ภายหลังเหตุการณ์จดหมาย ‘ประกาศศึก’ ที่ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หน.พลังประชารัฐ เปิดใจถึง ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ขึ้นเวทีเปิดตัวไปอยู่ ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ได้ไม่กี่วัน เป็นความในใจที่ ‘บิ๊กป้อม’ ระบุในจดหมายยากจะบรรยายออกมา ที่ซ่อนนัยยะในทางการเมืองอย่างมาก
ทั้งเรื่องการที่ ‘บิ๊กป้อม’ ต้องการ ‘ตีจาก-ออกห่าง’ จาก ‘บิ๊กตู่’ ในการทำพรรค พปชร. ในแบบใหม่ ที่เป็นพรรคไร้ขั้วมากขึ้น นำมาสู่การที่ ‘บิ๊กป้อม’ ประกาศพร้อมจับมือกับทุกพรรคทุกขั้ว ไม่ปิดประตูแม้แต่กับ ‘พรรคเพื่อไทย’ ผ่านสัมพันธ์ระหว่าง ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ ของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ กับ ‘คุณหญิงอ้อ’พจมาน ดามาพงศ์ ทอดไมตรีกับ ‘บ้านป่ารอยต่อ’ ของ พล.อ.ประวิตร ในการตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว พร้อมดัน พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็น นายกฯ คนที่ 30 ในสถานการณ์การเมืองที่แบ่งขั้ว ‘ขวาจัด-ซ้ายจัด’ ชัดเจน ซึ่งในฝั่ง ‘พรรคเพื่อไทย’ ก็มองไกล อย่างน้อยขยับตัวเองมามี ‘อำนาจ’ ให้ได้ก่อน แม้จะใต้เงา ‘บิ๊กป้อม’ ก็ตาม ยังมีเวลา ‘พลิกขั้วอำนาจ’ ที่เกมนี้ ต้องมองกันยาวๆ ไปถึงปี 2570
ที่ตามมามือคำพูดทำนอง ‘บิ๊กป้อม’ กำลัง ‘ทวงบุญคุณ’ พล.อ.ประยุทธ์ หลังตั้งพรรค พปชร. ขึ้นมา เพื่อสานฝัน ‘บิ๊กตู่’ ขึ้นเป็น นายกฯ อีกครั้ง ก่อนจะตีจากไป ‘พรรคสำรอง’ นั่นคือพรรค รทสช. ที่ถูกกรุยทางมานานนับปี หลังเกิดเหตุการณ์ ‘จ้องล้มนายกฯ’ กลางสภาฯ ที่ ‘บิ๊กตู่’ ใช้คำว่า ‘หลงหูหลงตา’ ที่สะท้อนถึง ‘ความหวดระแวง’ กันเองของขั้ว ‘2ป.ประยุทธ์-ประวิตร’
รวมทั้งการประกาศ ‘อนาคต’ ของ พล.อ.ประวิตร ในการนำพา พปชร. สู้ศึกเลือกตั้ง หลังพรรคนิ่งมานาน เกิดปรากฏการณ์ ‘เลือดไหล’ ออกไปยัง รทสช. หลัง ‘บิ๊กตู่’ เลือก ‘ตกปลาบ่อพี่’ นั่นเอง ดังนั้นจึงเป็นการ ‘ห้ามเลือด’ ไปในตัว และเป็นการประกาศท้ารบ ในสนามการเมืองอย่างเป็นทางการ-เต็มรูปแบบ
หากถามถึง ‘มือร่างจดหมาย’ นั่นคือ ‘อันวาร์ สาและ’ ที่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ มาอยู่ พปชร. เตรียมลงสมัคร ส.ส.ปัตตานี รักษาพื้นที่เดิม ที่ร่วมร่างจดหมายกับ ‘สัญญา สถิรบุตร’ ที่ปรึกษาของอันวาร์ ที่ทิ้ง ปชป. มาซบ พปชร. ทั้งคู่ โดยว่ากันว่า ‘อันวาร์-สัญญา’ ได้ร่างขึ้นจากคำพูด ‘บิ๊กป้อม’ ก่อนจะส่งให้ ‘บิ๊กป้อม’ อ่าน และได้รับ ‘ไฟเขียว’ ให้เผยแพร่ ซึ่งงานนี้ทำให้พวก ‘ฝ่ายเสธ.‘ ที่เป็นทหารรายล้อม พล.อ.ประวิตร ต่างไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทำให้ ‘2ป.’ สายเลือดทหารยิ่งร้าวลึก แถมไม่ผ่านทีม ฝ่าย เสธ. ก่อนเผยแพร่ด้วย
หลังจดหมายแพร่ได้ 2-3 วันเท่านั้น ก็เกิดเหตุการณ์ ‘ธรรมนัสเอฟเฟกต์’ หลังจากที่ ‘บิ๊กป้อม’ ลงพื้นที่ จ.ลำปาง-พะเยา ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย คุกเข่าไหว้มอบมาลัย ‘บิ๊กป้อม’ บนเวที ถูกสำทับด้วยคำพูด ‘วิรัช รัตนเศรษฐ’ รองหัวหน้า พปชร. ที่เปรียบ ‘บิ๊กป้อม’ เป็นเหมือน ‘พ่อ’ พร้อมระบุว่าลูกๆ พร้อมกลับมาช่วยทำให้ พปชร. แข็งแรง
คำว่า ‘ลูกๆ’ รวมถึง ‘ธรรมนัส’ ด้วย ที่จะรีเทิร์น พปชร. อีกครั้ง เพราะผู้กองเปรียบเป็น ‘มือทำงาน’ ให้กับ ‘บิ๊กป้อม’ มาตลอด เรียกกันว่า ‘บิ๊กป้อม-ธรรมนัส’ ขาดกันไม่ได้ ดังนั้นการคุกเข่าไหว้จึง ‘เฉลยปริศนา’ ทั้งหมด ถึงสัมพันธ์ ‘บิ๊กป้อม-ธรรมนัส’ ไปในตัว ทั้งนี้มีรายงานว่า ‘ธรรมนัส’ จะกลับเข้า พปชร. เร็วๆ นี้ น่าจับตาว่าจะมี ‘ตำแหน่งใด’ รองรับด้วย แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ‘คลื่นใต้น้ำ-ศึกใหญ่’ ภายใน พปชร. เพราะยังคงมี ‘อริเก่า’ ของ ‘ธรรมนัส’ ที่ยังอยู่ใน พปชร. ด้วย
ล่าสุดกลายเป็น ‘พี่ป้อม’ ปาดหน้า ‘น้องตู่’ ในการลงพื้นที่แข่งกันเอง ซึ่ง ‘บิ๊กป้อม’ ถึงขั้นลาประชุม ครม. ไป จ.ราชบุรี เพื่อนไปพบ ‘บ้านใหญ่’ เป็นเสมือนการล็อกคอ ไม่ให้ไหลออก พปชร. รวมทั้งจ้องดูดจาก ปชป. ด้วย โดย ‘บิ๊กป้อม’ ไปก่อน ‘บิ๊กตู่’ เพียง 2 วันเท่านั้น เป็นเสมือนการแสดง ‘แสนยานุภาพ’ ของ ‘พี่ใหญ่’ ที่ยังเหนือ ‘น้อง’ วันยังค่ำ ยังไม่จบเพียงแค่นี้ ‘บิ๊กป้อม’ มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ 20 ม.ค.นี้ ซึ่งปาดหน้า ‘บิ๊กตู่’ ที่มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ 30 ม.ค.นี้ ล่าสุด ‘บิ๊กตู่’ เตรียมเดินสายหาเสียง ขึ้นเวที รทสช. โดยปักหมุด จ.ชุมพร เป็นพี่แรก 28 ม.ค.นี้ หลังเป็นสมาชิก รทสช.
ทั้งหมดนี้สะท้อนสภาวะ ‘ขิงกันเอง’ ของพี่น้อง ‘2ป.ประยุทธ์-ประวิตร’ เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น นับจากมี ‘จดหมาย’ ออกมา เรื่อยมาจนถึง ‘ธรรมนัสเอฟเฟกต์’ คุกเข่าที่ จ.พะเยา สะเทือนมาถึงทำเนียบฯ ยาวมาถึง ‘เกมปาดหน้า’ ที่ทั้ง 2ป. เริ่มรุกคืบลงพื้นที่ ชิงความได้เปรียบ เพราะงานนี้ ‘ใครดีใครได้’ นั่นเอง
ทั้งเรื่องการที่ ‘บิ๊กป้อม’ ต้องการ ‘ตีจาก-ออกห่าง’ จาก ‘บิ๊กตู่’ ในการทำพรรค พปชร. ในแบบใหม่ ที่เป็นพรรคไร้ขั้วมากขึ้น นำมาสู่การที่ ‘บิ๊กป้อม’ ประกาศพร้อมจับมือกับทุกพรรคทุกขั้ว ไม่ปิดประตูแม้แต่กับ ‘พรรคเพื่อไทย’ ผ่านสัมพันธ์ระหว่าง ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ ของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ กับ ‘คุณหญิงอ้อ’พจมาน ดามาพงศ์ ทอดไมตรีกับ ‘บ้านป่ารอยต่อ’ ของ พล.อ.ประวิตร ในการตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว พร้อมดัน พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็น นายกฯ คนที่ 30 ในสถานการณ์การเมืองที่แบ่งขั้ว ‘ขวาจัด-ซ้ายจัด’ ชัดเจน ซึ่งในฝั่ง ‘พรรคเพื่อไทย’ ก็มองไกล อย่างน้อยขยับตัวเองมามี ‘อำนาจ’ ให้ได้ก่อน แม้จะใต้เงา ‘บิ๊กป้อม’ ก็ตาม ยังมีเวลา ‘พลิกขั้วอำนาจ’ ที่เกมนี้ ต้องมองกันยาวๆ ไปถึงปี 2570
ที่ตามมามือคำพูดทำนอง ‘บิ๊กป้อม’ กำลัง ‘ทวงบุญคุณ’ พล.อ.ประยุทธ์ หลังตั้งพรรค พปชร. ขึ้นมา เพื่อสานฝัน ‘บิ๊กตู่’ ขึ้นเป็น นายกฯ อีกครั้ง ก่อนจะตีจากไป ‘พรรคสำรอง’ นั่นคือพรรค รทสช. ที่ถูกกรุยทางมานานนับปี หลังเกิดเหตุการณ์ ‘จ้องล้มนายกฯ’ กลางสภาฯ ที่ ‘บิ๊กตู่’ ใช้คำว่า ‘หลงหูหลงตา’ ที่สะท้อนถึง ‘ความหวดระแวง’ กันเองของขั้ว ‘2ป.ประยุทธ์-ประวิตร’
รวมทั้งการประกาศ ‘อนาคต’ ของ พล.อ.ประวิตร ในการนำพา พปชร. สู้ศึกเลือกตั้ง หลังพรรคนิ่งมานาน เกิดปรากฏการณ์ ‘เลือดไหล’ ออกไปยัง รทสช. หลัง ‘บิ๊กตู่’ เลือก ‘ตกปลาบ่อพี่’ นั่นเอง ดังนั้นจึงเป็นการ ‘ห้ามเลือด’ ไปในตัว และเป็นการประกาศท้ารบ ในสนามการเมืองอย่างเป็นทางการ-เต็มรูปแบบ
หากถามถึง ‘มือร่างจดหมาย’ นั่นคือ ‘อันวาร์ สาและ’ ที่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ มาอยู่ พปชร. เตรียมลงสมัคร ส.ส.ปัตตานี รักษาพื้นที่เดิม ที่ร่วมร่างจดหมายกับ ‘สัญญา สถิรบุตร’ ที่ปรึกษาของอันวาร์ ที่ทิ้ง ปชป. มาซบ พปชร. ทั้งคู่ โดยว่ากันว่า ‘อันวาร์-สัญญา’ ได้ร่างขึ้นจากคำพูด ‘บิ๊กป้อม’ ก่อนจะส่งให้ ‘บิ๊กป้อม’ อ่าน และได้รับ ‘ไฟเขียว’ ให้เผยแพร่ ซึ่งงานนี้ทำให้พวก ‘ฝ่ายเสธ.‘ ที่เป็นทหารรายล้อม พล.อ.ประวิตร ต่างไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทำให้ ‘2ป.’ สายเลือดทหารยิ่งร้าวลึก แถมไม่ผ่านทีม ฝ่าย เสธ. ก่อนเผยแพร่ด้วย
หลังจดหมายแพร่ได้ 2-3 วันเท่านั้น ก็เกิดเหตุการณ์ ‘ธรรมนัสเอฟเฟกต์’ หลังจากที่ ‘บิ๊กป้อม’ ลงพื้นที่ จ.ลำปาง-พะเยา ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย คุกเข่าไหว้มอบมาลัย ‘บิ๊กป้อม’ บนเวที ถูกสำทับด้วยคำพูด ‘วิรัช รัตนเศรษฐ’ รองหัวหน้า พปชร. ที่เปรียบ ‘บิ๊กป้อม’ เป็นเหมือน ‘พ่อ’ พร้อมระบุว่าลูกๆ พร้อมกลับมาช่วยทำให้ พปชร. แข็งแรง
คำว่า ‘ลูกๆ’ รวมถึง ‘ธรรมนัส’ ด้วย ที่จะรีเทิร์น พปชร. อีกครั้ง เพราะผู้กองเปรียบเป็น ‘มือทำงาน’ ให้กับ ‘บิ๊กป้อม’ มาตลอด เรียกกันว่า ‘บิ๊กป้อม-ธรรมนัส’ ขาดกันไม่ได้ ดังนั้นการคุกเข่าไหว้จึง ‘เฉลยปริศนา’ ทั้งหมด ถึงสัมพันธ์ ‘บิ๊กป้อม-ธรรมนัส’ ไปในตัว ทั้งนี้มีรายงานว่า ‘ธรรมนัส’ จะกลับเข้า พปชร. เร็วๆ นี้ น่าจับตาว่าจะมี ‘ตำแหน่งใด’ รองรับด้วย แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ‘คลื่นใต้น้ำ-ศึกใหญ่’ ภายใน พปชร. เพราะยังคงมี ‘อริเก่า’ ของ ‘ธรรมนัส’ ที่ยังอยู่ใน พปชร. ด้วย
ล่าสุดกลายเป็น ‘พี่ป้อม’ ปาดหน้า ‘น้องตู่’ ในการลงพื้นที่แข่งกันเอง ซึ่ง ‘บิ๊กป้อม’ ถึงขั้นลาประชุม ครม. ไป จ.ราชบุรี เพื่อนไปพบ ‘บ้านใหญ่’ เป็นเสมือนการล็อกคอ ไม่ให้ไหลออก พปชร. รวมทั้งจ้องดูดจาก ปชป. ด้วย โดย ‘บิ๊กป้อม’ ไปก่อน ‘บิ๊กตู่’ เพียง 2 วันเท่านั้น เป็นเสมือนการแสดง ‘แสนยานุภาพ’ ของ ‘พี่ใหญ่’ ที่ยังเหนือ ‘น้อง’ วันยังค่ำ ยังไม่จบเพียงแค่นี้ ‘บิ๊กป้อม’ มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ 20 ม.ค.นี้ ซึ่งปาดหน้า ‘บิ๊กตู่’ ที่มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ 30 ม.ค.นี้ ล่าสุด ‘บิ๊กตู่’ เตรียมเดินสายหาเสียง ขึ้นเวที รทสช. โดยปักหมุด จ.ชุมพร เป็นพี่แรก 28 ม.ค.นี้ หลังเป็นสมาชิก รทสช.
ทั้งหมดนี้สะท้อนสภาวะ ‘ขิงกันเอง’ ของพี่น้อง ‘2ป.ประยุทธ์-ประวิตร’ เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น นับจากมี ‘จดหมาย’ ออกมา เรื่อยมาจนถึง ‘ธรรมนัสเอฟเฟกต์’ คุกเข่าที่ จ.พะเยา สะเทือนมาถึงทำเนียบฯ ยาวมาถึง ‘เกมปาดหน้า’ ที่ทั้ง 2ป. เริ่มรุกคืบลงพื้นที่ ชิงความได้เปรียบ เพราะงานนี้ ‘ใครดีใครได้’ นั่นเอง
