พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงถึงการยื่นหนังสือลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และมีผลในวันที่ 1 ก.ย. ว่า เป็นการเสียสละ เป็นความตั้งใจ หลังจากที่ช่วยเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยสามารถตั้งรัฐบาลด้วยการจับมือกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และรวมเสียงสนับสนุนให้ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ได้
“ผมถือว่าภารกิจของผมที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยเสร็จแล้ว ผมก็จบแล้ว เพราะได้ทำหน้าที่ทั้งสนับสนุนและยกมือโหวตให้เศรษฐา ในวันที่ 22 ส.ค. ได้บรรลุผลแล้ว จากนั้นวันที่ 23 ส.ค. ผมได้ยื่นลาออก เพื่อให้สมาชิกพรรคได้เป็นสส. และทำบทบาทของหัวหน้าพรรค เพื่อสร้างพรรคเสรีรวมไทยได้เต็มที่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดสรรโควตารัฐมนตรีทั่วๆ ไป เหมือนหมาแย่งชามข้าว ส่วนตัวไม่ได้หมายถึงตอนนี้ แต่เมื่อแย่งโควตารัฐมนตรีแล้ว สงสัยว่า ทำไมไม่อายข้าราชการในกระทรวง คนที่จะเป็นรัฐมนตรีที่มาจากการซื้อขาย มองว่า ไม่ใช่ผู้นำระดับสูงสุด หรือระดับ 5 ส่วนคนเป็นนายกฯต้องสร้างชาติ ต้องคิดถึงเรื่องคน
“ตอนนี้ผมเป็นคนในระดับผู้นำสูงสุด คือ คนที่เสียสละ ทั้งนี้ ผมไม่เคยมีสัญญากับพรรคเพื่อไทยว่า มาช่วยแล้วต้องมีตำแหน่ง แต่ตอนพรรคก้าวไกลยอมรับว่า เขาเสนอตำแหน่งให้ผม และดีกว่าพรรคเพื่อไทยอีก ทั้งนี้ เมื่อไปไม่ได้ เขาต้องยอมรับ ซึ่งเขาเล่นการเมือง เมื่อเขาไปไม่ได้ คนอื่นต้องไปไม่ได้ด้วย” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าการลาออกครั้งนี้เพราะผิดหวังไม่ได้ตำแหน่งหรือไม่ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ไม่ได้ผิดหวังอะไร
“ผมไม่ได้ผิดหวัง แต่จากการเลือกคน ไปตั้งใครไม่รู้ ทั้งอดีตนักโทษ คนที่เคยติดคุกมา คนที่ไม่มีประสบการณ์ อย่าง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่มีชื่อติดโผ เคยถูกไล่ออกจากราชการเพราะประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ที่ทำหน้าที่แล้วมีคนตาย แม้ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเป็นหัวหน้า คสช.จะยกโทษให้ แต่ความผิดนั้นยังคงอยู่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ทนายยื่นตรวจสอบ พล.ต.อ.พัชรวาทเพราะเป็นผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีที่มีลักษณะต้องห้าม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เหตุผลต้องยื่นเพื่อไม่ให้เลขาธิการสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ติดคุก เนื่องจากเป็นผู้ที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี แต่หากเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบไม่ผิด ส่วนตัวจะตรวจสอบต่อเอง หากกรณีนี้ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าขาดคุณสมบัติ เชื่อว่า วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่กำกับ สลค.ต้องรับผิดชอบ
“ผมถือว่าภารกิจของผมที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยเสร็จแล้ว ผมก็จบแล้ว เพราะได้ทำหน้าที่ทั้งสนับสนุนและยกมือโหวตให้เศรษฐา ในวันที่ 22 ส.ค. ได้บรรลุผลแล้ว จากนั้นวันที่ 23 ส.ค. ผมได้ยื่นลาออก เพื่อให้สมาชิกพรรคได้เป็นสส. และทำบทบาทของหัวหน้าพรรค เพื่อสร้างพรรคเสรีรวมไทยได้เต็มที่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดสรรโควตารัฐมนตรีทั่วๆ ไป เหมือนหมาแย่งชามข้าว ส่วนตัวไม่ได้หมายถึงตอนนี้ แต่เมื่อแย่งโควตารัฐมนตรีแล้ว สงสัยว่า ทำไมไม่อายข้าราชการในกระทรวง คนที่จะเป็นรัฐมนตรีที่มาจากการซื้อขาย มองว่า ไม่ใช่ผู้นำระดับสูงสุด หรือระดับ 5 ส่วนคนเป็นนายกฯต้องสร้างชาติ ต้องคิดถึงเรื่องคน
“ตอนนี้ผมเป็นคนในระดับผู้นำสูงสุด คือ คนที่เสียสละ ทั้งนี้ ผมไม่เคยมีสัญญากับพรรคเพื่อไทยว่า มาช่วยแล้วต้องมีตำแหน่ง แต่ตอนพรรคก้าวไกลยอมรับว่า เขาเสนอตำแหน่งให้ผม และดีกว่าพรรคเพื่อไทยอีก ทั้งนี้ เมื่อไปไม่ได้ เขาต้องยอมรับ ซึ่งเขาเล่นการเมือง เมื่อเขาไปไม่ได้ คนอื่นต้องไปไม่ได้ด้วย” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าการลาออกครั้งนี้เพราะผิดหวังไม่ได้ตำแหน่งหรือไม่ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ไม่ได้ผิดหวังอะไร
“ผมไม่ได้ผิดหวัง แต่จากการเลือกคน ไปตั้งใครไม่รู้ ทั้งอดีตนักโทษ คนที่เคยติดคุกมา คนที่ไม่มีประสบการณ์ อย่าง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่มีชื่อติดโผ เคยถูกไล่ออกจากราชการเพราะประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ที่ทำหน้าที่แล้วมีคนตาย แม้ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเป็นหัวหน้า คสช.จะยกโทษให้ แต่ความผิดนั้นยังคงอยู่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ทนายยื่นตรวจสอบ พล.ต.อ.พัชรวาทเพราะเป็นผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีที่มีลักษณะต้องห้าม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เหตุผลต้องยื่นเพื่อไม่ให้เลขาธิการสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ติดคุก เนื่องจากเป็นผู้ที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี แต่หากเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบไม่ผิด ส่วนตัวจะตรวจสอบต่อเอง หากกรณีนี้ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าขาดคุณสมบัติ เชื่อว่า วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่กำกับ สลค.ต้องรับผิดชอบ