ผบ.ทร. สั่งสอบ ‘ผู้การเรือ-กำลังพล’ เหตุ ร.ล.สุโขทัย ล่ม รายงาน ‘นายกฯ-ก.คลัง’ ตามระเบียบ

21 ธันวาคม 2565 - 02:39

Sukhothai-FSG442-Choengchai-Investigate-SPACEBAR-Thumbnail
  • ผบ.ทร. สอบกราวรูด ‘ผู้การเรือ-กำลังพล’ สางปมเรือ ร.ล.สุโขทัย ล่ม เหตุการณ์-ขั้นตอนปฏิบัติ รายงานนายกฯ-กระทรวงการคลัง ตามระเบียบความรับผิดทางละเมิด ยันไม่ปกปิด

พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ แถลงข่าวความคืบหน้าเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดย พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า กองทัพเรือจะต้องมีการรายงานเหตุการณ์ตามระเบียบเป็นการรายงานด่วนถึงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามกฎหมาย ซึ่งต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกองทัพเรือมีระเบียบว่าด้วยการป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหาย ที่ต้องให้หน่วยที่เป็นผู้บัญชาการของเรือก็คือทัพเรือภาค 1 รายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รายงานความสูญเสียทั้งในเรื่องของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ จากนั้นจะมีการรายงานเรื่องของระเบียบความรับผิดทางละเมิด ที่จะต้องรายงานข้อเท็จจริงไปถึงกระทรวงการคลัง และ นายกฯ ได้รับทราบ 

“จะสอบตั้งแต่ ผู้การเรือ ไปจนถึง กำลังพลทุกนาย ถึงเหตุการณ์เกิดขึ้น ขั้นตอนปฏิบัติ” 

เพราะฉะนั้นในรายละเอียดที่เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นสาเหตุของเรือจมที่มีการกล่าวว่าเสื้อชูชีพไม่พอกับกำลังพล ต้องถูกสอบสวนและรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดมาที่กองทัพเรือ ขอให้ประชาชนได้รับทราบว่าเรามีกฎหมายแนวทางปฏิบัติที่จะต้องสอบสวนข้อเท็จจริงในทุกเรื่อง รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น รายงานข้อเท็จจริงของเหตุการณ์สูญเสียในบางเรื่องเราสามารถเปิดเผยได้ แต่ในบางเรื่องก็เป็นไปตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ เปิดเผยไม่ได้ กองทัพเรือไม่ปกปิดข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้นเราจะสอบสวนทางข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงโดยเฉพาะญาติพี่น้องของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่ได้รับความสูญเสีย และเข้าใจถึงญาติพี่น้องของกำลังพลที่ยังหาไม่พบ 

“ผมจะนำกำลังพลทุกนายกลับบ้านยืนยันว่ากองทัพเรือจากทำทุกอย่างอย่างเต็มความสามารถในการช่วยเหลือกำลังพลทั้งในส่วนที่ปรับตัวมาแล้วและที่ยังค้นหาไม่พบ” 

ด้าน พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวด้วยว่า ขณะที่เรือหลวงสุโขทัยอับปางได้มีการส่งเรือไปช่วยเหลือ และเร่งดำเนินการค้นหากำลังพลทั้ง 30 คนแล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ในคืนวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา และเช้าวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา คลื่นลมแรง การช่วยเหลือต่างๆ ที่ส่งไปเข้าไปถึงยากต่อการช่วยเหลือ 

ส่วนกรณีเสื้อชูชีพไม่เพียงพอ เนื่องจากมีกำลังพลนาวิกโยธิน และ สอ.รฝ. 30 คน ซึ่งไม่ใช่กำลังพลประจำเรือ เดินทางไปกับเรือ เพื่อร่วมภารกิจถวายพระเกียรติ 100 ปี กรมหลวงชุมพรฯ ที่หาดทรายรี จ.ชุมพร จึงไม่มีเสื้อชูชีพให้กำลังพลส่วนนี้ และช่วยเหลือได้ 18 คน โดยอยู่ใน 75 คนแรก และยังหาไม่พบ 12 คน และยืนยันว่า การช่วยเหลือเป็นไปตามมาตรการที่ทางเรือกำหนด มีการเกาะเป็นหมู่ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสภาพฉุกเฉิน และไม่คาดคิด 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์