










คุณหญิงสุดารัตน์ เกยราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หรือหมอชิต เพื่อพบปะประชาชนและส่ง ผู้โดยสายกลับภูมิลำเนาเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ ซึ่งพี่น้องประชาชน ต่างปลื้มใจที่จะได้มีโอกาส กลับไปหาครอบครัว หลายคนได้นำของกินของฝากของใช้ กลับไปฝากครอบครัวที่อยู่ยังต่างจังหวัด
คุณหญิงสุดารัตน์ ขอให้พี่น้องประชาชน เตรียมตัวเดินทางล่วงหน้า 2-3 ชั่วโมง และเพื่อป้องกันมิจฉาชีพขอให้ซื้อตั๋ว จากช่องจำหน่ายตั๋ว ภายในสถานีขนส่งเท่านั้น และขอให้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางให้ครบถ้วน เช่นเวลารถออก จุดจอดรถ และเส้นทางการเดินทาง และที่สำคัญขอส่งเสียงไปยัง ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรถร่วมที่มาให้บริการขอให้ติดป้ายแสดงราคา หน้าช่องจำหน่ายตั๋วให้ชัดเจน ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา ในช่วงที่พี่น้องจำเป็นต้องเดินทาง
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะเป็นโอกาสที่สร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยชี้ว่า เทศกาลสงกรานต์ในปีนี้เงินจะสะพัด กว่า 125,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% เทียบกับปี 2565 ที่ใช้จ่าย 106,772 ล้านบาท แต่ลดลง 7.8% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤตโควิด ที่มูลค่าสูงสุด กว่า 135,837 ล้านบาท จากข้อมูลยังพบว่า 72.8% วางแผนไปเที่ยวและทำกิจกรรมในจังหวัดที่ตนเองอยู่ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสำหรับท่องเที่ยวในประเทศคนละ 7,091 บาท และคนไปต่างประเทศคนละ 45,681 บาท
ซึ่งการทางท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่ามีรายได้สะพัดมากกว่า 18,530 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากตลาดในประเทศ 13,500 ล้านบาท และรายได้จากต่างประเทศ 5,030 ล้านบาท
ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 มีจำนวน 305,000 คน ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา ชื่นชมกับประเพณีของไทยกว่า 522,357 คน ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2566 ประมาณ 5,030 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดโควิดซึ่ง มีรายได้ประมาณ 8,321 ล้านบาท.
คุณหญิงสุดารัตน์ เห็นว่าการท่องเที่ยว ยังไม่กลับมา อย่างเต็มรูปแบบ เหมือนกับช่วงที่ก่อนจะเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนั้นพรรคจะเข้ามาสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศไทย จำเป็นต้องสร้างเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนการสร้างรายได้ พรรคไทยสร้างไทยจึงตั้งเป้า ในการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยวเมืองรองและการท่องเที่ยวในชุมชนไทย
พรรคไทยสร้างไทย มองว่าการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์หนึ่งในสองตัวที่สำคัญของประเทศจะต้องเร่งยกระดับการท่องเที่ยวในส่วนรวมว่าจะต้องเป็น World Class Destination ยกระดับการท่องเที่ยวขึ้นมาให้ได้และ เพิ่มกิจกรรมต่างๆ เช่นทำ 12 เดือน 12 อีเวนต์ กระจายทั่วทุกจังหวัด ทุกตำบล อำเภอ ลง ไปถึงหมู่บ้าน เพื่อกระจายรายได้ลงไปถึงฐานรากเน้นใช้เรื่องความเป็นไทย Thainess Econony อัตลักษณ์ไทย ทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต ศาสนา ความเชื่อ สายมูต่างๆ รวมทั้งสินค้าและบริการของไทย
นอกจากอีเวนต์ ไทยสร้างไทยจะทำให้หนึ่งไทยกลายเป็น Shopping Paradise เพื่อทำให้ท้องถิ่นนั้นได้รายได้มากขึ้น โดยรัฐบาลไทยสร้างไทยจะเข้าไปส่งเสริมเรื่องการแปรรูป สินค้าเกษตรและสินค้าพื้นเมืองพร้อมทั้งช่วยดีไซน์ผลิตภัณฑ์และ packaging รวมทั้งการหาตลาดด้วยแพลตฟอร์มที่ไทยสร้างไทยจะดำเนินการ ซึ่งแผนการสร้างรายได้ส่วนนี้ของพรรคไทยสร้างไทย ตั้งเป้า ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวของไทยเพิ่มเป็น 3 ล้านล้านบาทต่อปี
คุณหญิงสุดารัตน์ ขอให้พี่น้องประชาชน เตรียมตัวเดินทางล่วงหน้า 2-3 ชั่วโมง และเพื่อป้องกันมิจฉาชีพขอให้ซื้อตั๋ว จากช่องจำหน่ายตั๋ว ภายในสถานีขนส่งเท่านั้น และขอให้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางให้ครบถ้วน เช่นเวลารถออก จุดจอดรถ และเส้นทางการเดินทาง และที่สำคัญขอส่งเสียงไปยัง ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรถร่วมที่มาให้บริการขอให้ติดป้ายแสดงราคา หน้าช่องจำหน่ายตั๋วให้ชัดเจน ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา ในช่วงที่พี่น้องจำเป็นต้องเดินทาง
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะเป็นโอกาสที่สร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยชี้ว่า เทศกาลสงกรานต์ในปีนี้เงินจะสะพัด กว่า 125,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% เทียบกับปี 2565 ที่ใช้จ่าย 106,772 ล้านบาท แต่ลดลง 7.8% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤตโควิด ที่มูลค่าสูงสุด กว่า 135,837 ล้านบาท จากข้อมูลยังพบว่า 72.8% วางแผนไปเที่ยวและทำกิจกรรมในจังหวัดที่ตนเองอยู่ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสำหรับท่องเที่ยวในประเทศคนละ 7,091 บาท และคนไปต่างประเทศคนละ 45,681 บาท
ซึ่งการทางท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่ามีรายได้สะพัดมากกว่า 18,530 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากตลาดในประเทศ 13,500 ล้านบาท และรายได้จากต่างประเทศ 5,030 ล้านบาท
ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 มีจำนวน 305,000 คน ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา ชื่นชมกับประเพณีของไทยกว่า 522,357 คน ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2566 ประมาณ 5,030 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดโควิดซึ่ง มีรายได้ประมาณ 8,321 ล้านบาท.
คุณหญิงสุดารัตน์ เห็นว่าการท่องเที่ยว ยังไม่กลับมา อย่างเต็มรูปแบบ เหมือนกับช่วงที่ก่อนจะเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนั้นพรรคจะเข้ามาสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศไทย จำเป็นต้องสร้างเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนการสร้างรายได้ พรรคไทยสร้างไทยจึงตั้งเป้า ในการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยวเมืองรองและการท่องเที่ยวในชุมชนไทย
พรรคไทยสร้างไทย มองว่าการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์หนึ่งในสองตัวที่สำคัญของประเทศจะต้องเร่งยกระดับการท่องเที่ยวในส่วนรวมว่าจะต้องเป็น World Class Destination ยกระดับการท่องเที่ยวขึ้นมาให้ได้และ เพิ่มกิจกรรมต่างๆ เช่นทำ 12 เดือน 12 อีเวนต์ กระจายทั่วทุกจังหวัด ทุกตำบล อำเภอ ลง ไปถึงหมู่บ้าน เพื่อกระจายรายได้ลงไปถึงฐานรากเน้นใช้เรื่องความเป็นไทย Thainess Econony อัตลักษณ์ไทย ทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต ศาสนา ความเชื่อ สายมูต่างๆ รวมทั้งสินค้าและบริการของไทย
นอกจากอีเวนต์ ไทยสร้างไทยจะทำให้หนึ่งไทยกลายเป็น Shopping Paradise เพื่อทำให้ท้องถิ่นนั้นได้รายได้มากขึ้น โดยรัฐบาลไทยสร้างไทยจะเข้าไปส่งเสริมเรื่องการแปรรูป สินค้าเกษตรและสินค้าพื้นเมืองพร้อมทั้งช่วยดีไซน์ผลิตภัณฑ์และ packaging รวมทั้งการหาตลาดด้วยแพลตฟอร์มที่ไทยสร้างไทยจะดำเนินการ ซึ่งแผนการสร้างรายได้ส่วนนี้ของพรรคไทยสร้างไทย ตั้งเป้า ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวของไทยเพิ่มเป็น 3 ล้านล้านบาทต่อปี