บรรยากาศที่ทำการพรรคประชาชาติ ในวันประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล มีแกนนำคนสำคัญของแต่ละพรรคต่างทยอยเดินทางเข้ามาตั้งแต่ช่วงบ่าย ซึ่งการให้สัมภาษณ์ของบุคคลสำคัญล้วนยังสงวนท่าทีและยืนยันว่าจะเปิดเผยรายละเอียดช่วงหลังการประชุมเวลา 16.30 น.
โดยเริ่มจากที่เดินทางมาถึงเป็นคนสุดท้าย ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ วันนี้เดินทางมาด้วยท่าทีที่มั่นใจ พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆ ก่อนนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมว่า ตั้งใจมาร่วมประชุมคณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยคิดว่ามีคำถามที่ประชาชนต้องการคำตอบหลายเรื่อง อาทิ เรื่องภัยแล้ง เรื่องอุทกภัย เรื่องเรือดำน้ำ และเรื่องการประชุมสหประชาชาติครั้งแรกในรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ อยากหารือเรื่องกระบวนการการทำงาน จึงอยากนัดประชุมทุก 1-2 สัปดาห์ โดยเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง
เมื่อถามว่าวาระที่สี่ประชุมวันนี้ จะมีการหารือเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาฯ หรือไม่ พิธา ยืนยันว่าไม่มี
ถามต่อว่าการตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลนั้น จะเป็นการละลาบละล้วงข้าราชการปัจจุบันที่ทำงานให้รัฐบาลรักษาการณ์หรือไม่ พิธา ย้ำไม่มีการละลาบละล้วง คณะทำงานจะเป็นผู้พูดคุยกับข้าราชการ แต่หากข้าราชการอยากพูดคุยกับพรรคการเมือง ก็เป็นสิทธิของเขา ก่อนยืนยันอีกครั้งเราไม่เคยเข้าไปละลาบละล้วงขอข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณ
พิธา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินสายพูดคุยหน่วยงานราชการเป็นคนเชิญเราเอง คาดว่าเป็นการเชิญในฐานะพรรคการเมือง ที่อาจมีความกังวลใจอยู่หลายเรื่องที่ค้างวาระในคณะรัฐมนตรีเดิมที่ต้องผลักดัน แต่การพบแต่ละครั้งไม่ได้เข้าไปสั่ง ซึ่งวันนี้จะย้ำในที่ประชุมถึงแนวทางการทำงานเรื่องนี้ให้ระวังมากขึ้นด้วย ก่อนบอกจะปฏิบัติตามหลักการทำงานสากลว่าสามารถทำได้แค่ไหนอย่างไร เพื่อทำให้ประชาชนมีความหวัง และให้ข้าราชการมีภาระน้อยที่สุด
ขณะที่ ‘ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกล ในฐานะเเกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ได้ส่งระเบียบวาระการประชุมมาให้ มีทั้งหมดอยู่ 4 วาระ ประกอบด้วย
วาระที่ 1 ) เรื่องที่ประธานเเจ้งให้ที่ประชุมทราบ วาระที่ 2 ) พิจารณาความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล การจัดทำนโยบายบริหารประเทศ และการมอบหมายภารกิจให้คณะทำงานตามกรอบ ตามกรอบบันทึก MOU วาระที่ 3) เป็นการพูดคุย การทำงานในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านรัฐบาล
ส่วน ประเด็นที่หลายฝ่ายจับตามองในเรื่องของตำแหน่งประธานสภาฯ วันนี้ยังไม่ได้ถูกบรรจุลงไปในวาระการประชุม หากมีผู้เสนอ ก็จะหยิบยก นำเข้าบรรจุลงไปในวาระที่ 4 นั่นก็คือวาระทั่วไป แต่ส่วนตัวมองว่าในเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเฉพาะ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ที่จะต้องพูดคุยกันจนได้ข้อสรุปก่อน จึงจะนำเรื่องดังกล่าวเข้ามาหารือในประชุมของพรรคร่วมฯ
ซึ่งในการทำงานและการแบ่งงานกันนั้น คงจะยังไม่ได้ข้อสรุปในการพูดคุยกันเพียงแค่ครั้งเดียว คงจะต้องมีการพูดคุยกันหลายครั้ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด แต่มั่นใจว่าในเรื่องนี้จะมีทางออกที่ดีอย่างแน่นอน เเละมาถึงตอนนี้ยังไม่ได้มีการระบุตำแหน่งตัวบุคคลในการทำงาน เพราะทางเลขาธิการของพรรคก้าวไกล ส่งเพียงภารกิจกรอบการทำงานมา ซึ่งก็เป็นไปตามบันทึก MOU เมื่อได้ภารกิจแล้วก็จะมาหารือกันตามโครงสร้าง จึงจะจัดตัวบุคคลเข้าไปทำงานในแต่ละตำแหน่ง
ย้ำว่าตอนนี้ขอเน้นในเรื่องกรอบการทำงานก่อน ตามบันทึก MOU ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะขอแถลงอีกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม
สำหรับการเลือกที่สถานที่การหารือในวันนี้ มีกระแสออกมาว่า การใช้ที่ทำการพรรคพลังประชาชาติ เป็นพื้นที่ประชุมร่วมครั้งนี้ เพราะอาจมีการพูดคุยเรื่องการจัดสรรเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมี ‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะผู้อาวุโสของฝ่ายแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เข้ามาเป็นกาวใจระหว่าง ‘ก้าวไกล’ และ ‘เพื่อไทย’ ในการตกผลึกในประเด็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติด้วย
อย่างไรก็ดี ทั้ง ‘พิธา’ และ ‘ชลน่าน’ ต่างปฏิเสธเป็นเสียงตรงกัน ว่าวันนี้ที่ประชุมจะไม่มีการหารือเรื่องเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร
โดยเริ่มจากที่เดินทางมาถึงเป็นคนสุดท้าย ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ วันนี้เดินทางมาด้วยท่าทีที่มั่นใจ พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆ ก่อนนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมว่า ตั้งใจมาร่วมประชุมคณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยคิดว่ามีคำถามที่ประชาชนต้องการคำตอบหลายเรื่อง อาทิ เรื่องภัยแล้ง เรื่องอุทกภัย เรื่องเรือดำน้ำ และเรื่องการประชุมสหประชาชาติครั้งแรกในรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ อยากหารือเรื่องกระบวนการการทำงาน จึงอยากนัดประชุมทุก 1-2 สัปดาห์ โดยเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง
เมื่อถามว่าวาระที่สี่ประชุมวันนี้ จะมีการหารือเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาฯ หรือไม่ พิธา ยืนยันว่าไม่มี
ถามต่อว่าการตั้งคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาลนั้น จะเป็นการละลาบละล้วงข้าราชการปัจจุบันที่ทำงานให้รัฐบาลรักษาการณ์หรือไม่ พิธา ย้ำไม่มีการละลาบละล้วง คณะทำงานจะเป็นผู้พูดคุยกับข้าราชการ แต่หากข้าราชการอยากพูดคุยกับพรรคการเมือง ก็เป็นสิทธิของเขา ก่อนยืนยันอีกครั้งเราไม่เคยเข้าไปละลาบละล้วงขอข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณ
พิธา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินสายพูดคุยหน่วยงานราชการเป็นคนเชิญเราเอง คาดว่าเป็นการเชิญในฐานะพรรคการเมือง ที่อาจมีความกังวลใจอยู่หลายเรื่องที่ค้างวาระในคณะรัฐมนตรีเดิมที่ต้องผลักดัน แต่การพบแต่ละครั้งไม่ได้เข้าไปสั่ง ซึ่งวันนี้จะย้ำในที่ประชุมถึงแนวทางการทำงานเรื่องนี้ให้ระวังมากขึ้นด้วย ก่อนบอกจะปฏิบัติตามหลักการทำงานสากลว่าสามารถทำได้แค่ไหนอย่างไร เพื่อทำให้ประชาชนมีความหวัง และให้ข้าราชการมีภาระน้อยที่สุด
ขณะที่ ‘ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกล ในฐานะเเกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ได้ส่งระเบียบวาระการประชุมมาให้ มีทั้งหมดอยู่ 4 วาระ ประกอบด้วย
วาระที่ 1 ) เรื่องที่ประธานเเจ้งให้ที่ประชุมทราบ วาระที่ 2 ) พิจารณาความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล การจัดทำนโยบายบริหารประเทศ และการมอบหมายภารกิจให้คณะทำงานตามกรอบ ตามกรอบบันทึก MOU วาระที่ 3) เป็นการพูดคุย การทำงานในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านรัฐบาล
ส่วน ประเด็นที่หลายฝ่ายจับตามองในเรื่องของตำแหน่งประธานสภาฯ วันนี้ยังไม่ได้ถูกบรรจุลงไปในวาระการประชุม หากมีผู้เสนอ ก็จะหยิบยก นำเข้าบรรจุลงไปในวาระที่ 4 นั่นก็คือวาระทั่วไป แต่ส่วนตัวมองว่าในเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเฉพาะ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ที่จะต้องพูดคุยกันจนได้ข้อสรุปก่อน จึงจะนำเรื่องดังกล่าวเข้ามาหารือในประชุมของพรรคร่วมฯ
ซึ่งในการทำงานและการแบ่งงานกันนั้น คงจะยังไม่ได้ข้อสรุปในการพูดคุยกันเพียงแค่ครั้งเดียว คงจะต้องมีการพูดคุยกันหลายครั้ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด แต่มั่นใจว่าในเรื่องนี้จะมีทางออกที่ดีอย่างแน่นอน เเละมาถึงตอนนี้ยังไม่ได้มีการระบุตำแหน่งตัวบุคคลในการทำงาน เพราะทางเลขาธิการของพรรคก้าวไกล ส่งเพียงภารกิจกรอบการทำงานมา ซึ่งก็เป็นไปตามบันทึก MOU เมื่อได้ภารกิจแล้วก็จะมาหารือกันตามโครงสร้าง จึงจะจัดตัวบุคคลเข้าไปทำงานในแต่ละตำแหน่ง
ย้ำว่าตอนนี้ขอเน้นในเรื่องกรอบการทำงานก่อน ตามบันทึก MOU ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะขอแถลงอีกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม
สำหรับการเลือกที่สถานที่การหารือในวันนี้ มีกระแสออกมาว่า การใช้ที่ทำการพรรคพลังประชาชาติ เป็นพื้นที่ประชุมร่วมครั้งนี้ เพราะอาจมีการพูดคุยเรื่องการจัดสรรเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมี ‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะผู้อาวุโสของฝ่ายแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เข้ามาเป็นกาวใจระหว่าง ‘ก้าวไกล’ และ ‘เพื่อไทย’ ในการตกผลึกในประเด็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติด้วย
อย่างไรก็ดี ทั้ง ‘พิธา’ และ ‘ชลน่าน’ ต่างปฏิเสธเป็นเสียงตรงกัน ว่าวันนี้ที่ประชุมจะไม่มีการหารือเรื่องเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร
