เช็กลิสต์ 10 เหตุผลรัฐประหาร พ.ศ.2557 สำเร็จหรือสูญเปล่า?

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คงไม่คิดว่าตัวเองจะมายืนอยู่จุดนี้ในวันนี้ 
 
บทสัมภาษณ์ในนิตยสาร TIME ฉบับเดือนกรกฎาคม 2561 นักข่าวเคยถามถึงอนาคต หลังมีการเลือกตั้ง เขาจะเกษียณตัวเองหรือไม่ 
 
คำตอบของพลเอกประยุทธ์สะท้อนว่า เขาไม่มีอำนาจที่จะกำหนดชีวิตทางการเมือง เพราะทุกอย่างล้วนแขวนอยู่บนสถานการณ์และคนอื่น

เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของอนาคต ยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้ว่าจะทำอะไรต่อ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์และคนอื่นๆ ด้วย ตนไม่มีอำนาจเด็ดขาดในเรื่องนี้ ทุกอย่างจะเป็นไปตามกลไกประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ การเลือกตั้ง และอื่นๆ ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกอะไรได้ล่วงหน้า
 
ส่วนประเด็นเรื่องการทำรัฐประหาร พลเอกประยุทธ์บอกว่า ส่วนตัวเขาไม่อยากได้อำนาจด้วยวิธีนี้ ไม่คิดว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เหตุที่ต้องทำ เพราะ 'ประเทศชาติกำลังระส่ำระสาย และตนไม่สามารถปล่อยผ่านได้
 
หากมองผ่านคำตอบข้างต้น พลเอกประยุทธ์เดินทางมาไกลจากความตั้งใจหลังรัฐประหาร พ.ศ.2557 มาไม่น้อย 

• หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ, 22 พฤษภาคม 2557 - 16 กรกฎาคม 2562 
• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, 10 กรกฎาคม 2562 - ปัจจุบัน 
• นายกรัฐมนตรี, 24 สิงหาคม 2557 - ปัจจุบัน 
• สมาชิกและประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ, มกราคม 2566 - ปัจจุบัน 
• แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เลือกตั้ง 2556

ในช่วงใกล้โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจให้สัมภาษณ์แบบ Exclusive Talk กับสุทธิชัย หยุ่น เปิดใจและความคิดในฐานะหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ 
 
การสัมภาษณ์ครั้งนี้ น่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน (ที่ไม่ใช่ตัวแทนจากภาครัฐ) ครั้งแรก และประชาชนได้ฟังสิ่งที่พลเอกประยุทธ์คิดจริงๆ 

พลเอกประยุทธ์: ถามว่าผมกังวลไหม ไม่กังวลน่ะ เพราะผมทำงานนี้มาตั้งหลายปี แล้วผมก็อยู่ในความมั่นคงมาด้วย ความมั่นคงตอนที่ผมอยู่ มันเปลี่ยนไปเยอะแล้วนะ มันต้องรู้ให้กว้างกว่าการทหารอย่างเดียว ต้องรู้เรื่องอื่นๆ ด้วย เพราะเป็นเรื่องของความมั่นคงในภูมิภาค 
 
สุทธิชัย: ตอนนั้นกับตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะ ตอนนั้นบ้านเมืองจะสงบจบที่ลุงตู่? 
 
พลเอกประยุทธ์: ใช่ 
 
สุทธิชัย: ครั้งนี้บอกว่าลุงตู่จะอยู่ต่อ? 
 
พลเอกประยุทธ์: ผมต้องการทำให้ทุกคนทำตามหน้าที่ ภารกิจ พันธกิจที่ดี ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้ สี่ปีแรกผมก็เหนื่อยพอควรเหมือนกันน่ะนะ เพราะมันต้องปรับหลายๆ อย่าง มันเปลี่ยนไปเยอะ เราก็ติดตามสถานการณ์ คือ...ผมเป็นคนชอบคิดไง ผมก็คิดนู่นคิดนี่ทั้งวัน 
 
สุทธิชัย: คิดมากไปหรือเปล่า? 
 
พลเอกประยุทธ์: (คิด) ถ้าคิดน้อยนี่สิ น่ากลัว คิดมากมันระวัง 
 
สุทธิชัย: ลุงตู่ช่วยบอกซิว่า 8 ปีที่ผ่านมา ผลงานที่ภูมิใจที่บอกว่าเป็นชิ้นโบว์แดงของตัวเองมีอะไรบ้าง? 
 
พลเอกประยุทธ์ค่อยๆ ไล่เรียงถึงสิ่งที่รัฐบาลทำ เช่น โครงสร้างพื้นฐานอย่างถนน สะพาน มอเตอร์เวย์ รถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง การเยียวยาจากวิกฤตโควิด วางโครงสร้าดิจิทัล บริหารจัดการน้ำ การรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ 
 

“โลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปเยอะนะ” พลเอกประยุทธ์หล่นคำทำนองนี้อยู่หลายครั้งในการให้สัมภาษณ์ คำถามคือระยะเวลา 8 ปีกว่าที่พลเอกประยุทธ์อยู่ในอำนาจ โลกเปลี่ยนไปเยอะแค่ไหน 

หากนับจากวันรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ไอโฟน 6 เดินทางมาถึงไอโฟน 14 ติ๊กต็อก (TikTok) ยังไม่ลืมตาดูโลกกลายแอพโซเชียลยอดฮิตเบอร์หนึ่ง รถยนต์ไฟฟ้าจากของแปลกหน้ากลายเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากครอบครอง ฯลฯ 
 
แล้ว 8 ปีกว่า นับจากวันนั้น ประเทศไทยเดินหน้า อยู่ที่เดิม หรือถอยหลัง คสช.เข้ามาปฏิรูปได้ตามที่ตั้งใจ หรือปฏิรูปเป็นแค่คำกล่าวอ้างเพื่อทำการรัฐประหาร 
 
ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง เหลืออีกไม่ถึง 10 วัน ประชาชนจะถึงเวลาเดินเข้าคูหา ส่งเสียงผ่านปลายปากกา คงมีทั้งคนที่เลือกอยากให้คนเดิม ‘ทำต่อ’ และคนที่เลือกคนใหม่ให้ ‘ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม’ 
 
ถามว่าควรเลือกคนใหม่หรือคนเดิม การนั่งย้อนอ่าน 10 เหตุผลในการรัฐประหารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเมืองระบอบพลเอกประยุทธ์ แล้วค่อยๆ ทบทวนไปทีละข้อ ประเมินถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น