‘เศรษฐา’ ชี้ร่วมเวทีสมัชชาสหประชาชาติ ถือเป็นก้าวแรกที่ประกาศให้โลกรู้ว่าไทยเปิดแล้ว

23 ก.ย. 2566 - 03:38

  • ‘เศรษฐา’ ชี้ร่วมเวทีสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) เป็นก้าวแรกประกาศให้โลกรู้ว่าประเทศไทยเปิดแล้ว

  • เผยร่ายถ้อยแถลง 15 นาที เน้นย้ำถึงปัญหาของโลก-ไทยชูสันติภาพที่ยั่งยืน

  • มองสมัครสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN HRC) เป็นเรื่องสำคัญ

Srettha-satisfied-attending-the-UNGA-meeting-SPACEBAR-Hero.jpg

(22 กันยายน 2566) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สรุปภารกิจในการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) เป็นครั้งแรก ว่า มีภารกิจที่หลากหลาย ไม่ใช่เฉพาะตนเอง แต่ทั้ง ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมต.ต่างประเทศ และ จักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ ต่างมีภารกิจมาก ซึ่งตนเองมีโอกาสได้พูดในหลายเวที เช่น เรื่องของโลกร้อน และสันติภาพ อากาศบริสุทธ์ ความมั่นคงทางอาหาร ปรัชญาเศรฐกิจพอเพียง และอารยะเกษตร รวมถึงมีโอกาสได้พบปะกับผู้นำหลากหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านสำคัญๆ เช่น ประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้พูดคุยเรื่องความมั่นคงทางชายแดน และส่งเสริมการค้าระหว่างกันให้สูงขึ้น  

ส่วนไฮไลต์ของงานที่ได้กล่าวถ้อยแถลง ประมาณ 15 นาที นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มีการพูดถึงปัญหาของโลก ที่เกิดจากอากาศร้อน ที่เรียกได้ว่าไม่ใช่โลกร้อน แต่เป็นโลกเดือด หลายประเทศก็ยังมองไปข้างหลัง เรื่องของตัวเลขดัชนีชี้วัดต่างๆ ก็ต้องรวมพลังและทำให้มันเกิดขึ้นได้  

“ผมเคยบอกไปหลายเวทีแล้วว่า การประชุมของสหประชาชาติครั้งนี้ มีเรื่องของปัญหาที่ต่างกันหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่เห็นตรงกัน เรื่องความมั่นคงทางอาหารก็เป็นเรื่องสำคัญ โลกร้อน โลกเดือด ก็ทำให้ไม่แน่นอน ทางด้านภูมิอากาศที่เหมาะกับการทำกิจกรรม ประเทศเราเองเหมาะกับเกษตรกรรม มีความมั่นคงทางอาหารสูง แต่เรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง ที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศแปรปรวน ทำให้เราต้องกลับมาดูเรื่องนี้ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ทั้งเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเรื่องอารยะเกษตร ซึ่งต้องหาพื้นที่ให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่การเพาะปลูก รวมถึงการใช้หนองน้ำ เลี้ยงปลา หลายอย่างผมเชื่อว่า สามารถปรับมาใช้ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

ส่วนเรื่องปัญหาสุขภาพ ที่มีโรคเพิ่มมากขึ้นนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเหมือน wake-up call (สัญญาณเตือน) หลังมีโรคระบาด ทำให้เรารู้ว่าสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษยชนถูกจำกัด หรือได้รับการดูแลเยียวยาอย่างไม่ทั่วถึง แต่ประเทศไทยโชคดีที่มีระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง  

แต่แม้ว่าจะมีสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง แต่มีการเคลื่อนไหวของประชากร เราดูแลดีอย่างไรก็ตาม ถ้าประเทศอื่นไม่ดูแลเพียงพอ สหประชาชาติเองก็ควรเข้ามาเป็นเจ้าภาพ เพื่อเป็นแน่ใจว่าทุกๆ ประเทศมีระบบ Healthcare (การบริการดูแลสุขภาพ) ที่ดีเหมือนประเทศไทย ขณะที่ไทยเองยังไม่หยุดยั้ง ยังยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อทำให้คนไทยสบายมากขึ้น ในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข 

ผู้สื่อข่าวถามถึงสันติภาพที่ยั่งยืนในความหมายของนายกรัฐมนตรี เป็นอย่างไร เศรษฐา กล่าวว่า สันติภาพที่ยั่งยืนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ประเทศไทยเรามีความเชื่อเรื่องความสงบ และความเชื่อเรื่องการจริญที่ยั่งยืน โดยไม่เข้าไปก้าวก่ายกิจการภายในของแต่ละประเทศ  

“แต่เป็นที่ทราบดีว่า เรื่องความระหองระแหงระหว่างประเทศมีหลายคู่ ส่วนประเทศเราแม้จะเป็นประเทศเล็ก ไม่ได้ใหญ่มาก ก็ภูมิใจในเอกราชที่เรามีมาตลอด เราเองมีความภูมิใจ และมีความสบายใจ ในการที่เราอยู่ในภูมิศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับของทุกประเทศ จึงเป็นหน้าที่ของผู้นำและรัฐบาลนี้ ที่จะต้องดำรงไว้ซึ่งความเป็นเอกราชและไม่เข้าข้างใคร เรามีความเชื่อในเรื่องสันติสุขและความเจริญที่ยั่งยืน” นายกรัฐมนตรี กล่าว  

ส่วนประเด็นการสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Human Rights Council) เศรษฐา กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ใช่แค่ดูแลสิทธิมนุษยชนเพียงอย่างเดียว เรามีประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ ไม่ว่า มาเลเซีย ลาว กัมพูชา และที่ละเอียดอ่อนที่สุดคือ เมียนมา ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องดูแล หากมีผู้อพยพเข้ามา หรือมีผู้ที่เดือดร้อนบริเวณชายแดน เพราะเรามีชายแดนกับเมียนมา กว่า 1,000 กิโลฯ  จะต้องดูแล 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองความสำเร็จในการร่วมเวทีโลกครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีอย่างไร เศรษฐา กล่าวว่า ครั้งแรกก็ต้องขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน BOI ที่ช่วยดูแลและเป็นเจ้าภาพในการนำนักธุรกิจเก่งๆ และสนใจ มาร่วมทุนในประเทศไทย มาร่วมงาน ถือเป็นนิมิตหมายและจุดเริ่มต้นที่ดี  

“4 วันที่ผ่านมา ได้ทำหน้าที่ ถือเป็นก้าวแรกในการประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า ประเทศไทยเปิดแล้ว เราพร้อมที่จะมีการลงทุนข้ามชาติ ทั้ง 2 ทาง ไม่ใช่แค่ให้เขามาลงทุนอย่างเดียว เอกชนไทยที่แข็งแกร่งหลายราย พร้อมลงทุนในต่างประเทศด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

เมื่อถามถึงการพบกับผู้นำต่างชาติ มีการตอบรับกับรัฐบาลใหม่และนายกรัฐมนตรีใหม่อย่างไร เศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี ทุกคนยินดีด้วย และทุกคนเข้าใจว่าถึงเวลาต้องมีผู้นำในการออกมาค้าขาย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์