เกมทวงสิทธิ ‘คนเพื่อไทย’ ชิงเจ้าสภาฯ

21 มิ.ย. 2566 - 09:52

  • จับตาสถานการณ์ ‘ศึกภายใน’ พรรคเพื่อไทย จากปรากฏการณ์ ‘ลูกพรรค’ ท้วงศักดิ์ศรีพรรคใหญ่ ขอเปิดหน้าแลกชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ‘ก้าวไกล’

Pheuthai-Party-Agreement-of-the-House-of-Representatives-SPACEBAR-Hero
เหนือความคาดหมายพอสมควร สำหรับการประกาศรับรอง ส.ส. จาก กกต. จำนวนกว่า 500 คน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีข้อมูลหลุดถึงมือนักข่าว ว่ามีผู้ชนะการเลือกตั้งทั้งหมด 71 คน อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆ ไม่รู้จะมีการลงดาบแจกใบย้อนหลังหรือไม่ ก็คงต้องว่ากันเรื่องของอนาคต สเต็ปต่อไปคือการโหวตเลือกเบอร์ 1 สภาล่าง อย่างตำแหน่ง ‘ประธานสภาผู้แทนราษฏร’ ที่ก่อนหน้านี้ตลบอบอวนด้วยหม่านฝุ่นความสับสน ชิงชั้นไว้เชิงเปิดหน้าเข้าแลกระหว่างพรรคอันดับ 1 ‘ก้าวไกล’ กับ ‘เพื่อไทย’ ในฐานะรองแชมป์ที่มีจำนวนเก้าอี้ทิ้งห่างแค่ 10 ตัว 

แม้ระยะหลังความตรึงเครียดของ ‘พระเอก’ และ ‘พระรอง’ จะดูคลี่คลายลงจาก ‘เสี่ยอ้วน’ ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนักรบห้องแอร์ตัวตึง ได้ออกมาพูดย้ำหลักการประชาธิปไตย สนับสนุนคนจากพรรคอันดับหนึ่งมีสิทธิโดยชอบที่จะครอบครองบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ โดยแลกกับ ‘รองประธานสภาฯ’ 2 ที่นั่งให้กับเพื่อไทย 

ยังไม่ทันที่ประเด็นจะสะเด็ดน้ำ ก็มี ‘แชตหลุด’ จากค่ายสีแดง เป็นการตั้งคำถามของ ‘ลูกพรรค’ ถึงกรณีที่มีการให้ข่าวเรื่องประธานสภาฯ ของภูมิธรรม (บางรายงานบอกว่าเป็นขาใหญ่ก๊วนภาคอีสาน)  

ถ้อยคำแสดงความไม่พอใจมีส่วนสำคัญสรุปได้ว่า กรณีผู้บริหารพรรคบางคนหนุนพรรคก้าวไกล โดยไม่ไถ่ถามเสียงข้างมากจาก ว่าที่ ส.ส. ในพรรค พร้อมเรียกร้องให้ ‘หมอชลน่าน’ (ศรีแก้ว) รวมถึงกรรมการบริหารพรรค นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 มิถุนายน 2566 (วันนี้)  

เน้นย้ำว่าบอร์ดทำตามกฎกติกา ยึดเสียงข้างมากเป็นหลัก ให้สมกับพี่น้องประชาชนให้การสนับสนุน โดยเฉพาะ ว่าที่ ส.ส. อีสาน ถือว่า ได้รับการสนับสนุนชนะการเลือกตั้งได้ที่นั่งครอบครองมากสุด จะต้องฟังเสียงข้างมากเท่านั้น...จากน้ำ (เริ่ม) นิ่งกลายเป็นเชี่ยวกราดขึ้นทันใด  

ยังไม่ทันที่พรรคเพื่อไทยจะเริ่มเปิดฟอร์ลงานสัมมนา ‘พรนภัส ตะปะสา’ สหายนักข่าวร่วมสำนัก (วันนี้เธอเดินทางไปติดตามความเคลื่อนไหวการประชุมด้วย) ก็ส่งข้อความผ่าน ‘แชตส่วนตัว’ มาเช่นกัน โดยส่งประเด็นการให้สัมภาษณ์ของกรรมาการบริหารคนสำคัญอย่าง ‘ชลน่าน ศรีแก้ว’ และ ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ ซึ่งสอดคล้องกับปรากฏการณ์ที่กล่าวไว้เบื้องต้น

‘ประเสริฐ’ ได้บอกกับนักข่าวว่า ช่วงบ่ายจะมีการหารือกับลูกพรรคกรณีที่กำลังเป็นกระแสอยู่ พร้อมยอมรับหลังเลือกตั้งยังไม่ได้พูดคุยกับลูกทีมถึงความเห็นด้านต่างๆ ขณะที่ ‘ชลน่าน’ ได้ขยายใจความของเลขาธิการพรรคว่า พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมือง ความเห็นต่างย่อมเป็นเรื่องธรรมดา และถือเป็นสิ่งสวยงามตามครรลองประชาธิปไตย ในฐานะฝ่ายบริหารก็ต้องรับฟัง 

เมื่อถามต่อถึงประเด็นที่ ‘พลังประชารัฐ’ จะเสนอชื่อ ‘สุชาติ ตันเจริญ’ จากเพื่อไทย เข้าชิงบัลลังก์ประธานสภาฯ ชลน่าน อธิบายว่า พรรคไม่สามารถห้ามให้คนอื่นได้

“เราไปห้ามพรรคอื่นในการเสนอไม่ได้ เขาอาจเสนอได้ แต่การบริหารจัดการของพรรคเรา คนของเราเองต้องเป็นไปตามความเห็นของพรรค เป็นไปตามมติพรรค ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้ามีการเสนอชื่อผม ผมประกาศถอนตัวกลางสภาฯ พูดตรงนี้ไว้เลยนะครับ ถ้ามีการเสนอชื่อผมโดยที่เราไม่รู้” 

หมอชลน่าน ทิ้งท้ายวิสัจชนาในประเด็น ‘ดีลลับ’ ว่า ประเด็นที่มีคนพยายามทำให้เห็นว่าเพื่อไทยจะจับมือกับพลังประชารัฐ เป็นกระบวนการต่อเนื่อง ที่ทำให้พรรคเพื่อไทย ‘เจ็บ’ และจะไม่โง่ให้พรรคเพื่อไทยถูกทำลายต่อ...ชัดเจนแจ่มแจ้ง 

อย่างไรก็ดีกูรูนอกสนามหลายคนทำนายกันว่า การสัมมนาช่วงบ่ายวันนี้ อาจมีการ ‘หย่าศึก’ ภายใน จากบารมี ‘อุ๊งอิ๊ง - เศรษฐา’ ในฐานะผู้บรรยายพิเศษ ที่ก่อนหน้านี้มักแสดงท่าทีสนับสนุนเครื่องจักรสีส้ม นั่งเก้าอี้ ‘นายกฯ - ปธ.สภาฯ’ ตามกติกาเคารพเสียงข้างมาก ผนวกกับกระแสความตามลมที่ลือกันว่า ‘แพทองธาร’ อยากทำการเมืองแบบ ‘คนรุ่นใหม่’ จึงเดาได้ไม่ยากว่า ถ้าให้ ‘แม่อิ๊ง’ วินิจฉัยประเด็น คำตอบจะออกมาทิศทางไหน เพื่อให้การเจรจาเดินหน้าของ ‘รัฐบาลในฝัน’ เข้าใกล้ความจริงมากที่สุด ตามครรลองและมารยาททางการเมือง 

ความเรียงฉบับนี้อาจถูกเผยแพร่ตามหลังการหาข้อสรุปของพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะลงเอยอย่างไร ผู้เขียนให้คำมั่นว่านำมาประมวลเพื่อความครบถ้วนของประเด็นในงานเขียนชิ้นต่อไป 

อย่างไรก็ดี ท้าวความในย่อหน้าแรกแล้วถึงประเด็นการรับรอง ส.ส. ก็จะขอทิ้งท้ายไว้ให้คอการเมืองได้เสพพอเป็นอรรถรส ประเด็นข่าวพี่ใหญ่ค่ายบูรพาพยัฆค์ ‘บิ๊กป้อม’ ส.ส. หมาดๆ ป้ายแดง แอบย่องบินลัดฟ้าข้ามทวีปไปประเทศอังกฤษช่วงกลางดึงของวันรายงานตัว พร้อมกับคนใกล้เพียงชิดไม่กี่คน โดยมีกำหนดเดินทางกลับวันที่ 25 มิ.ย. 

แน่นอน ‘ประเทศผู้ดี’ มักถูกตั้งข้อครหาทางการเมืองกรณี ‘ดีลลับ’ หลายครั้ง จึงไม่แปลกที่ ‘พลเอกประวิตร’ จะถูกเชื่อมโยงจากนักวิเคราะห์ - วิแคะ ถึงประเด็น ‘ไปหาใครหรือเปล่า’ และจังหวะที่เครื่องแลนดิ้งสู่สนามบินสุวรรณภูมิ  ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยการประชุมของ 8 พรรคพันธมิตร และคาดการณ์เล่นๆ ว่าจะเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ ‘พิธา’ จะหายโควิดพอดี...เป๊ะมากเวอร์ 

แค่หอมปากหอมคอเป็นพอกับประเด็นลับลมคมนัย การเมืองไทยยากยิ่งแก่การทายทักล่วงหน้า...

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์