ไม่พูดคงไม่ได้ กรณีที่ ‘ซูเปอร์โพล’ เผยผลสำรวจเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 4 ส่งท้ายเทศกาลสงกรานต์ (16 เมษายน 66) ทำเอาบรรดาคนการเมืองชุ่มฉ่ำ มั่นใจพอตัว แม้สำนักวิจัยหัวดังกล่าวมักถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องความน่าเชื่อถือจากสังคมบ่อยครั้ง อย่างไรเสีย ก็ถือเป็นข้อมูลสถิติที่น่าสนใจอยู่มากสำหรับ ข้อมูลที่ระบุถึง ‘พรรคภูมิใจไทย’ ที่ได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. เขตเลือกตั้งมาเป็นอันดับสอง รองจาก ‘พรรคเพื่อไทย’ คือ 101 ที่นั่งทั่วประเทศ หรือ 25.3 ของจำนวนที่นั่ง ส.ส. เขตเลือกตั้งทั้งหมด
หากมองภาพจำนวนที่นั่ง ส.ส. นั้นภูมิใจไทยสามารถกวาดกระจายไปทุกกลุ่มจังหวัดแต่ละภาค หากคิดเป็นตามสมการคณิตศาสตร์ ‘เสี่ยหนู’ จะได้ ส.ส.เขตเลือกตั้ง มากที่สุด ในภาคตะวันตก จำนวน 10 ที่นั่ง หรือร้อยละ 50 ส่วนที่เหลือกระจายแทรกเข้าตามภูมิภาคจำนวนมาก ได้แก่ ภาคเหนือ จำนวน 5 ที่นั่งหรือ ร้อยละ 13.5 กรุงเทพมหานคร จำนวน 8 ที่นั่ง หรือ ร้อยละ 24.2 อีสานจำนวน 36 ที่นั่งหรือร้อยละ 27.1 กลาง จำนวน 26 ที่นั่ง หรือร้อยละ 29.2 ภาคตะวันออก จำนวน 6 ที่นั่งหรือร้อยละ 20.7 และภาคใต้จำนวน 10 ที่นั่ง หรือร้อยละ 16.9 ในการศึกษาครั้งนี้
หากมองภาพจำนวนที่นั่ง ส.ส. นั้นภูมิใจไทยสามารถกวาดกระจายไปทุกกลุ่มจังหวัดแต่ละภาค หากคิดเป็นตามสมการคณิตศาสตร์ ‘เสี่ยหนู’ จะได้ ส.ส.เขตเลือกตั้ง มากที่สุด ในภาคตะวันตก จำนวน 10 ที่นั่ง หรือร้อยละ 50 ส่วนที่เหลือกระจายแทรกเข้าตามภูมิภาคจำนวนมาก ได้แก่ ภาคเหนือ จำนวน 5 ที่นั่งหรือ ร้อยละ 13.5 กรุงเทพมหานคร จำนวน 8 ที่นั่ง หรือ ร้อยละ 24.2 อีสานจำนวน 36 ที่นั่งหรือร้อยละ 27.1 กลาง จำนวน 26 ที่นั่ง หรือร้อยละ 29.2 ภาคตะวันออก จำนวน 6 ที่นั่งหรือร้อยละ 20.7 และภาคใต้จำนวน 10 ที่นั่ง หรือร้อยละ 16.9 ในการศึกษาครั้งนี้
‘สนามรบที่ราบสูง’ ปีนี้แบ่งเพิ่มเก้าอี้เป็น 116 ที่นั่ง ซุเปอร์โพลทำนายว่า ‘พรรคตระกูลชินวัตร’ ยังครองแชมป์อีสาน ได้ 78 เก้าอี้ มากกว่า ‘พรรคตระกูลครูใหญ่เนวิน’ 42 เก้าอี้ แต่จุดที่น่าโฟกัสข้อมูลของ ‘สนามเมืองหลวง’ ที่แต่เดิมภูมิใจไทยไร้ซึ่งแม่เหล็ก คว้าน้ำเหลวทุกสมัย แต่รอบนี้ผลสำรวจคาดการไว้ ว่าจะได้ถึง 8 ที่นั่ง ซึ่งผู้ตอบผลสำรวจนี้อาจมาจากกองเชียร์เจ้าของพื้นที่เดิม ที่ถูก ‘พลังดูด’ ย้ายมาก่อนนี้ เช็กลิตส์อดีต ส.ส.กทม. ในปี 2566 พบว่าภูมิใจไทยได้มือดีมาหลายคนทั้งจาก ‘พลังประชารัฐ’ และ ‘เพื่อไทย’ ได้แก่ ‘จักรพันธ์ พรนิมิตร’, ‘กษิดิ์เดช ชุติมันต์’, ‘พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์’ และ ‘ประเดมชัย บุญช่วยเหลือ’
นอกจากนี้ยังมีกำลังแฟนคลับ ‘เอกภพ เหลืองประเสริฐ’ ที่แห่แหนเข้าสนับสนุนแม้จะไม่ได้เป็น ส.ส. มาก่อน แต่สร้างคะแนนจากการช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อนผ่านงานเพื่อสังคม ภายใต้แบรนด์ ‘สายไหมต้องรอด’ เข้ามาเพิ่มฐานเสียง บุคคลมีชื่อเหล่านี้ล้วนอยู่ภายใต้การดูแลของมือแม่ทัพเมืองหลวงมือพระกาฬ อย่าง ‘เสี่ยบี - พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์’ อดีตแกน กปปส. ผู้คว่ำหวอดการเมืองมหานครด้วย
เรื่องผลโพลนี้มาวิเคราะห์เองคงไม่หนักแน่น ต้องถามไถ่ ‘รศ.สุขุม นวลสกุล’ อดีตอธิบการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึงกูรูการเมืองอธิบาย ว่าผลโพลต่างๆ ที่ออกมาไม่ใช่สิ่งการันตีที่มั่นคง เพราะสุดท้ายการจะบอก ว่าภูมิใจไทยลอยลำมาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคะแนนหลังการเลือกตั้ง แต่การที่แกนนำพรรคโดยเฉพาะ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ ที่ได้แสดงความมั่นใจออกมาแล้ว คือเกมการเมืองในการสร้างขวัญกำลังใจให้กับสมาชิก ส่วนตัวภายในใจของเสี่ยหนูอาจไม่เชื่อโพล และอาจมีข้อกังวลหลายอย่างอยู่ภายใน
นอกจากนี้ยังมีกำลังแฟนคลับ ‘เอกภพ เหลืองประเสริฐ’ ที่แห่แหนเข้าสนับสนุนแม้จะไม่ได้เป็น ส.ส. มาก่อน แต่สร้างคะแนนจากการช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อนผ่านงานเพื่อสังคม ภายใต้แบรนด์ ‘สายไหมต้องรอด’ เข้ามาเพิ่มฐานเสียง บุคคลมีชื่อเหล่านี้ล้วนอยู่ภายใต้การดูแลของมือแม่ทัพเมืองหลวงมือพระกาฬ อย่าง ‘เสี่ยบี - พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์’ อดีตแกน กปปส. ผู้คว่ำหวอดการเมืองมหานครด้วย
เรื่องผลโพลนี้มาวิเคราะห์เองคงไม่หนักแน่น ต้องถามไถ่ ‘รศ.สุขุม นวลสกุล’ อดีตอธิบการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึงกูรูการเมืองอธิบาย ว่าผลโพลต่างๆ ที่ออกมาไม่ใช่สิ่งการันตีที่มั่นคง เพราะสุดท้ายการจะบอก ว่าภูมิใจไทยลอยลำมาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคะแนนหลังการเลือกตั้ง แต่การที่แกนนำพรรคโดยเฉพาะ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ ที่ได้แสดงความมั่นใจออกมาแล้ว คือเกมการเมืองในการสร้างขวัญกำลังใจให้กับสมาชิก ส่วนตัวภายในใจของเสี่ยหนูอาจไม่เชื่อโพล และอาจมีข้อกังวลหลายอย่างอยู่ภายใน
เมื่อโยนประเด็นความสำคัญที่สื่อมมวลชนตั้งบุปฉากันไปแล้ว ว่าสูตรการเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน กรณีแรก คือ รัฐบาลขั้วใหม่ประกอบไปด้วย ‘เพื่อไทย - ภูมิใจไทย - พลังประชารัฐ’ และรัฐบาลขั้วเดิมอย่าง ‘พลังประชารัฐ - ภูมิใจไทย - รวมไทยสร้างชาติ’ ซึ่งสมการดังกล่าวนอกจาก ‘พปชร.’ ที่อยู่ทุกขั้ว ก็มี ‘ภท.’ พร้อมสมานฉันท์ทุกก๊ก มีความเป็นไปได้ประการใด
ในส่วนประเด็นผลโพลที่ชูพรรคภูมิใจไทยมาอันดับที่ 2 รองจากพรรคเพื่อไทยนั้น ถือเป็นการสร้างขวัญให้กับพรรค และสามารถดึงดูดผู้ลงคะแนนเสียงได้หรือไม่นั้น รศ. สุขุม มองว่า ข้อเท็จจริงอาจมีส่วนกับคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มคนเมือง เพราะสุดท้ายคนเหล่านี้ย่อมใช้ทั้งข้อมูล และความนิยมส่วนตัวมาพิจารณาในวันลงคะแนนเสียง
“จะเรียกว่าผลสำรวจแบบนี้เป็นแต้มต่อให้ภูมิใจไทยก็อาจใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะคนที่อยู่ในเมืองหรือคนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการศึกษาอาจใช้ประโยชน์จากโพล แต่ชาวบ้านก็ยังคงเชื่อในคนท้องถิ่นอยู่ แต่สำหรับ กทม. เองเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนเสมอ ไม่ใช่เรื่อง่ายที่ภูมิใจไทยจะเจาะไข่แดงได้ง่าย”
ในส่วนประเด็นผลโพลที่ชูพรรคภูมิใจไทยมาอันดับที่ 2 รองจากพรรคเพื่อไทยนั้น ถือเป็นการสร้างขวัญให้กับพรรค และสามารถดึงดูดผู้ลงคะแนนเสียงได้หรือไม่นั้น รศ. สุขุม มองว่า ข้อเท็จจริงอาจมีส่วนกับคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มคนเมือง เพราะสุดท้ายคนเหล่านี้ย่อมใช้ทั้งข้อมูล และความนิยมส่วนตัวมาพิจารณาในวันลงคะแนนเสียง
“จะเรียกว่าผลสำรวจแบบนี้เป็นแต้มต่อให้ภูมิใจไทยก็อาจใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะคนที่อยู่ในเมืองหรือคนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการศึกษาอาจใช้ประโยชน์จากโพล แต่ชาวบ้านก็ยังคงเชื่อในคนท้องถิ่นอยู่ แต่สำหรับ กทม. เองเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนเสมอ ไม่ใช่เรื่อง่ายที่ภูมิใจไทยจะเจาะไข่แดงได้ง่าย”
กูรูการเมืองอาวุโสย้ำคำเดิม ว่าสุดท้ายก็ต้องรอผลคะแนน แต่สำหรับพลังประชารัฐ และภูมิใจไทยมีความเหมือนและแตกต่างกันอยู่ หนึ่งทั้งสองพรรคมีเหมือนกัน คือ ชูนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การจัดตั้งรัฐบาลแบบรวมเสียงข้างมากทั้งสิ้น แต่หากสังเกตดีๆ ภูมิใจไทยเป็นฝ่ายเปิดแผนนี้ก่อนพลังประชารัฐ ที่เพิ่งเริ่มเกมในช่วงหลัง เนื่องจากต้องการดึงเสียงจากแฟนคลับ ‘บิ๊กตู่’ ที่อยากเห็นบ้านเมืองปราศจากความขัดแย้งเท่านั้น และหากพูดเรื่องแต่มต่อการร่วมรัฐบาลขั้วใหม่กับเพื่อไทย ‘พรรคเสี่ยหนู’ มีแต้มต่อมากกว่า
“ภูมิใจไทยสูงกว่า เพราะก้าวข้ามความขัดแย้งแบบเขา คือการไม่กล้าแสดงออก ในขณะที่พลังประชารัฐเองก็แอ็คชันออกมาระดับหนึ่งว่าจะไม่จับมือกับเพื่อไทย หลังมีกระแสไม่เห็นด้วยจากแฟนกลับหลายคน อย่างไรเสียขี้นอยู่กับจำนวนเก้าอี้ที่จะเป็นแต้มต่อสำคัญเท่านั้นที่จะชี้วัดทุกอย่าง โพลเหล่านี้ก็ไม่เที่ยงต้องรอดูต่อไป เพราะความเห็นไม่ใช่คะแนนเก้าอี้อย่างเป็นทางการ” รศ. สุขุม นวลสกุล กล่าวทิ้งท้าย
“ภูมิใจไทยสูงกว่า เพราะก้าวข้ามความขัดแย้งแบบเขา คือการไม่กล้าแสดงออก ในขณะที่พลังประชารัฐเองก็แอ็คชันออกมาระดับหนึ่งว่าจะไม่จับมือกับเพื่อไทย หลังมีกระแสไม่เห็นด้วยจากแฟนกลับหลายคน อย่างไรเสียขี้นอยู่กับจำนวนเก้าอี้ที่จะเป็นแต้มต่อสำคัญเท่านั้นที่จะชี้วัดทุกอย่าง โพลเหล่านี้ก็ไม่เที่ยงต้องรอดูต่อไป เพราะความเห็นไม่ใช่คะแนนเก้าอี้อย่างเป็นทางการ” รศ. สุขุม นวลสกุล กล่าวทิ้งท้าย