





เศรษฐา ทวีสิน เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังได้รับแต่งตั้งเป็น ‘ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย’ พร้อมให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า ตนเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีส่วนร่วมในการให้คำปรึกษา และหารือกับผู้ใหญ่ภายในพรรคมาตลอด วันนี้ถือเป็นฤกษ์ดีถึงเวลา ที่จะมาทำงานการเมืองให้มากขึ้น
ส่วนการเดินหน้าทางการเมืองโดยเฉพาะการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของทางพรรค ซึ่งที่ผ่านมา แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ทำได้ดีมาโดยตลอด แต่ก็มีขีดจำกัดเรื่องของการตั้งครรภ์ ซึ่งตนเองพร้อมที่จะช่วยในส่วนที่ตนเองถนัด
เมื่อถามว่าวันนี้ถือเป็นก้าวแรกในการเดินหน้าสู่การเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกฯ รัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย หรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า อย่าพึ่งถึงขั้นนั้นเลย ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน และต้องให้เกียรติสมาชิกพรรคเพื่อไทยเพราะยังมีอีกหลายคนที่มีความเหมาะสม
ส่วนที่หลายคนฟันธงแล้วว่าตนเองคือหนึ่งในแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย เศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ขอเป็นประธานที่ปรึกษาให้กับ แพทองธาร ก่อน เพื่อมาช่วยเติมเต็มในส่วนที่คิดว่าสามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้ และหลังจากนี้ก็จะช่วยลงพื้นที่หาเสียง เพราะการรับฟังความเห็นประชาชนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นการลงพื้นที่ก็เป็นหนึ่งกิจกรรมที่ตนต้องทำ แต่ทางนี้ก็ไม่ทิ้งความเป็นตัวตน และสิ่งที่ตนเองถนัดด้วย
เมื่อถามย้ำว่าในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่พรรคเพื่อไทยมีกำหนดการลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ จะร่วมลงพื้นที่ด้วยหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ตนพร้อมลงพื้นที่แต่ขึ้นอยู่กับการมอบหมายจากพรรค ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป
เมื่อถามการเข้ามาทำงานการเมืองในช่วงเวลาที่เหลือเพียง 2 เดือนก่อนที่จะมีการเลือกกระชั้นชิดหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า เวลาที่เหลือก็ต้องทำงานหนักขึ้น แต่ตนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีนโยบายภาพใหญ่ที่ดี มีความเหมาะสม เข้าถึงประชาชน และทำได้จริง และพรรคก็มีทีมงานที่พร้อม ทำงานอยู่ตลอด
เมื่อถามว่าจะรับไม้ต่อจากแพทองธาร นำทัพเพื่อไทยหาเสียงพร้อมหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ไม่ขอใช้คำว่านำทัพ เพราะยังมีผู้ใหญ่อีกหลายคนในพรรค และก็มีคนคุณภาพเข้ามาช่วยกัน
เมื่อถามว่าพร้อมรับตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ รัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ถึงวันนั้นก่อน เพราะวันนี้ยังไม่ยุบสภาฯ และต้องให้เกียรติพรรค หากไปพูดก่อนจะเป็นการกดดันคนที่มีศักยภาพ เพราะตนเองถือเป็นน้องใหม่ วันนี้ขอทำหน้าที่ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก่อน และตนจะขอทำหน้าที่ให้เต็มที่อย่างถึงที่สุด ในมุมมองธุรกิจที่ตน เองมีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามย้ำว่าส่วนตัวพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่หรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ไม่มีสิทธิจะพูดว่าพร้อมหรือไม่พร้อม เพราะไม่ใช่คนตัดสิน ต้องให้เกียรติผู้บริหารพรรค
เมื่อถามว่าพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ ในงานทางการเมือง เศรษฐา กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ขอค่อยเป็นค่อยไป และต้องปรึกษาผู้ใหญ่ภายในพรรค
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมต.กลาโหม ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงความเห็นว่า ประเทศชาติไม่ใช่เรื่องธุรกิจ เศรษฐา กล่าวว่า “ท่านเองก็เป็นผู้ใหญ่ ท่านพูดอะไร ตนมีวัยวุฒิและประสบการณ์น้อยกว่า ท่านพูดอะไรมาตนก็ต้องฟัง ไม่มีคอมเมนต์อะไรมากกว่านี้”
ส่วนการเดินหน้าทางการเมืองโดยเฉพาะการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของทางพรรค ซึ่งที่ผ่านมา แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ทำได้ดีมาโดยตลอด แต่ก็มีขีดจำกัดเรื่องของการตั้งครรภ์ ซึ่งตนเองพร้อมที่จะช่วยในส่วนที่ตนเองถนัด
เมื่อถามว่าวันนี้ถือเป็นก้าวแรกในการเดินหน้าสู่การเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกฯ รัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย หรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า อย่าพึ่งถึงขั้นนั้นเลย ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน และต้องให้เกียรติสมาชิกพรรคเพื่อไทยเพราะยังมีอีกหลายคนที่มีความเหมาะสม
ส่วนที่หลายคนฟันธงแล้วว่าตนเองคือหนึ่งในแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย เศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ขอเป็นประธานที่ปรึกษาให้กับ แพทองธาร ก่อน เพื่อมาช่วยเติมเต็มในส่วนที่คิดว่าสามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้ และหลังจากนี้ก็จะช่วยลงพื้นที่หาเสียง เพราะการรับฟังความเห็นประชาชนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นการลงพื้นที่ก็เป็นหนึ่งกิจกรรมที่ตนต้องทำ แต่ทางนี้ก็ไม่ทิ้งความเป็นตัวตน และสิ่งที่ตนเองถนัดด้วย
เมื่อถามย้ำว่าในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่พรรคเพื่อไทยมีกำหนดการลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ จะร่วมลงพื้นที่ด้วยหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ตนพร้อมลงพื้นที่แต่ขึ้นอยู่กับการมอบหมายจากพรรค ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป
เมื่อถามการเข้ามาทำงานการเมืองในช่วงเวลาที่เหลือเพียง 2 เดือนก่อนที่จะมีการเลือกกระชั้นชิดหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า เวลาที่เหลือก็ต้องทำงานหนักขึ้น แต่ตนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีนโยบายภาพใหญ่ที่ดี มีความเหมาะสม เข้าถึงประชาชน และทำได้จริง และพรรคก็มีทีมงานที่พร้อม ทำงานอยู่ตลอด
เมื่อถามว่าจะรับไม้ต่อจากแพทองธาร นำทัพเพื่อไทยหาเสียงพร้อมหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ไม่ขอใช้คำว่านำทัพ เพราะยังมีผู้ใหญ่อีกหลายคนในพรรค และก็มีคนคุณภาพเข้ามาช่วยกัน
เมื่อถามว่าพร้อมรับตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ รัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ถึงวันนั้นก่อน เพราะวันนี้ยังไม่ยุบสภาฯ และต้องให้เกียรติพรรค หากไปพูดก่อนจะเป็นการกดดันคนที่มีศักยภาพ เพราะตนเองถือเป็นน้องใหม่ วันนี้ขอทำหน้าที่ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก่อน และตนจะขอทำหน้าที่ให้เต็มที่อย่างถึงที่สุด ในมุมมองธุรกิจที่ตน เองมีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามย้ำว่าส่วนตัวพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่หรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ไม่มีสิทธิจะพูดว่าพร้อมหรือไม่พร้อม เพราะไม่ใช่คนตัดสิน ต้องให้เกียรติผู้บริหารพรรค
เมื่อถามว่าพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ ในงานทางการเมือง เศรษฐา กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ขอค่อยเป็นค่อยไป และต้องปรึกษาผู้ใหญ่ภายในพรรค
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมต.กลาโหม ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงความเห็นว่า ประเทศชาติไม่ใช่เรื่องธุรกิจ เศรษฐา กล่าวว่า “ท่านเองก็เป็นผู้ใหญ่ ท่านพูดอะไร ตนมีวัยวุฒิและประสบการณ์น้อยกว่า ท่านพูดอะไรมาตนก็ต้องฟัง ไม่มีคอมเมนต์อะไรมากกว่านี้”