ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความกังวลเรื่องการยุบพรรคหรือไม่ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาเตือนถึงการปราศรัยของ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรค รทสช. ที่มีการพาดพิงสถาบันฯ ว่า เราต้องรับฟัง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค ได้กำชับแกนนำพรรคทุกคนให้ปฏิบัติตามระเบียบ กกต. อย่างเคร่งครัด ซึ่งเราก็ต้องรับฟัง
เมื่อถามว่า วันนี้จะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อำนาจเต็มเป็นวันสุดท้ายใช่หรือไม่ ธนกร กล่าวว่า ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เห็นสื่อมวลชนเสนอไป
เมื่อถามถึงการยุบสภาฯ น่าจะเป็นตามไทม์ไลน์หรือไม่ ธนกร กล่าวว่า “ก็น่าจะใช่ เพราะไทม์ไลน์เป็นอย่างนั้น ซึ่งนโยบายต่างๆ ของพรรครวมไทยสร้างชาติก็ทยอยออกแล้ว โดยเฉพาะแคมเปญ ‘ไอติม’ ที่ได้นำเสนอไปได้รับความสนใจจากโซเชียลมีเดียจำนวนมาก เหมือนเรื่องสวัสดิการต่างๆ ของรัฐบาลที่ออกมาถึงมือประชาชนไม่ตกหล่นระหว่างทาง ซึ่งถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอีกรอบจะใช้นโยบายนี้เป็นหลัก และเดี๋ยวนโยบายต่างๆ จะทยอยออกมาอีกเรื่อยๆ”
เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตการใช้สีแดงเป็นสีไอติมในแคมเปญนี้ ธนกร กล่าวว่า ตนคิดว่าคงไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น เราต้องการสื่อสารให้ประชาชนเห็นว่าการบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผ่านมาโปร่งใส งบประมาณถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง โดยผ่านแพลตฟอร์มระบบดิจิทัล ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาเราก็เห็นแล้วหลายรัฐบาลมีการทุจริตคอร์รัปชันจนบ้านเมืองเสียหาย และงบประมาณกว่าจะถึงประชาชนก็เป็นส่วนน้อยแล้ว
“ซึ่งที่ผ่านมานายกฯ ใช้นโยบายใหม่และพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็จะทำต่อ ขณะช่วงเย็นวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค โดยที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. เรื่องของนโยบาย แคมเปญ และการลงพื้นที่หาเสียง รวมถึงการปราศรัยต่างๆ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้เห็นชอบตามที่มีการรายงาน” ธนกร กล่าว
ด้าน วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวสนับสนุนกรณีมีหนังสือแจ้งเตือนจาก กกต. ถึงหัวหน้าพรรคการเมืองเรื่องของการปราศรัยที่ไม่ให้เกี่ยวโยงไปถึงสถาบันฯ ว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของพรรค ชทพ.อยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ไม่เน้นการเมืองแบบโจมตี ไม่ว่าจะปราศรัยที่ไหนจะไม่มีการพาดพิงบุคคลอื่น ถือเป็นนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาอยู่แล้ว แต่ก็ถือเป็นการดีที่ กกต. ออกมากำชับเช่นนี้ เพราะทุกคนจะได้อยู่บนมาตรฐานเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้หลายคนมองว่าเป็นการประชุม ครม.นัดสุดท้ายก่อนที่จะมีการยุบสภาฯ วราวุธ กล่าวว่า ก็เหลือเวลาเพียงสัปดาห์กว่าๆ เท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าจะยุบสภาฯ ไปการประชุม ครม. ก็ยังมีอยู่ เพราะรัฐบาลยังต้องรักษาการไปก่อน หากยุบสภาฯ ก็จะเป็น ครม. รักษาการ แต่หากไม่มีการยุบสภาฯ การประชุม ครม. ก็ยังจะมีครั้งนี้และวันที่ 21 มีนาคม อีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะถึงวันที่ 23 มีนาคม
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้มีการหารือพรรคร่วมรัฐบาลบ้างหรือไม่ถึงการยุบสภาฯ หัวหน้าพรรค ชทพ. กล่าวว่า หากนายกฯ จะยุบสภาฯ คงไม่มาบอกพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเวลาเหลืออีกไม่นานไม่ถึง 10 วัน ก็เป็นสิทธิของนายกฯ จะบอกหรือไม่บอกเราก็ไม่ขัดข้อง เพราะไม่ว่าจะยุบวันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหน ทุกพรรคการเมืองก็ลงพื้นที่หาเสียงกันเต็มที่อยู่แล้ว ไม่ได้แตกต่างแต่อย่างใด เป็นเพียงขั้นตอนการทำงานตามกฎหมายเท่านั้น
เมื่อถามว่า วันนี้จะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อำนาจเต็มเป็นวันสุดท้ายใช่หรือไม่ ธนกร กล่าวว่า ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เห็นสื่อมวลชนเสนอไป
เมื่อถามถึงการยุบสภาฯ น่าจะเป็นตามไทม์ไลน์หรือไม่ ธนกร กล่าวว่า “ก็น่าจะใช่ เพราะไทม์ไลน์เป็นอย่างนั้น ซึ่งนโยบายต่างๆ ของพรรครวมไทยสร้างชาติก็ทยอยออกแล้ว โดยเฉพาะแคมเปญ ‘ไอติม’ ที่ได้นำเสนอไปได้รับความสนใจจากโซเชียลมีเดียจำนวนมาก เหมือนเรื่องสวัสดิการต่างๆ ของรัฐบาลที่ออกมาถึงมือประชาชนไม่ตกหล่นระหว่างทาง ซึ่งถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอีกรอบจะใช้นโยบายนี้เป็นหลัก และเดี๋ยวนโยบายต่างๆ จะทยอยออกมาอีกเรื่อยๆ”
เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตการใช้สีแดงเป็นสีไอติมในแคมเปญนี้ ธนกร กล่าวว่า ตนคิดว่าคงไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น เราต้องการสื่อสารให้ประชาชนเห็นว่าการบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผ่านมาโปร่งใส งบประมาณถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง โดยผ่านแพลตฟอร์มระบบดิจิทัล ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาเราก็เห็นแล้วหลายรัฐบาลมีการทุจริตคอร์รัปชันจนบ้านเมืองเสียหาย และงบประมาณกว่าจะถึงประชาชนก็เป็นส่วนน้อยแล้ว
“ซึ่งที่ผ่านมานายกฯ ใช้นโยบายใหม่และพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็จะทำต่อ ขณะช่วงเย็นวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค โดยที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. เรื่องของนโยบาย แคมเปญ และการลงพื้นที่หาเสียง รวมถึงการปราศรัยต่างๆ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้เห็นชอบตามที่มีการรายงาน” ธนกร กล่าว
ด้าน วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวสนับสนุนกรณีมีหนังสือแจ้งเตือนจาก กกต. ถึงหัวหน้าพรรคการเมืองเรื่องของการปราศรัยที่ไม่ให้เกี่ยวโยงไปถึงสถาบันฯ ว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของพรรค ชทพ.อยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ไม่เน้นการเมืองแบบโจมตี ไม่ว่าจะปราศรัยที่ไหนจะไม่มีการพาดพิงบุคคลอื่น ถือเป็นนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาอยู่แล้ว แต่ก็ถือเป็นการดีที่ กกต. ออกมากำชับเช่นนี้ เพราะทุกคนจะได้อยู่บนมาตรฐานเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้หลายคนมองว่าเป็นการประชุม ครม.นัดสุดท้ายก่อนที่จะมีการยุบสภาฯ วราวุธ กล่าวว่า ก็เหลือเวลาเพียงสัปดาห์กว่าๆ เท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าจะยุบสภาฯ ไปการประชุม ครม. ก็ยังมีอยู่ เพราะรัฐบาลยังต้องรักษาการไปก่อน หากยุบสภาฯ ก็จะเป็น ครม. รักษาการ แต่หากไม่มีการยุบสภาฯ การประชุม ครม. ก็ยังจะมีครั้งนี้และวันที่ 21 มีนาคม อีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะถึงวันที่ 23 มีนาคม
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้มีการหารือพรรคร่วมรัฐบาลบ้างหรือไม่ถึงการยุบสภาฯ หัวหน้าพรรค ชทพ. กล่าวว่า หากนายกฯ จะยุบสภาฯ คงไม่มาบอกพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเวลาเหลืออีกไม่นานไม่ถึง 10 วัน ก็เป็นสิทธิของนายกฯ จะบอกหรือไม่บอกเราก็ไม่ขัดข้อง เพราะไม่ว่าจะยุบวันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหน ทุกพรรคการเมืองก็ลงพื้นที่หาเสียงกันเต็มที่อยู่แล้ว ไม่ได้แตกต่างแต่อย่างใด เป็นเพียงขั้นตอนการทำงานตามกฎหมายเท่านั้น