันนี้จึงอยากจะเน้นถึงเศรษฐกิจปากท้อง และความคับแค้นใจของประชาชน” เศรษฐา กล่าว
ทั้งนี้ ได้ระบุว่า ด้วยนโยบายกระตุ้นใเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องจุดประกายเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจไทยให้กลับมาวิ่งฉลุยอีกครั้ง นำธุรกิจไม่เสียภาษีเข้าสู่ระบบจัดเก็บภาษี นำระบบเหรียญดิจิตอลใส่กระเป๋าเงิน และเหรียญจะต้องใช้ในระยะ 4 กิโลเมตร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ใช้จ่ายในบ้านด้วยระบบดิจิตอล เพื่อที่จะสร้างงานสร้างรายได้สร้างโอกาส
ข้อสอง เปิดประตูการค้าต่างประเทศ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะสร้างความสัมพันธ์ระดับประเทศให้มากขึ้น และพาสปอร์ตไทยจะต้องใช้ได้ในหลายประเทศโดยไม่ให้มีผลเชิงลบต่อการท่องเที่ยว จะมีนโยบายเพื่อนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้นและให้ทั่วโลกนำเงินมาฝากที่ประเทศไทย
ข้อสาม สิทธิเสรีภาพของประชาชน จากความไม่เท่าเทียมในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ระบบเส้นสาย เอื้อประโยชน์พรรคพวก รวมถึงเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารให้เป็นระบบสมัครใจ เป็นอาชีพที่แข่งขันกับภาคเอกชน รวมถึงเรื่องเพศสภาพและสิทธิความหลากหลายทางเพศ ทุกคนมีสิทธิและเสียงเท่ากัน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะไม่สนับสนุนอภิสิทธิ์ชน ปฏิรูปการใช้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม นำศักดิ์ศรีคืนกับประชาชน สังคมเช่นสายจะต้องหมดหรือเบาบางลง
“จุดยืนของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะทำให้ประชาชนทุกคน ทุกกลุ่มมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีศักดิ์ศรี มีกินมีใช้ ว่าที่ผู้สมัคร 400 เขต จะนำนโยบายไปให้ประชาชนได้เข้าใจและเข้าถึงให้มากที่สุด ขออวยพรให้ทุกคนชนะการเลือกตั้งนี้ ทำให้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล”
