สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วันที่ 28 มิถุนายน 2566 สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นำโดย เสรี สุวรรณภานนท์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ พร้อมด้วย ส.ว.จำนวนหนึ่ง เดินทางเข้าร่วมหารือกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงทางออกกรณีที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถือครองหุ้นไอทีวี
ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันพิจารณาว่าจะการดำเนินการอย่างไร ก่อนที่จะมีการโหวตลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 กรกฎาคม นี้ โดยทางคณะ ส.ว.ได้มีการนำหลักฐานมามอบให้กับ กกต.อีกด้วย
ภายหลัง การหารือ ส.ว.เสรี เปิดเผยว่า ทางกรรมาธิการมาหารือกับทาง กกต.เนื่องจากเคยนัดไว้ตั้งแต่ก่อนวันเลือกตั้ง แต่ทาง กกต.ติดภารกิจจึงเลื่อนมาเป็นวันนี้ ซึ่งเรื่องที่มาหารือเป็นเรื่องที่ทางกรรมาธิการกำลังพิจารณารวบรวมปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของ กกต.เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นให้สุจริตเที่ยงธรรม
มีหลายเรื่องที่หารือร่วมกัน และก็ได้นำข้อมูลในกรรมาธิการที่ได้มีการตรวจสอบ รวมทั้งข้อมูลที่ปรากฏในสื่อบางส่วน รวมถึงเอกสารที่ได้ขอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการถือครองหุ้นสื่อของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล มามอบให้กับทาง กกต.ด้วยเพื่อนำไปพิจารณาประกอบกับเรื่องที่ กกต.กำลังดำเนินการในเรื่องเหล่านี้อยู่
เมื่อถามว่า มีข้อมูลเพิ่มเติมเป็นอะไรบ้าง ส.ว.เสรี กล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในคดีความยื่นร้องจัดการมรดกเดิม ส่วนที่เป็นทรัพย์มรดก เป็นทรัพย์สิน ที่ดิน ที่มีการจัดการโอนทรัพย์มรดกนี้ไปตั้งแต่ปี 2560 เพื่อที่จะเทียบว่าการจัดการมรดกรายนี้ไม่ใช่ว่ายังค้างคาไม่เสร็จ แต่เป็นการจัดการมรดกเสร็จไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อเทียบให้เห็นว่าการถือหุ้นสื่อไอทีวี ปัจจุบันนี้เป็นการถือหุ้นโดยฐานะทายาท หรือผู้จัดการมรดก หรือในฐานะที่ได้รับมรดกมาแล้ว
“เป็นการส่งหลักฐานให้เห็นเพื่อเทียบเคียงถึงการจัดการมรดก และได้เรียนต่อ กกต.ขอให้ กกต.ทำตามอำนาจหน้าที่ของท่านให้ปรากฎ หากสามารถทำโดยเร็วได้ในส่วนใดก็ขอให้ใช้อำนาจหน้าที่หรือดุลยพินิจดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม หรือข้อถกเถียงในทางการเมืองที่ไม่อยากให้มีเรื่องอื่นๆ แทรกแซงเข้ามา อยากให้ยุติโดยเร็ว” ส.ว.เสรี กล่าว
เมื่อถามว่า กกต.ได้แจ้งเรื่องระยะเวลาดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร ส.ว.เสรี กล่าวว่า มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ทำไปก่อนการประกาศรับรองผล ซึ่ง กกต.ได้สืบสวนไต่สวนหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีตามมาตรา ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และอีกส่วนคือหลังการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ก็จะดูว่าส่วนใดเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.หรือความปรากฏของ กกต.อย่างไร ซึ่งก็คงใช้อำนาจหน้าที่ของท่านในช่วงนี้
ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันพิจารณาว่าจะการดำเนินการอย่างไร ก่อนที่จะมีการโหวตลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 กรกฎาคม นี้ โดยทางคณะ ส.ว.ได้มีการนำหลักฐานมามอบให้กับ กกต.อีกด้วย
ภายหลัง การหารือ ส.ว.เสรี เปิดเผยว่า ทางกรรมาธิการมาหารือกับทาง กกต.เนื่องจากเคยนัดไว้ตั้งแต่ก่อนวันเลือกตั้ง แต่ทาง กกต.ติดภารกิจจึงเลื่อนมาเป็นวันนี้ ซึ่งเรื่องที่มาหารือเป็นเรื่องที่ทางกรรมาธิการกำลังพิจารณารวบรวมปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของ กกต.เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นให้สุจริตเที่ยงธรรม
มีหลายเรื่องที่หารือร่วมกัน และก็ได้นำข้อมูลในกรรมาธิการที่ได้มีการตรวจสอบ รวมทั้งข้อมูลที่ปรากฏในสื่อบางส่วน รวมถึงเอกสารที่ได้ขอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการถือครองหุ้นสื่อของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล มามอบให้กับทาง กกต.ด้วยเพื่อนำไปพิจารณาประกอบกับเรื่องที่ กกต.กำลังดำเนินการในเรื่องเหล่านี้อยู่
เมื่อถามว่า มีข้อมูลเพิ่มเติมเป็นอะไรบ้าง ส.ว.เสรี กล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในคดีความยื่นร้องจัดการมรดกเดิม ส่วนที่เป็นทรัพย์มรดก เป็นทรัพย์สิน ที่ดิน ที่มีการจัดการโอนทรัพย์มรดกนี้ไปตั้งแต่ปี 2560 เพื่อที่จะเทียบว่าการจัดการมรดกรายนี้ไม่ใช่ว่ายังค้างคาไม่เสร็จ แต่เป็นการจัดการมรดกเสร็จไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อเทียบให้เห็นว่าการถือหุ้นสื่อไอทีวี ปัจจุบันนี้เป็นการถือหุ้นโดยฐานะทายาท หรือผู้จัดการมรดก หรือในฐานะที่ได้รับมรดกมาแล้ว
“เป็นการส่งหลักฐานให้เห็นเพื่อเทียบเคียงถึงการจัดการมรดก และได้เรียนต่อ กกต.ขอให้ กกต.ทำตามอำนาจหน้าที่ของท่านให้ปรากฎ หากสามารถทำโดยเร็วได้ในส่วนใดก็ขอให้ใช้อำนาจหน้าที่หรือดุลยพินิจดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม หรือข้อถกเถียงในทางการเมืองที่ไม่อยากให้มีเรื่องอื่นๆ แทรกแซงเข้ามา อยากให้ยุติโดยเร็ว” ส.ว.เสรี กล่าว
เมื่อถามว่า กกต.ได้แจ้งเรื่องระยะเวลาดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร ส.ว.เสรี กล่าวว่า มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ทำไปก่อนการประกาศรับรองผล ซึ่ง กกต.ได้สืบสวนไต่สวนหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีตามมาตรา ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และอีกส่วนคือหลังการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ก็จะดูว่าส่วนใดเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.หรือความปรากฏของ กกต.อย่างไร ซึ่งก็คงใช้อำนาจหน้าที่ของท่านในช่วงนี้
