



นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมปราศรัยใหญ่ ในงานแลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น โดยทันทีที่เดินทางมาถึงมี แกนนำพรรคเพื่อไทย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.จังหวัดเลย เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ศรัณย์ ทิมสุวรรณ โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นการลงพื้นที่หาเสียงในนามพรรคเพื่อไทยครั้งแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะลงพื้นที่ในนามครอบครัวเพื่อไทย โดยจุดแรกที่ลงพื้นที่ปราศรัยคือที่สนามกีฬากลางจังหวัด อ.เมือง จ.เลย
ทั้งนี้ แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย ว่า การลงพื้นที่หาเสียงครั้งนี้ถือเป็นการเดินสายหาเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคเพื่อไทย หลังจากนี้พรรคจะเดินหน้าหาเสียงทั่วประเทศ เพื่อพบประชาชนให้ได้มากที่สุด ในส่วนของตนที่ยังสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้จะพยายามจะพยายามลงพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เมื่อใกล้คลอดจะปรับเป็นนั่งรถไปแทน โดยพยายามไปให้ได้มากที่สุดโดยปรึกษาคุณหมอตลอด จะไม่ทำอะไรให้มากเกินไป
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้นแต่มีการพูดถึงการจับมือทางการเมืองหลังเลือกตั้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อนำ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้าน ซึ่ง แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่เคยคุยกันเลย เราจะเดินสายอุ้มท้องหาเสียงต่อไป เพื่อเป้าหมายเลนส์สไลด์นี่คือสิ่งที่นี่คือเป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจทำ
เมื่อถามย้ำว่า ทักษิณ ระบุว่าจะกลับบ้านเมื่อใดให้ แพทองธาร จะเป็นผู้ประกาศนั้น แพทองธาร ตอบว่า “ยังไม่ได้บอกจะกลับเมื่อไหร่อย่างไร ที่บอกให้อิ๊งค์เป็นคนบอกก็ตามนั้น ส่วนจะกลับมาแบบไหนนั้น คุณพ่อออกไปหลายปีแล้ว คงมีวิธีและวิธีการว่าจะมาอย่างไร อิ๊งค์ก็เคาพรการตัดสินใจ และท่านก็พูดเองว่าจะไม่เอาพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้อง ดังนั้นการที่มาอยู่ตรงนี้ พรรคเพื่อไทยอยู่ตรงนี้ เราจะมุ่งหน้าหาเสียงทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องพาทักษิณกลับบ้าน ขอให้แยกเรื่องกัน”
เมื่อถามอีกว่า การจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตัดไปได้เลยใช่หรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า ตนไม่เคยคุย ส่วนข่าวที่ออกมาจะกระทบกับกระแสพรรคหรือไม่นั้น ตนคิดว่าประชาชนติดตามข่าวน่าจะมีวิจารณญาณว่าเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ตนไม่ได้คุยจริงๆ ยังไม่มีดีล ไม่ได้คุย ก็ไม่รู้จะตอบประชาชนอย่างไร
เมื่อถามว่าตอนนี้ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ออกมาโจมตีทักษิณหนักมาก พรรคจะดำเนินการอย่างไร ณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีแนวทางตอบโต้กับจตุพร หรือใครก็ตามที่วิพากษ์วิจารณ์ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบาย เราเชื่อว่าการทุ่มเททำงานหนักเพื่อนำประชาธิปไตยกลับคืนมา เปลี่ยนแปลงรัฐบาลเอานโยบายเพื่อไทยแก้ปัญหาประชาชนคือเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง ต้องทำให้สำเร็จให้ได้
สำหรับจตุพร แม้เหตุการณ์ตอนนี้ก็ไม่เคยรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ แต่ถ้าสื่อสารถึงกันได้บ้าง อยากบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าจะเพียงพอหรือได้ข้อยุติสำหรับการแสดงท่าทีแล้วหรือไม่ ขอให้พวกเราพี่ๆ น้องๆ ได้ทำงานในสนามเลือกตั้ง เราไม่ทะเลาะกับจตุพร หากไม่สบายใจก็ไม่เป็นไร หากจตุพรจะหันมาที่ตน ตนยังพร้อมทำงานในฐานผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยต่อไป โดยไม่แสดงความเป็นปฎิปักษ์
“อยากให้มองมาที่พรรคเพื่อไทย เป็นพี่ เพื่อน น้อง ที่เคยยืนเคียงข้างกัน วันนี้เราทำงานหนักเพื่อนำบ้านเมืองให้รอดจากวิกฤต ดังนั้นขอให้เราได้มีสมาธิทำหน้าที่ เราต่างเคยยืนเคียงข้างทักษิณ ในสนามเลือกตั้ง เคียงข้างผู้นำของพรรคการเมืองนี้ตลอด วันนี้ผมยืนข้าง แพทองธาร พี่ก็ทราบว่าน้องอิ๊งค์มีหัวใจเป็นคนเสื้อแดง เติบโตมากับการเห็นภาพการถูกกระทำของคนเสื้อแดง หลั่งน้ำตาให้กับการสูญเสีย กับความเจ็บปวดของคนเสื้อแดง อยากให้พี่นึกถึงภาพวันแบบนั้น ให้น้องอิ๊งค์ได้ทำหน้าที่อย่างที่ควรจะทำ อย่างที่ประชาชนตั้งความหวังอย่างที่ประเทศไทยกำลังรอโอกาส และเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงหากจะไปสนับสนุนพรรคอื่นในฝ่ายประชาธิปไตย คงเป็นด้วยเหตุผลอื่น ไม่น่าจะเป็นเพราะประเด็นที่จตุพรเปิดออกมา และยังเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงส่วนใหญ่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่
ส่วนคนเสื้อแดงที่ไม่สมหวังกับการจัดตัวผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ผมสอบถามกับคณะกรรมการสรรหาอยากให้มีการอธิบายแบบตรงไปตรงมา แต่ที่เปิดตัวไปมีคนเสื้อแดงจำนวนมากที่ได้โอกาส ยืนยันเราไม่เคยคิดทอดทิ้งทำลายน้ำใจกัน หวังเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งพี่น้องเสื้อแดงจะทบทวนวิธีคิดและจับมือร่วมกันเหมือนเดิม และเหมือนที่ แพทองธาร บอก เป้าหมายแลนด์สไลด์ไม่ใช่เพื่อพา นายกฯ ทักษิณ เป็นคนละประเด็นกัน ท่านก็พูดจะกลับหรือไม่อยู่ที่หัวใจท่าน ไม่ได้อยู่ที่พรรคการเมือง ดังนั้นแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย เพื่อเอา ประยุทธ์-ประวิตร กลับบ้าน (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ) เอารัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการกลับบ้าน” นัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แพทองธาร ดูเหมือนสะเทือนใจกับคำพูดของณัฐวุฒิ ทำให้ แพทองธาร กล่าวว่า แน่นอน ตนผ่านมาเยอะเรื่องคนเสื้อแดง แน่นอนว่าหากคนเสื้อแดงยังสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย เราเคารพสิทธิ จะเลือกพรรคใดย่อมได้ อย่างตนที่เป็นคนนำหาเสียงตนก็คือคนเสื้อแดงคนหนึ่ง มีความสูญเสีย มีเหตุการร้ายแรงเกิดขึ้น พูดอีกทีก็สะเทือนใจ
เมื่อถามว่า สิ่งที่จตุพร พูดถึงทักษิณ จะชี้แจงอย่างไร แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มีอะไรให้ชี้แจง
เมื่อถามว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุไม่อยากได้ยินชื่อทักษิณ รู้สึกอย่างไร แพทองธาร หัวเราะพร้อมตอบว่า “ถามคุณพ่อหรือยังคุณพ่อชอบรึเปล่า ล้อเล่นๆ ตลกดี ไม่มีอะไร ท่านอาจจะเครียดหลายอย่าง อาจหงุดหงิด มนุษย์หงุดหงิดได้เข้าใจได้”
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐมีการแก้ไขก็บังคับให้เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ได้ก่อนที่พระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งประกาศ พรรคเพื่อไทยจะเร่งประกาศแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับข้อบังคับของแต่ละพรรค พรรคเพื่อไทยไม่ได้ปรับข้อบังคับข้อนี้ไว้ เราจะยึดตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่เร่งเปิดตัวแคนดิเดตใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีกระบวนการหากจะทำอะไร เรามาจากพี่น้องประชาชน เราจะให้ประชาชนเป็นผู้กำหนด และพรรคเองแม้ยังไม่ประกาศก็เสมือนประกาศไปแล้ว เพราะเราฟังเสียงประชาชน ซึ่งการสำรวจความคิดเห็นต่างๆ ก็ทำให้เห็นว่าใครคือแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ส่วนจะประกาศเมื่อใดนั้นพรรคเพื่อไทยมีความพร้อม เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีการยุบสภาฯ เมื่อใด แต่ยืนยันยุบเมื่อใดเราประกาศทันที และยืนยันจะประกาศ 3 ชื่อแน่นอน
ทั้งนี้ แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย ว่า การลงพื้นที่หาเสียงครั้งนี้ถือเป็นการเดินสายหาเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคเพื่อไทย หลังจากนี้พรรคจะเดินหน้าหาเสียงทั่วประเทศ เพื่อพบประชาชนให้ได้มากที่สุด ในส่วนของตนที่ยังสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้จะพยายามจะพยายามลงพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เมื่อใกล้คลอดจะปรับเป็นนั่งรถไปแทน โดยพยายามไปให้ได้มากที่สุดโดยปรึกษาคุณหมอตลอด จะไม่ทำอะไรให้มากเกินไป
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้นแต่มีการพูดถึงการจับมือทางการเมืองหลังเลือกตั้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อนำ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้าน ซึ่ง แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่เคยคุยกันเลย เราจะเดินสายอุ้มท้องหาเสียงต่อไป เพื่อเป้าหมายเลนส์สไลด์นี่คือสิ่งที่นี่คือเป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจทำ
เมื่อถามย้ำว่า ทักษิณ ระบุว่าจะกลับบ้านเมื่อใดให้ แพทองธาร จะเป็นผู้ประกาศนั้น แพทองธาร ตอบว่า “ยังไม่ได้บอกจะกลับเมื่อไหร่อย่างไร ที่บอกให้อิ๊งค์เป็นคนบอกก็ตามนั้น ส่วนจะกลับมาแบบไหนนั้น คุณพ่อออกไปหลายปีแล้ว คงมีวิธีและวิธีการว่าจะมาอย่างไร อิ๊งค์ก็เคาพรการตัดสินใจ และท่านก็พูดเองว่าจะไม่เอาพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้อง ดังนั้นการที่มาอยู่ตรงนี้ พรรคเพื่อไทยอยู่ตรงนี้ เราจะมุ่งหน้าหาเสียงทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องพาทักษิณกลับบ้าน ขอให้แยกเรื่องกัน”
เมื่อถามอีกว่า การจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตัดไปได้เลยใช่หรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า ตนไม่เคยคุย ส่วนข่าวที่ออกมาจะกระทบกับกระแสพรรคหรือไม่นั้น ตนคิดว่าประชาชนติดตามข่าวน่าจะมีวิจารณญาณว่าเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ตนไม่ได้คุยจริงๆ ยังไม่มีดีล ไม่ได้คุย ก็ไม่รู้จะตอบประชาชนอย่างไร
เมื่อถามว่าตอนนี้ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ออกมาโจมตีทักษิณหนักมาก พรรคจะดำเนินการอย่างไร ณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีแนวทางตอบโต้กับจตุพร หรือใครก็ตามที่วิพากษ์วิจารณ์ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบาย เราเชื่อว่าการทุ่มเททำงานหนักเพื่อนำประชาธิปไตยกลับคืนมา เปลี่ยนแปลงรัฐบาลเอานโยบายเพื่อไทยแก้ปัญหาประชาชนคือเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง ต้องทำให้สำเร็จให้ได้
สำหรับจตุพร แม้เหตุการณ์ตอนนี้ก็ไม่เคยรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ แต่ถ้าสื่อสารถึงกันได้บ้าง อยากบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าจะเพียงพอหรือได้ข้อยุติสำหรับการแสดงท่าทีแล้วหรือไม่ ขอให้พวกเราพี่ๆ น้องๆ ได้ทำงานในสนามเลือกตั้ง เราไม่ทะเลาะกับจตุพร หากไม่สบายใจก็ไม่เป็นไร หากจตุพรจะหันมาที่ตน ตนยังพร้อมทำงานในฐานผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยต่อไป โดยไม่แสดงความเป็นปฎิปักษ์
“อยากให้มองมาที่พรรคเพื่อไทย เป็นพี่ เพื่อน น้อง ที่เคยยืนเคียงข้างกัน วันนี้เราทำงานหนักเพื่อนำบ้านเมืองให้รอดจากวิกฤต ดังนั้นขอให้เราได้มีสมาธิทำหน้าที่ เราต่างเคยยืนเคียงข้างทักษิณ ในสนามเลือกตั้ง เคียงข้างผู้นำของพรรคการเมืองนี้ตลอด วันนี้ผมยืนข้าง แพทองธาร พี่ก็ทราบว่าน้องอิ๊งค์มีหัวใจเป็นคนเสื้อแดง เติบโตมากับการเห็นภาพการถูกกระทำของคนเสื้อแดง หลั่งน้ำตาให้กับการสูญเสีย กับความเจ็บปวดของคนเสื้อแดง อยากให้พี่นึกถึงภาพวันแบบนั้น ให้น้องอิ๊งค์ได้ทำหน้าที่อย่างที่ควรจะทำ อย่างที่ประชาชนตั้งความหวังอย่างที่ประเทศไทยกำลังรอโอกาส และเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงหากจะไปสนับสนุนพรรคอื่นในฝ่ายประชาธิปไตย คงเป็นด้วยเหตุผลอื่น ไม่น่าจะเป็นเพราะประเด็นที่จตุพรเปิดออกมา และยังเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงส่วนใหญ่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่
ส่วนคนเสื้อแดงที่ไม่สมหวังกับการจัดตัวผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ผมสอบถามกับคณะกรรมการสรรหาอยากให้มีการอธิบายแบบตรงไปตรงมา แต่ที่เปิดตัวไปมีคนเสื้อแดงจำนวนมากที่ได้โอกาส ยืนยันเราไม่เคยคิดทอดทิ้งทำลายน้ำใจกัน หวังเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งพี่น้องเสื้อแดงจะทบทวนวิธีคิดและจับมือร่วมกันเหมือนเดิม และเหมือนที่ แพทองธาร บอก เป้าหมายแลนด์สไลด์ไม่ใช่เพื่อพา นายกฯ ทักษิณ เป็นคนละประเด็นกัน ท่านก็พูดจะกลับหรือไม่อยู่ที่หัวใจท่าน ไม่ได้อยู่ที่พรรคการเมือง ดังนั้นแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย เพื่อเอา ประยุทธ์-ประวิตร กลับบ้าน (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ) เอารัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการกลับบ้าน” นัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แพทองธาร ดูเหมือนสะเทือนใจกับคำพูดของณัฐวุฒิ ทำให้ แพทองธาร กล่าวว่า แน่นอน ตนผ่านมาเยอะเรื่องคนเสื้อแดง แน่นอนว่าหากคนเสื้อแดงยังสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย เราเคารพสิทธิ จะเลือกพรรคใดย่อมได้ อย่างตนที่เป็นคนนำหาเสียงตนก็คือคนเสื้อแดงคนหนึ่ง มีความสูญเสีย มีเหตุการร้ายแรงเกิดขึ้น พูดอีกทีก็สะเทือนใจ
เมื่อถามว่า สิ่งที่จตุพร พูดถึงทักษิณ จะชี้แจงอย่างไร แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มีอะไรให้ชี้แจง
เมื่อถามว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุไม่อยากได้ยินชื่อทักษิณ รู้สึกอย่างไร แพทองธาร หัวเราะพร้อมตอบว่า “ถามคุณพ่อหรือยังคุณพ่อชอบรึเปล่า ล้อเล่นๆ ตลกดี ไม่มีอะไร ท่านอาจจะเครียดหลายอย่าง อาจหงุดหงิด มนุษย์หงุดหงิดได้เข้าใจได้”
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐมีการแก้ไขก็บังคับให้เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ได้ก่อนที่พระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งประกาศ พรรคเพื่อไทยจะเร่งประกาศแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับข้อบังคับของแต่ละพรรค พรรคเพื่อไทยไม่ได้ปรับข้อบังคับข้อนี้ไว้ เราจะยึดตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่เร่งเปิดตัวแคนดิเดตใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีกระบวนการหากจะทำอะไร เรามาจากพี่น้องประชาชน เราจะให้ประชาชนเป็นผู้กำหนด และพรรคเองแม้ยังไม่ประกาศก็เสมือนประกาศไปแล้ว เพราะเราฟังเสียงประชาชน ซึ่งการสำรวจความคิดเห็นต่างๆ ก็ทำให้เห็นว่าใครคือแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ส่วนจะประกาศเมื่อใดนั้นพรรคเพื่อไทยมีความพร้อม เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีการยุบสภาฯ เมื่อใด แต่ยืนยันยุบเมื่อใดเราประกาศทันที และยืนยันจะประกาศ 3 ชื่อแน่นอน