สุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การสัมมนา ส.ส. พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นกระบวนการรับฟังความเห็น ส.ส. โดยจะนำข้อมูลที่ได้ไปประกอบความเห็นอื่นๆ และประมวลว่าอะไรเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ประชาชน และพรรค เพื่อตัดสินใจ ถ้าทุกอย่างยังไม่ลงตัวอาจต้องคุยส่วนตัวกับสมาชิกที่ยังเห็นต่าง คนที่เห็นต่างถือเป็นกุศลเจตนา ด้วยความหวังดีต่อพรรค ไม่มีวาระซ่อนเร้นอื่น
“เท่าที่ดูคงไม่ถึงขั้นต้องเปิดฟรีโหวตในการโหวตเลือกประธานสภาฯ แนวทางสุดโต่งเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้น ดังนั้นต้องหาวิธียืดหยุ่นเข้าหากัน อาจจะต้องไปพูดคุยด้วยหลายเหตุผลกับพรรคก้าวไกล อาจต้องโยกหรือปรับเงื่อนไขที่เคยคุยกันไว้เล็กน้อย ยังไม่รู้จะปรับอย่างไร เป็นเรี่องที่คณะเจรจาจะไปพูดคุยกัน อะไรที่มันตึงมาก อาจต้องขยับนิดหน่อยก็ลงตัวได้” สุทิน ระบุ
ส่วนจะถึงขั้นให้พรรคก้าวไกล ยอมสละตำแหน่งประธานสภาฯ หรือไม่นั้น สุทิน ระบุว่า ขึ้นอยู่กับพรรคก้าวไกล หากยังยืนยันหลักการเดิม แล้วพรรคเพื่อไทย เห็นว่าจะไปไม่ได้ ก็ต้องมาพูดคุย จะปรับลดอะไรลงได้หรือไม่ ชุดเจรจาบอกว่า มีทางลงตัวได้ ทุกอย่างจะลงตัวก่อนๆ วันโหวตประธานสภาฯแน่นอน ในวันโหวตทุกอย่างจะลงตัวด้วยดี ส่วนที่แกนนำพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลแสดงความเป็นห่วง หากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ได้ จะเกิดปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลตามมานั้น สุทิน เชื่อว่าทุกคนคำนึงถึงเรื่องนี้ว่าหากสิ่งที่อยากได้ ทำให้เจอทางตัน แต่ถ้าเรายืดหยุ่นเล็กน้อยก็ทำให้เดินต่อไปได้ ถ้าคุยกันแล้วน่าจะไปต่อได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคเพื่อไทย มีมติเรื่องการโหวตประธานสภาฯ ออกมา แต่ ส.ส.ขอใช้เอกสิทธิ์ส่วนตัวในการโหวต จะทำอย่างไร สุทิน ตอบว่า พรรคฯ เคารพเอกสิทธิ์สมาชิก แต่เราต้องทำความเข้าใจให้ทุกคนใช้เอกสิทธิ์ในทางมี่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ประชาชน และพรรค แม้จะเป็นการลงมติลับ แต่ผลโหวตที่ออกมาต้องเป็นประโยชน์ ขณะเดียวกัน เชื่อว่าจะไม่มีการเสนอชื่อ สุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลงชิงตำแหน่งประธานสภาฯ กับพรรคก้าวไกล
“เชื่อว่าคงไม่เกิดขึ้น คนที่ถูกเสนอชื่อเป็นผู้ใหญ่ คงมีวิธีแก้ปัญหา การจะเสนอชื่อใครเป็นประธานสภาฯ ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าตัวที่ต้องอยู่ในที่ประชุม ทุกอย่างต้องยึดแนวทางพรรค เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางออกที่ดี ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาล และกระทบการตั้งรัฐบาล” สุทิน ระบุ
“เท่าที่ดูคงไม่ถึงขั้นต้องเปิดฟรีโหวตในการโหวตเลือกประธานสภาฯ แนวทางสุดโต่งเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้น ดังนั้นต้องหาวิธียืดหยุ่นเข้าหากัน อาจจะต้องไปพูดคุยด้วยหลายเหตุผลกับพรรคก้าวไกล อาจต้องโยกหรือปรับเงื่อนไขที่เคยคุยกันไว้เล็กน้อย ยังไม่รู้จะปรับอย่างไร เป็นเรี่องที่คณะเจรจาจะไปพูดคุยกัน อะไรที่มันตึงมาก อาจต้องขยับนิดหน่อยก็ลงตัวได้” สุทิน ระบุ
ส่วนจะถึงขั้นให้พรรคก้าวไกล ยอมสละตำแหน่งประธานสภาฯ หรือไม่นั้น สุทิน ระบุว่า ขึ้นอยู่กับพรรคก้าวไกล หากยังยืนยันหลักการเดิม แล้วพรรคเพื่อไทย เห็นว่าจะไปไม่ได้ ก็ต้องมาพูดคุย จะปรับลดอะไรลงได้หรือไม่ ชุดเจรจาบอกว่า มีทางลงตัวได้ ทุกอย่างจะลงตัวก่อนๆ วันโหวตประธานสภาฯแน่นอน ในวันโหวตทุกอย่างจะลงตัวด้วยดี ส่วนที่แกนนำพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลแสดงความเป็นห่วง หากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ได้ จะเกิดปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลตามมานั้น สุทิน เชื่อว่าทุกคนคำนึงถึงเรื่องนี้ว่าหากสิ่งที่อยากได้ ทำให้เจอทางตัน แต่ถ้าเรายืดหยุ่นเล็กน้อยก็ทำให้เดินต่อไปได้ ถ้าคุยกันแล้วน่าจะไปต่อได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคเพื่อไทย มีมติเรื่องการโหวตประธานสภาฯ ออกมา แต่ ส.ส.ขอใช้เอกสิทธิ์ส่วนตัวในการโหวต จะทำอย่างไร สุทิน ตอบว่า พรรคฯ เคารพเอกสิทธิ์สมาชิก แต่เราต้องทำความเข้าใจให้ทุกคนใช้เอกสิทธิ์ในทางมี่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ประชาชน และพรรค แม้จะเป็นการลงมติลับ แต่ผลโหวตที่ออกมาต้องเป็นประโยชน์ ขณะเดียวกัน เชื่อว่าจะไม่มีการเสนอชื่อ สุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลงชิงตำแหน่งประธานสภาฯ กับพรรคก้าวไกล
“เชื่อว่าคงไม่เกิดขึ้น คนที่ถูกเสนอชื่อเป็นผู้ใหญ่ คงมีวิธีแก้ปัญหา การจะเสนอชื่อใครเป็นประธานสภาฯ ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าตัวที่ต้องอยู่ในที่ประชุม ทุกอย่างต้องยึดแนวทางพรรค เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางออกที่ดี ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาล และกระทบการตั้งรัฐบาล” สุทิน ระบุ