‘เพื่อไทย’ ยัน ไม่ยืมมือใครไล่ ‘ก้าวไกล’

26 ก.ค. 2566 - 05:07

  • ‘ประเสริฐ’ ยืนยัน ไม่ได้ยืมมือพรรคขั้วรัฐบาลเดิม ผลัก ‘ก้าวไกล’

  • ย้ำ ยังมองหน้ากันได้

  • เร่งแก้ MOU ให้สอดรับสถานการณ์ปัจจุบัน เหตุหมดโอกาสเสนอชื่อ ‘พิธา’ แล้ว

Pheuthai-Party-confirm-no-lend -someone-hand-relegate-Moveforword-Party-SPACEBAR-Thumbnail
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยกเลิกประชุม 8 พรรคร่วมวานนี้ว่า ไม่มีอะไรมาก แต่เนื่องจากว่า สิ่งที่ 8 พรรคมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการ ยังอยู่ระหว่างการทำงาน ยังต้องตัดสินใจในหลายประเด็น แล้วตอนนั้นเราได้คาดการณ์แล้วว่า ที่ประชุมน่าจะเลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรี ออกไป 

ประเสริฐ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการพูดคุยกับวุฒิสภา โดยยืนยันว่า 13 เสียงเดิม ที่เคยสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลา​ธน​ เลขาธิการ​พรรค​ก้าวไกล​ บอกว่า ยังสนับสนุนเช่นเดิม อีกส่วนหนึ่งที่พรรคเพื่อไทย กำลังประสาน ก็อยู่ระหว่างการพูดคุย ซึ่งบางส่วนตัดสินใจแล้ว และยอมรับว่า หลายคนมีเงื่อนไข มาตรา 112 อยู่ด้วย หลังจากนี้ขอไปทำตัวเลขก่อนว่า สรุปแล้วจะได้จำนวนเท่าไร  นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยอยากได้พูดคุยกับพรรคการเมืองเกือบทั้งหมดแล้ว หลังจากนี้ คงเป็นเรื่องที่ 8 พรรคต้องมาพูดคุยกันอีกครั้ง  

ประเสริฐ ยังยอมรับด้วยว่า หากการประชุมโหวตเรื่องนายกรัฐมนตรีเลื่อนไปต้นเดือนสิงหาคม ทางพรรคเพื่อไทยก็จะมีเวลาในการพูดคุยมากขึ้น อย่างน้อย 1 สัปดาห์โดยประมาณ  

เมื่อถามว่า วานนี้ มีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลแทบจะมองหน้ากันไม่ติดแล้ว ประเสริฐ ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อวานนี้ ยังได้พูดคุยกับ ชัยธวัช รวมถึง พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลทางโทรศัพท์ ซึ่งก็มีความเข้าใจกันดี ถึงเหตุผลในการเลื่อนประชุม และพร้อมที่จะเข้าการร่วมประชุมด้วยเมื่อมีการนัดหมายใหม่ อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคก้าวไกล ถึงการไปหารือกับพรรคขั้วรัฐบาลเดิม ขอนำไปพูดคุยในที่ประชุม 8 พรรคทีเดียว   

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลให้สัมภาษณ์ว่าการที่พรรคเพื่อไทยไปคุยกับพรรคพวกรัฐบาลเดิมเสมือนเป็นการยืมมือเพื่อนพรรคก้าวไกลออกจากร่วมรัฐบาล ประเสริฐ ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง การดำเนินการของพรรคเพื่อไทย ทำตามมติของ 8 พรรคร่วม ไม่มีการตกลงที่จะขอเข้าร่วมรัฐบาล ไม่มีการต่อรองตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรี เพียงแต่เป็นการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองร่วมกัน ก่อนจะย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ยืมมือเพื่อนผลักก้าวไกล เพราะพรรคร่วม 8 ก็ยังมีการพูดและทำงานรวมกันอยู่  

เมื่อถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยจะไปคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ ทางก้าวไกลทราบก่อนหน้านั้นหรือไม่ ประเสริฐ กล่าวว่า เราได้แจ้ง 8 พรรคร่วมไปแล้วว่า เราจะพูดคุยทุกพรรค และออกเป็นกำหนดการสาธารณะให้ทุกคนรับทราบ จึงถือว่า รับรู้   

ส่วนข้อเสนอที่มีการให้รื้อ MOU ที่พรรคก้าวไกลกำหนดขึ้นมา ประเสริฐ กล่าวว่า เมื่อมีการประชุมแบบพรรคก็จะมีการพูดคุยกันว่าจะแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันหรือไม่ เพราะในข้อ 1 นั้น ยังสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ซึ่งตอนนี้โอกาสเป็นไปไม่ได้แล้ว 

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล มีการเสนอให้รัฐสภาทบทวนมติ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมนั้น ประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ขอไปดูรายละเอียดก่อน 

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่า ชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเมื่อถูกเสนอเข้าไปแล้วจะถูกตีตก และไม่สามารถนำกลับมาพิจารณาใหม่ได้เหมือนกรณีพิธา ประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ห่วง เพราะคดีแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยคุณสมบัติครบ ไม่มีประเด็นที่น่ากังวล และหวังว่า เสนอชื่อครั้งแรกจะได้รับการเห็นชอบเลย  

ประเสริฐ ยังกล่าวถึงไทม์ไลน์การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่า ตนคิดว่า รัฐสภาน่าจะพิจารณาเปิดประชุมอีกครั้งหลังจากศาล รัฐธรรมนูญมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว เมื่อมองตามสถานการณ์แล้ว ต้นเดือนสิงหาคมเป็นช่วงของวันหยุดยาว ศาลฯ อาจจะประชุมหรือไม่ก็ได้ หากประชุมไม่ได้ ก็ต้องเป็นสัปดาห์ถัดไป

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์