นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าที่คณะทำงานไปพูดคุยกับสมาชิกวุฒิสภา(สว.)เป็นรายบุคคลว่า ไม่ได้เชิญมาพูดคุยที่พรรคเพื่อไทย แต่ในส่วนตัวของตนที่ไปประสานพูดคุยมา ก็พูดคุยกับคนที่ตนคุ้นชินรู้จัก ซึ่ง สว. หลายคนก็บอกว่าไม่ได้ยึดติดว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ เพราะไม่เกี่ยว แต่เจตนารมณ์ของสว.ยังเดิมเหมือน ตั้งแต่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนการพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) วาระสำคัญก็คือจะนำการบ้านที่ 8 พรรคร่วมฯ มอบให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการ คือคำตอบจากทาง สว. ว่าเป็นอย่างไร เขามีความเห็นอย่างไร มีเงื่อนไขอะไร ต่อการที่จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ รวมถึงคำตอบจาก สส. เป็นอย่างไร ก็จะนำเสนอในที่ประชุม 8 พรรคร่วมฯ โดยจะพยายามสรุปให้แล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.)
เมื่อถามว่า มีคำแนะนำจาก สว. บางส่วนระบุว่า ถ้าไม่มีพรรคก้าวไกล สว. ก็อาจจะโหวตให้ จะนำเรื่องเหล่านี้เข้าหารือในที่ประชุม 8 พรรคร่วมด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นคำตอบของ สว.แต่ละท่าน เราก็จะนำเป็นข้อมูลนำเข้าไปพูดคุยในที่ประชุมด้วย
เมื่อถามถึงข้อเสนอว่าจะให้เลื่อนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีออกไปก่อน เพื่อรอให้ สว.หมดวาระ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นแนวทางหนึ่ง แต่เราต้องมาดูในรายละเอียด ผลสัมฤทธิ์จะเป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้หรือไม่ ถ้าเป็นไปตามคาดก็น่าทดลองดำเนินการตามนั้น แต่ระบบรัฐสภาเสียงข้างมาก เรายังอยู่ภายใต้ 749 เสียง ถึงแม้เราอยากจะเสนอให้ขอเลื่อนการโหวตนายกฯ ออกไปอีก 10 เดือน แต่ถ้าเสียงข้างมาก 749 เสียงเขาไม่ยอม แทนที่เราจะได้ตามที่ควรได้ ก็เหมือนกับเราไปส่งเสริมมอบอำนาจให้ในสิ่งที่คนไม่อยากทำ
“ข้อแทรกซ้อนมันเกิดขึ้นได้ตลอด นี่คือผลกระทบทางการเมือง อะไรที่ไม่สามารถคาดการณ์ก็เกิดขึ้นได้ แต่ใครจะมีเสียงมากกว่ากันเท่านั้นในระบบเสียงข้างมาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่พึงระวัง เราคิดแบบโลกสวยไม่ได้ในมุมการเมือง มันมีหลายมิติต้องเอามาประกอบกัน ว่าถ้าเราไม่ทำ หรือเราแพ็คกันแน่นอยู่อย่างนี้ คนอื่นเขาก็มีวิธีคิด เขาก็เป็นเจ้าของประเทศ ถ้าเขาสามารถรวมเสียงได้ในที่ประชุมรัฐสภา เราก็ต้องยอมรับ” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
เมื่อถามว่าในทางการเมืองสามารถรอให้ สว.หมดอำนาจได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ที่กลัวคือวิกฤตทางการเมือง และวิกฤติเศรษฐกิจ สังคม ที่จะเกิดขึ้น ก็ต้องไปดูในหลายๆ ส่วน
เมื่อถามถึงกรณีที่ สมชาย แสวงการ สว. ออกมาระบุ หากพรรคเพื่อไทยยังไม่พร้อมก็ให้เลื่อนการโหวตนายกฯ ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ออกไปก่อน จะนำมาพิจารณาหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การเลื่อนประชุมรัฐสภาเป็นอำนาจของประธานรัฐสภา และขึ้นอยู่กับความเห็นของวิปทั้ง 3 ฝ่าย ส่วนฝ่าย 8 พรรคร่วมฯ ก็เป็นความเห็นหนึ่งที่จะเสนอไป ถ้าเราบอกว่าพร้อม แต่อีก 2 ฝ่ายไม่พร้อม ประธานสภาฯก็สามารถเลื่อนประชุมได้ แต่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้นำเรื่องการเลื่อนวันโหวตนายกฯ มาพูดคุยกัน เพราะเรากำลังดำเนินการในสิ่งที่ได้รับมอบหมายอยู่ ดังนั้นหากผลการประชุม 8 พรรคร่วมฯ ในวันที่ 25ก.ค.นี้ ออกมาเป็นอย่างไรก็จะเป็นทิศทางประกอบความคิดเห็นได้
เมื่อถามว่า เป้าหมายของพรรคเพื่อไทยคือการโหวตนายกฯ ในวันที่ 27 ก.ค. ให้ได้ 375 เสียง ยังเป็นเป้าหมายอยู่ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรายังเดินตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้อยู่ ซึ่งก่อนที่เราจะประชุม 8 พรรคร่วมฯ ประธานสภาฯ ได้นัดวิป 3 ฝ่ายประชุมกันก่อนในช่วงเช้า เพื่อที่จะพิจารณาว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อนนำเข้าในวันที่ 27 ก.ค.
เมื่อถามว่านับจากนี้ถ้าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งออกไปอยากจะบอกอะไรกับประชาชนหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็ให้รอดูข้อตัดสิน มันยังไม่เสร็จ จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะบอกอย่างไร
เมื่อถามว่า 2 วันที่ผ่านมาที่ได้พูดคุยกับพรรคการเมืองและสว.ส่วนใหญ่ข้อเสนอคือไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในสมการในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะเอาเรื่องนี้ไปบอกพรรคก้าวไกลอย่างไรในการประชุม 8 พรรคร่วมฯพรุ่งนี้ (25ก.ค.) นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรามีหน้าที่เอาข้อมูลเข้าสู่วาระของการประชุม 8 พรรคร่วมฯ และร่วมกันพิจารณาทางออก ทางเลือก ส่วนผลจะออกมาอย่างไรอยู่ที่การพูดคุยกัน ตนยังตอบไม่ได้ว่าจะออกมามุมไหน
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดสลายขั้ว 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะคิดหรือไม่ไม่ได้มีประเด็น สิ่งที่สำคัญคือ 8 พรรคร่วมฯต้องอยู่ ถึงจะคิดได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เราก็เป็นแค่หนึ่งในองค์ประกอบนั้น เราเสนอได้แต่ที่ประชุมเขาเห็นอย่างไรก็ต้องไปว่ากัน
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงกรณีที่ระบุหากทั้ง 2 พรรคหมดปัญญาในการจัดตั้งรัฐบาล จะมอบให้พรรคอันดับ 3 ดำเนินการ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่อยากขยายความ เดี๋ยวตีความผิดอีก ความหมายของตนคือทางเลือกมีคนเสนอเยอะ ตนเพียงจะบอกว่าทางเลือกอื่นมีคนเสนอมาทำนองนี้ว่าเราหมดปัญญาแล้วการมอบให้พรรคที่ 3 เป็นไปได้หรือไม่ ตนจึงบอกไปว่ามันเป็นทางเลือกจะเกิดขึ้นหรือไม่เราไม่รู้ และตนยังพูดไปชัดว่าเป็นการมอบอำนาจให้เสียงข้างน้อย
เมื่อถามย้ำว่าให้จบที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราจะพยายาม
อย่างไรก็ตามภายหลังการหารือร่วมกับแกนนำพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปการหารือร่วมกับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สนับสนุนเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 ก.ค.นี้ เนื่องจากเป็นการหารือรายบุคคล ซึ่งตอนนี้ได้พูดคุยไปเยอะแล้วและยังคงเดินหน้าพูดคุยต่อไป
เมื่อถามว่า จะทันการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา จะนำผลที่คุยเบื้องต้นแจ้งต่อที่ประชุมเท่านั้น
ส่วนการเสนอเลื่อนประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ออกไปนั้น เบื้องต้นได้รับแจ้งจากประธานรัฐสภาว่าขอเลื่อนการประชุม 3 ฝ่ายออกไปเป็นวันที่ 26 กรกฎาคม ส่วนจะเสนอเลื่อนประชุมออกไปหรือไม่ ตามขั้นตอนประธานรัฐสภาต้องแจ้งกับสมาชิกล่วงหน้า 3 วัน เว้นแต่เป็นกรณีเร่งด่วนสามารถ แจ้งเลื่อนล่วงหน้าได้ภายใน 1 วัน แต่ยังตอบไม่ได้ว่า ยังจะเสนอเลื่อนการประชุมได้อีกหรือไม่ ทุกอย่างเป็นอำนาจของประธานรัฐสภา หากพิจารณาแล้วสถานการณ์ไม่เหมาะ ไม่ควร ก็อาจจะมีข้อพิจารณา
ส่วนการพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) วาระสำคัญก็คือจะนำการบ้านที่ 8 พรรคร่วมฯ มอบให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการ คือคำตอบจากทาง สว. ว่าเป็นอย่างไร เขามีความเห็นอย่างไร มีเงื่อนไขอะไร ต่อการที่จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ รวมถึงคำตอบจาก สส. เป็นอย่างไร ก็จะนำเสนอในที่ประชุม 8 พรรคร่วมฯ โดยจะพยายามสรุปให้แล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.)
เมื่อถามว่า มีคำแนะนำจาก สว. บางส่วนระบุว่า ถ้าไม่มีพรรคก้าวไกล สว. ก็อาจจะโหวตให้ จะนำเรื่องเหล่านี้เข้าหารือในที่ประชุม 8 พรรคร่วมด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นคำตอบของ สว.แต่ละท่าน เราก็จะนำเป็นข้อมูลนำเข้าไปพูดคุยในที่ประชุมด้วย
เมื่อถามถึงข้อเสนอว่าจะให้เลื่อนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีออกไปก่อน เพื่อรอให้ สว.หมดวาระ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นแนวทางหนึ่ง แต่เราต้องมาดูในรายละเอียด ผลสัมฤทธิ์จะเป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้หรือไม่ ถ้าเป็นไปตามคาดก็น่าทดลองดำเนินการตามนั้น แต่ระบบรัฐสภาเสียงข้างมาก เรายังอยู่ภายใต้ 749 เสียง ถึงแม้เราอยากจะเสนอให้ขอเลื่อนการโหวตนายกฯ ออกไปอีก 10 เดือน แต่ถ้าเสียงข้างมาก 749 เสียงเขาไม่ยอม แทนที่เราจะได้ตามที่ควรได้ ก็เหมือนกับเราไปส่งเสริมมอบอำนาจให้ในสิ่งที่คนไม่อยากทำ
“ข้อแทรกซ้อนมันเกิดขึ้นได้ตลอด นี่คือผลกระทบทางการเมือง อะไรที่ไม่สามารถคาดการณ์ก็เกิดขึ้นได้ แต่ใครจะมีเสียงมากกว่ากันเท่านั้นในระบบเสียงข้างมาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่พึงระวัง เราคิดแบบโลกสวยไม่ได้ในมุมการเมือง มันมีหลายมิติต้องเอามาประกอบกัน ว่าถ้าเราไม่ทำ หรือเราแพ็คกันแน่นอยู่อย่างนี้ คนอื่นเขาก็มีวิธีคิด เขาก็เป็นเจ้าของประเทศ ถ้าเขาสามารถรวมเสียงได้ในที่ประชุมรัฐสภา เราก็ต้องยอมรับ” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
เมื่อถามว่าในทางการเมืองสามารถรอให้ สว.หมดอำนาจได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ที่กลัวคือวิกฤตทางการเมือง และวิกฤติเศรษฐกิจ สังคม ที่จะเกิดขึ้น ก็ต้องไปดูในหลายๆ ส่วน
เมื่อถามถึงกรณีที่ สมชาย แสวงการ สว. ออกมาระบุ หากพรรคเพื่อไทยยังไม่พร้อมก็ให้เลื่อนการโหวตนายกฯ ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ออกไปก่อน จะนำมาพิจารณาหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การเลื่อนประชุมรัฐสภาเป็นอำนาจของประธานรัฐสภา และขึ้นอยู่กับความเห็นของวิปทั้ง 3 ฝ่าย ส่วนฝ่าย 8 พรรคร่วมฯ ก็เป็นความเห็นหนึ่งที่จะเสนอไป ถ้าเราบอกว่าพร้อม แต่อีก 2 ฝ่ายไม่พร้อม ประธานสภาฯก็สามารถเลื่อนประชุมได้ แต่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้นำเรื่องการเลื่อนวันโหวตนายกฯ มาพูดคุยกัน เพราะเรากำลังดำเนินการในสิ่งที่ได้รับมอบหมายอยู่ ดังนั้นหากผลการประชุม 8 พรรคร่วมฯ ในวันที่ 25ก.ค.นี้ ออกมาเป็นอย่างไรก็จะเป็นทิศทางประกอบความคิดเห็นได้
เมื่อถามว่า เป้าหมายของพรรคเพื่อไทยคือการโหวตนายกฯ ในวันที่ 27 ก.ค. ให้ได้ 375 เสียง ยังเป็นเป้าหมายอยู่ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรายังเดินตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้อยู่ ซึ่งก่อนที่เราจะประชุม 8 พรรคร่วมฯ ประธานสภาฯ ได้นัดวิป 3 ฝ่ายประชุมกันก่อนในช่วงเช้า เพื่อที่จะพิจารณาว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อนนำเข้าในวันที่ 27 ก.ค.
เมื่อถามว่านับจากนี้ถ้าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งออกไปอยากจะบอกอะไรกับประชาชนหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็ให้รอดูข้อตัดสิน มันยังไม่เสร็จ จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะบอกอย่างไร
เมื่อถามว่า 2 วันที่ผ่านมาที่ได้พูดคุยกับพรรคการเมืองและสว.ส่วนใหญ่ข้อเสนอคือไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในสมการในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะเอาเรื่องนี้ไปบอกพรรคก้าวไกลอย่างไรในการประชุม 8 พรรคร่วมฯพรุ่งนี้ (25ก.ค.) นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรามีหน้าที่เอาข้อมูลเข้าสู่วาระของการประชุม 8 พรรคร่วมฯ และร่วมกันพิจารณาทางออก ทางเลือก ส่วนผลจะออกมาอย่างไรอยู่ที่การพูดคุยกัน ตนยังตอบไม่ได้ว่าจะออกมามุมไหน
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดสลายขั้ว 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะคิดหรือไม่ไม่ได้มีประเด็น สิ่งที่สำคัญคือ 8 พรรคร่วมฯต้องอยู่ ถึงจะคิดได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เราก็เป็นแค่หนึ่งในองค์ประกอบนั้น เราเสนอได้แต่ที่ประชุมเขาเห็นอย่างไรก็ต้องไปว่ากัน
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงกรณีที่ระบุหากทั้ง 2 พรรคหมดปัญญาในการจัดตั้งรัฐบาล จะมอบให้พรรคอันดับ 3 ดำเนินการ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่อยากขยายความ เดี๋ยวตีความผิดอีก ความหมายของตนคือทางเลือกมีคนเสนอเยอะ ตนเพียงจะบอกว่าทางเลือกอื่นมีคนเสนอมาทำนองนี้ว่าเราหมดปัญญาแล้วการมอบให้พรรคที่ 3 เป็นไปได้หรือไม่ ตนจึงบอกไปว่ามันเป็นทางเลือกจะเกิดขึ้นหรือไม่เราไม่รู้ และตนยังพูดไปชัดว่าเป็นการมอบอำนาจให้เสียงข้างน้อย
เมื่อถามย้ำว่าให้จบที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราจะพยายาม
อย่างไรก็ตามภายหลังการหารือร่วมกับแกนนำพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปการหารือร่วมกับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สนับสนุนเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 ก.ค.นี้ เนื่องจากเป็นการหารือรายบุคคล ซึ่งตอนนี้ได้พูดคุยไปเยอะแล้วและยังคงเดินหน้าพูดคุยต่อไป
เมื่อถามว่า จะทันการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา จะนำผลที่คุยเบื้องต้นแจ้งต่อที่ประชุมเท่านั้น
ส่วนการเสนอเลื่อนประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ออกไปนั้น เบื้องต้นได้รับแจ้งจากประธานรัฐสภาว่าขอเลื่อนการประชุม 3 ฝ่ายออกไปเป็นวันที่ 26 กรกฎาคม ส่วนจะเสนอเลื่อนประชุมออกไปหรือไม่ ตามขั้นตอนประธานรัฐสภาต้องแจ้งกับสมาชิกล่วงหน้า 3 วัน เว้นแต่เป็นกรณีเร่งด่วนสามารถ แจ้งเลื่อนล่วงหน้าได้ภายใน 1 วัน แต่ยังตอบไม่ได้ว่า ยังจะเสนอเลื่อนการประชุมได้อีกหรือไม่ ทุกอย่างเป็นอำนาจของประธานรัฐสภา หากพิจารณาแล้วสถานการณ์ไม่เหมาะ ไม่ควร ก็อาจจะมีข้อพิจารณา