ขุนพลภายใน ‘พลังประชารัฐ’ พยายามจะรีแบรนด์ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ ขึ้นใหม่ ลบภาพอดีตนายทหาร ‘พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์’ ควบคู่กับการขยับตัวเองมาสู่ฝั่ง ‘เสรีนิยมประชาธิปไตย’ มากขึ้น ทำให้ พปชร. เป็นพรรคที่ ‘ไร้ขั้ว’ มากขึ้น ไม่ได้เป็น ‘พรรคเชิงอุดมการณ์’ เฉกเช่นในอดีต ที่ พปชร. ถูกมองว่าเป็น ‘ปีกอนุรักษ์นิยม-ตัวแทนฝ่ายขวาไทย’ ซึ่งบทบาทดังกล่าวเป็นไปอยู่กับ ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ของ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แทนแล้ว
มาพร้อมกับการ ‘ปรับลุค’ พล.อ.ประวิตร ที่กลายเป็น ‘กระชากวัย’ มากขึ้น หลัง พปชร. เคยปั้น ‘บุคลิกใหม่’ จากพี่ใหญ่ของกองทัพเป็น ‘ลุงป้อมใจดี’ พร้อมกับม็อตโต้ “ใจถึง พึ่งได้” ทำให้ พล.อ.ประวิตร มีภาพความเป็น ‘นักการเมือง’ มากขึ้น ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ใช้เวลาช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ลงพื้นที่แบบไม่แจ้งล่วงหน้า ทั้งเดินตลาด-เข้าวัด-หาของอร่อยทาน แต่ที่เด่นชัดคือการ ‘แต่งตัว’ ที่วัยรุ่นขึ้น จนผิดหูผิดตาไปบ้าง
โดยปกติแล้วช่วงวันเสาร์ของทุกสัปดาห์ พล.อ.ประวิตร จะไปทานข้าวกับ ‘ก๊วนเพื่อน ตท.6’ สมัยก่อนจะออกรอบตีกอล์ฟด้วยกัน แต่ด้วยสุขภาพขาของ พล.อ.ประวิตร จึงเป็นการพบปะพูดคุยกับเพื่อน ตท.6 แทน เพื่อเล่าสารทุกข์สุขดิบต่างๆ ส่วนวันอาทิตย์สมัยก่อน พล.อ.ประวิตร จะไปหา ‘คุณแม่สายสนีย์ วงษ์สุวรรณ’ ที่บ้านพักซอยลาดพร้าว 71 ก็จะได้พบกับน้องชายด้วย รวมทั้งหลานๆ เหลนๆ ที่เป็นเหมือน ‘วันครอบครัว’ ของบ้านนี้ ซึ่งในปัจจุบัน ‘คุณแม่สายสนี’ ได้ถึงแก่กรรม ไปเมื่อ 8 ก.ย.63
ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร เป็นคนชอบแต่งตัวอยู่แล้ว สวมกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ เสื้อมีลวดลาย สวมเจ็คเก็ตคลุม แต่สีสันและลายไม่ได้ฉูดฉาดเช่นที่ใส่ ‘กระชายวัย’ ในช่วงหลังๆ มานี้ เมื่อถามว่าใครเป็น ‘ทีมแฟชั่นนิสต้า’ ว่ากันว่าการดูแลเสื้อผ้ามีคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร คอยดูแล
แต่แนวทางการปรับลุค-ลงพื้นที่เงียบๆ แล้วค่อยเผยแพร่รูปออกมา มีทีมงาน ‘บ้านป่ารอยต่อ’ ดูแลอยู่ นั่นคือ ‘อันวาร์ สาและ’ ส.ส.ปัตตานี ที่ย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ มายังพรรคพลังประชารัฐ และ ‘สัญญา สถิรบุตร’ ที่หนีจากค่าย ปชป. มา พปชร. และได้รับแต่งตั้งเป็น ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร. ซึ่งทั้ง ‘อันวาร์-สัญญา’ ได้รับมอบหมายให้ดูแลงาน ‘พีอาร์’ พล.อ.ประวิตร ในเรื่อง ‘ตัวตน’ ที่จะสะท้อนออกมาผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งอยู่เบื้องหลังจดหมายทั้ง 4 ฉบับด้วย
ทว่าภายใน ‘บ้านป่ารอยต่อ’ เมื่อเจาะลึกลงไปมี ‘ทีมพีอาร์’ หลายทีม บางครั้งเกิดความ ‘ซ้ำซ้อน-ทับซ้อน’ กัน เริ่มมีการกระทุ้งกันเอง ถึงแนวทาง ‘ปรับลุค’ เกิดขึ้น ที่มีการมองว่า ‘ได้กระแส’ แต่ ‘ไร้คะแนน’ แต่การแต่งกาย ‘กระชากวัย’ ลงพื้นที่ยังคงดำเนินต่อไป ควบคู่การลงพื้นที่ต่างจังหวัดของ พล.อ.ประวิตร ที่มากขึ้น เพื่อยึด ‘บ้านใหญ่’ เอาไว้ให้ได้ เพราะเป็น ‘หัวใจหลัก’ ของ พปชร. ถ้าเทียบ ‘แบรนด์ พปชร. - บิ๊กป้อม’ กับ ‘แบรนด์ รทสช.-บิ๊กตู่’ ก็ต้อมยอมรับว่าชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มีตลาดที่ใหญ่กว่า พล.อ.ประวิตร และเมื่อ พล.อ.ประวิตร เลือกมาเล่นบทไร้ขั้ว ก็ดูเหมือนเป็นการ ‘ทิ้งฐานเสียงเดิม’ ที่ย้ายตาม พล.อ.ประยุทธ์ ไป รวมฐานเสียงใหม่ก็ไม่ตอบรับเท่าที่ควร
ดังนั้น พปชร. จึงหวังกับ ‘พลังบ้านใหญ่’ เป็นหลัก การปรับลุค ‘กระชากวัย’ เป็น ‘ลุงป้อม’ ทรงอย่าง ‘แบด’ จะไปได้อีกแค่ไหน หรือทำให้เป็นกระแสพอ ไม่ได้เอาจริงเอาจังขนาดนั้น มิเช่นนั้นได้ ‘แซด’ อย่างบ่อย แน่นอน
มาพร้อมกับการ ‘ปรับลุค’ พล.อ.ประวิตร ที่กลายเป็น ‘กระชากวัย’ มากขึ้น หลัง พปชร. เคยปั้น ‘บุคลิกใหม่’ จากพี่ใหญ่ของกองทัพเป็น ‘ลุงป้อมใจดี’ พร้อมกับม็อตโต้ “ใจถึง พึ่งได้” ทำให้ พล.อ.ประวิตร มีภาพความเป็น ‘นักการเมือง’ มากขึ้น ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ใช้เวลาช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ลงพื้นที่แบบไม่แจ้งล่วงหน้า ทั้งเดินตลาด-เข้าวัด-หาของอร่อยทาน แต่ที่เด่นชัดคือการ ‘แต่งตัว’ ที่วัยรุ่นขึ้น จนผิดหูผิดตาไปบ้าง
โดยปกติแล้วช่วงวันเสาร์ของทุกสัปดาห์ พล.อ.ประวิตร จะไปทานข้าวกับ ‘ก๊วนเพื่อน ตท.6’ สมัยก่อนจะออกรอบตีกอล์ฟด้วยกัน แต่ด้วยสุขภาพขาของ พล.อ.ประวิตร จึงเป็นการพบปะพูดคุยกับเพื่อน ตท.6 แทน เพื่อเล่าสารทุกข์สุขดิบต่างๆ ส่วนวันอาทิตย์สมัยก่อน พล.อ.ประวิตร จะไปหา ‘คุณแม่สายสนีย์ วงษ์สุวรรณ’ ที่บ้านพักซอยลาดพร้าว 71 ก็จะได้พบกับน้องชายด้วย รวมทั้งหลานๆ เหลนๆ ที่เป็นเหมือน ‘วันครอบครัว’ ของบ้านนี้ ซึ่งในปัจจุบัน ‘คุณแม่สายสนี’ ได้ถึงแก่กรรม ไปเมื่อ 8 ก.ย.63
ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร เป็นคนชอบแต่งตัวอยู่แล้ว สวมกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ เสื้อมีลวดลาย สวมเจ็คเก็ตคลุม แต่สีสันและลายไม่ได้ฉูดฉาดเช่นที่ใส่ ‘กระชายวัย’ ในช่วงหลังๆ มานี้ เมื่อถามว่าใครเป็น ‘ทีมแฟชั่นนิสต้า’ ว่ากันว่าการดูแลเสื้อผ้ามีคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร คอยดูแล
แต่แนวทางการปรับลุค-ลงพื้นที่เงียบๆ แล้วค่อยเผยแพร่รูปออกมา มีทีมงาน ‘บ้านป่ารอยต่อ’ ดูแลอยู่ นั่นคือ ‘อันวาร์ สาและ’ ส.ส.ปัตตานี ที่ย้ายมาจากพรรคประชาธิปัตย์ มายังพรรคพลังประชารัฐ และ ‘สัญญา สถิรบุตร’ ที่หนีจากค่าย ปชป. มา พปชร. และได้รับแต่งตั้งเป็น ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร. ซึ่งทั้ง ‘อันวาร์-สัญญา’ ได้รับมอบหมายให้ดูแลงาน ‘พีอาร์’ พล.อ.ประวิตร ในเรื่อง ‘ตัวตน’ ที่จะสะท้อนออกมาผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งอยู่เบื้องหลังจดหมายทั้ง 4 ฉบับด้วย
ทว่าภายใน ‘บ้านป่ารอยต่อ’ เมื่อเจาะลึกลงไปมี ‘ทีมพีอาร์’ หลายทีม บางครั้งเกิดความ ‘ซ้ำซ้อน-ทับซ้อน’ กัน เริ่มมีการกระทุ้งกันเอง ถึงแนวทาง ‘ปรับลุค’ เกิดขึ้น ที่มีการมองว่า ‘ได้กระแส’ แต่ ‘ไร้คะแนน’ แต่การแต่งกาย ‘กระชากวัย’ ลงพื้นที่ยังคงดำเนินต่อไป ควบคู่การลงพื้นที่ต่างจังหวัดของ พล.อ.ประวิตร ที่มากขึ้น เพื่อยึด ‘บ้านใหญ่’ เอาไว้ให้ได้ เพราะเป็น ‘หัวใจหลัก’ ของ พปชร. ถ้าเทียบ ‘แบรนด์ พปชร. - บิ๊กป้อม’ กับ ‘แบรนด์ รทสช.-บิ๊กตู่’ ก็ต้อมยอมรับว่าชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มีตลาดที่ใหญ่กว่า พล.อ.ประวิตร และเมื่อ พล.อ.ประวิตร เลือกมาเล่นบทไร้ขั้ว ก็ดูเหมือนเป็นการ ‘ทิ้งฐานเสียงเดิม’ ที่ย้ายตาม พล.อ.ประยุทธ์ ไป รวมฐานเสียงใหม่ก็ไม่ตอบรับเท่าที่ควร
ดังนั้น พปชร. จึงหวังกับ ‘พลังบ้านใหญ่’ เป็นหลัก การปรับลุค ‘กระชากวัย’ เป็น ‘ลุงป้อม’ ทรงอย่าง ‘แบด’ จะไปได้อีกแค่ไหน หรือทำให้เป็นกระแสพอ ไม่ได้เอาจริงเอาจังขนาดนั้น มิเช่นนั้นได้ ‘แซด’ อย่างบ่อย แน่นอน



