อนุชา บรูพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กล่าวขอบคุณรองนายกฯและรัฐมนตรีทุกท่าน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้จัดงาน 'เอเปค' ครั้งนี้ เป็นไปด้วยความสำเร็จลุล่วงอย่างดี และได้รับการชื่นชมและความพึงพอใจจากผู้นำจากหลายประเทศที่มาเข้าร่วม โดยมีการพูดถึงในช่วงที่นายกฯได้พบปะหารือและพูดถึงหลังจากที่ผู้นำกลับไปประเทศตนเองแล้วและมีการแถลงข่าวในประเทศ
ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้มีผลสำเร็จมากมายในหลายเรื่องและหลายประเด็น จึงขอให้รองนายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับประเด็นต่างๆได้ติดตาม เพื่อนำประเด็นต่างๆที่ได้มีการพูดคุยไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดความสำเร็จอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ นายกฯยังขอบคุณคู่สมรสรัฐมนตรี ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต้อนรับผู้นำในครั้งนี้ ซึ่งร่วมกันทำกิจกรรมคู่ขนานกับการประชุมเอเปคในครั้งนี้
โดยคู่สมรสของผู้นำเขตเศรษฐกิจ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า มีความประทับใจในวัฒนธรรมและการต้อนรับ คนไทยยิ้มแย้มตลอดเวลา และจากนี้ไป การท่องเที่ยวจะได้รับอานิสงส์จากการประชุมเอเปคอย่างแน่นอน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมสิ่งต่างๆในการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงการลงทุนด้วยในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม และปีหน้า
อนุชา กล่าวว่า ในช่วงที่มีการประชุมเอเปค สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รายงานว่า การท่องเที่ยวของประเทศไทย สร้างรายได้หลายหมื่นล้านบาท และมีการเร่งตัวมากขึ้นในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม ทั้งในส่วนของกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยในส่วนของกรุงเทพฯ คาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม นายกฯยังพูดว่าผู้นำหลายประเทศพูดถึงการจัดงานกาล่าดินเนอร์ โดยชื่นชมและประทับใจอาหารที่ใช้ในการจัดเลี้ยง รวมถึงการจัดตกแต่งสถานที่
นายกฯ ยังกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม นอกเหนือจากการที่สภาพัฒน์ ได้รายงานเรื่องของตัวเลข นายกฯกล่าวถึงรายงานสถิติการอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยในช่วง 10 เดือนแรก ของปี 2565 ซึ่งมีเงินลงทุนรวมประมาณ 106,437 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 72% โดยกรมพัฒนาเศรษฐกิจการค้า รายงาน และประมาณการตำแหน่งที่มีการจ้างงานทั้งหมด อยู่ที่ประมาณ 4,635 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 และมีชาวต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรกถ้าคิดเป็นจำนวนราย ประกอบด้วย ญี่ปุ่น 25 ราย สิงคโปร์ 75 ราย สหรัฐอเมริกา 64 ราย ฮ่องกง 35 ราย และจีน 22 ราย
นายอนุชา กล่าวด้วยว่า นายกฯยังกำชับให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการเร่งรัดการก่อสร้างที่ยังค้างอยู่ในช่วงนี้ และขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว ได้เข้าไปดูแลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วย ส่วนการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ได้มีการหารือในรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายกฯได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยนำเสนอให้ ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ นายกฯได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน และกระทรวงมหาดไทย ไปดูเรื่องค่าน้ำมันและค่าไฟ ในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางเปราะบางที่อาจจะได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้มีผลสำเร็จมากมายในหลายเรื่องและหลายประเด็น จึงขอให้รองนายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับประเด็นต่างๆได้ติดตาม เพื่อนำประเด็นต่างๆที่ได้มีการพูดคุยไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดความสำเร็จอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ นายกฯยังขอบคุณคู่สมรสรัฐมนตรี ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต้อนรับผู้นำในครั้งนี้ ซึ่งร่วมกันทำกิจกรรมคู่ขนานกับการประชุมเอเปคในครั้งนี้
โดยคู่สมรสของผู้นำเขตเศรษฐกิจ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า มีความประทับใจในวัฒนธรรมและการต้อนรับ คนไทยยิ้มแย้มตลอดเวลา และจากนี้ไป การท่องเที่ยวจะได้รับอานิสงส์จากการประชุมเอเปคอย่างแน่นอน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมสิ่งต่างๆในการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงการลงทุนด้วยในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม และปีหน้า
อนุชา กล่าวว่า ในช่วงที่มีการประชุมเอเปค สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รายงานว่า การท่องเที่ยวของประเทศไทย สร้างรายได้หลายหมื่นล้านบาท และมีการเร่งตัวมากขึ้นในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม ทั้งในส่วนของกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยในส่วนของกรุงเทพฯ คาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม นายกฯยังพูดว่าผู้นำหลายประเทศพูดถึงการจัดงานกาล่าดินเนอร์ โดยชื่นชมและประทับใจอาหารที่ใช้ในการจัดเลี้ยง รวมถึงการจัดตกแต่งสถานที่
นายกฯ ยังกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม นอกเหนือจากการที่สภาพัฒน์ ได้รายงานเรื่องของตัวเลข นายกฯกล่าวถึงรายงานสถิติการอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยในช่วง 10 เดือนแรก ของปี 2565 ซึ่งมีเงินลงทุนรวมประมาณ 106,437 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 72% โดยกรมพัฒนาเศรษฐกิจการค้า รายงาน และประมาณการตำแหน่งที่มีการจ้างงานทั้งหมด อยู่ที่ประมาณ 4,635 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 และมีชาวต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรกถ้าคิดเป็นจำนวนราย ประกอบด้วย ญี่ปุ่น 25 ราย สิงคโปร์ 75 ราย สหรัฐอเมริกา 64 ราย ฮ่องกง 35 ราย และจีน 22 ราย
นายอนุชา กล่าวด้วยว่า นายกฯยังกำชับให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการเร่งรัดการก่อสร้างที่ยังค้างอยู่ในช่วงนี้ และขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว ได้เข้าไปดูแลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วย ส่วนการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ได้มีการหารือในรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายกฯได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยนำเสนอให้ ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ นายกฯได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน และกระทรวงมหาดไทย ไปดูเรื่องค่าน้ำมันและค่าไฟ ในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางเปราะบางที่อาจจะได้รับผลกระทบ
