เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา พรรครวมไทยสร้างชาติ ถามคนไทย "คุณอยากให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม จริงหรือ” ผ่านการปล่อยคลิป “ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” โดยระบุว่า
“หลายๆฉากในคลิป เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว หลายๆฉากเป็นเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นจริง การตัดสินใจของประชาชนในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้จะชี้ขาดว่าประเทศไทยจะไปต่อ เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงเป็นปึกแผ่นอย่างที่เป็นมาในช่วง 8 ปี หรือจะถูกฉุดให้ถอยหลังตกลงไปในหลุมดำแห่งความขัดแย้ง การโค่นล้ม ฝ่ายที่คิดต่าง ขุดรากถอนโคน วัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยมอันดีงามของสังคม เป็นประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว”
เมื่อวิเคราะห์แล้ว คำกล่าวเบื้องต้นของคลิปเป็นเหมือนการท้าชนกับพรรคที่มีสโลแกน “เลือกก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” อย่างพรรคก้าวไกลแบบตรงๆ และยังเลือกที่จะนำเสนอ ‘ความกลัว’ ให้กับผู้คนผ่านรูปแบบของ ‘โฆษณาชวนเชื่อ’ (Propaganda) และการให้ทางเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งที่ดีก็ดีไปเลย เลวก็เลวไปเลยอย่างไร้เหตุผลและไม่อิงกับหลักความเป็นจริง หรือแม้แต่การท้าชนกับนโยบายของพรรคอื่นที่ต้องการนำมาอ้างอิงก็ไม่สมเหตุสมผล
“หลายๆฉากในคลิป เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว หลายๆฉากเป็นเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นจริง การตัดสินใจของประชาชนในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้จะชี้ขาดว่าประเทศไทยจะไปต่อ เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงเป็นปึกแผ่นอย่างที่เป็นมาในช่วง 8 ปี หรือจะถูกฉุดให้ถอยหลังตกลงไปในหลุมดำแห่งความขัดแย้ง การโค่นล้ม ฝ่ายที่คิดต่าง ขุดรากถอนโคน วัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยมอันดีงามของสังคม เป็นประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว”
เมื่อวิเคราะห์แล้ว คำกล่าวเบื้องต้นของคลิปเป็นเหมือนการท้าชนกับพรรคที่มีสโลแกน “เลือกก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” อย่างพรรคก้าวไกลแบบตรงๆ และยังเลือกที่จะนำเสนอ ‘ความกลัว’ ให้กับผู้คนผ่านรูปแบบของ ‘โฆษณาชวนเชื่อ’ (Propaganda) และการให้ทางเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งที่ดีก็ดีไปเลย เลวก็เลวไปเลยอย่างไร้เหตุผลและไม่อิงกับหลักความเป็นจริง หรือแม้แต่การท้าชนกับนโยบายของพรรคอื่นที่ต้องการนำมาอ้างอิงก็ไม่สมเหตุสมผล

ช่วยทำทานข้าราชการเกษียณ: ความกลัวของข้าราชการไทยกับเงินบำนาญ
เปิดคลิปมาด้วยภาพของข้าราชการวัยเกษียณที่ต้องมานั่งขอทานบนสะพานลอยเพราะพรรครวมไทยสร้างชาติต้องการเล่นเรื่องที่มีการเผยแพร่ต่อในโลกออนไลน์ว่า พรรคก้าวไกลกล่าวหาว่า ‘งบบำเหน็จบำนาญข้าราชการ คือ งบช้างป่วย’ ทั้งที่ตามข้อเท็จจริงแล้วพรรคก้าวไกลไม่เคยเสนอและไม่มีนโยบายตัดบำเหน็จบำนาญข้าราชการใดๆ ทั้งสิ้น โดยสิ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอคือให้ลดงบประจำที่ไม่ใช่เงินเดือนของข้าราชการ เช่น การไปดูงานเมืองนอก โครงการอบรมสัมมนา โครงการที่ซ้ำซ้อน รวมถึงลดงบกลางที่เป็นเงินสำรองที่เปิดโอกาสให้รัฐบาลเอาไปใช้ได้ตามใจชอบ โดยไม่เกิดประโยชน์ และเสนอว่า ควรโยกเงินเหล่านี้มาจัดสวัสดิการที่ดีให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น
ประเทศที่งานศิลปะเบ่งบาน อวดสายตาคนทั้งโลก: เลือกเอาความไม่งดงามของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาเป็นจุดบอด
ถูกนำเสนอผ่านเนื้อหาภาพฟุตเทจการคลุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้วยป้ายผ้าของผู้ประท้วง การพ่นสีที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งไม่ได้แสดงให้เห็น ‘ปัญหาที่แท้จริง’ และ ‘ประเด็น’ ที่ทำให้เกิดการต่อสู้ทางประชาธิปไตยและการแสดงอารยะขัดขืนไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัฐ แต่เลือกเอา “ความไม่สวยงาม” “ไม่ถูกต้อง” มาเป็นประเด็นโจมตีการต่อสู้นั้นโดยไม่ได้คิดจะพูดถึงปัญหาแท้จริงที่เกิดขึ้นและไม่เล็งเห็นว่าเหตุใดพื้นที่หรือวิธีการแสดงออกในการต่อสู้นั้นถึงถูกจำกัดถึงแค่วิธีการเหล่านี้ซึ่งก็เป็นเพราะรัฐเองเลือกที่จะไม่ฟังเสียงของประชาชนใช่หรือไม่
ประเทศที่ความเท่าเทียมเข้าถึงระดับครัวเรือน: พะโล้ของแม่และการเรียกร้องประชาธิปไตยของลูก
ซีนนี้เป็นซีนที่คนรุ่นใหม่ส่วนหนึ่งเลือกที่จะพูดถึงกันมากเพราะไร้ซึ่งเหตุผลและเป็นเหมือนการลดทอนความสำคัญของการเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่มคนรุ่นใหม่ผ่านการเปรียบเทียบการเลือกอาหารในมื้อๆ หนึ่งของบ้านที่มีวิธีล้านแปดที่จะสื่อสารถึงกัน การที่พรรครวมไทยสร้างชาติเลือกที่จะเล่าเหมือนคนรุ่นใหม่เลือกจะตะโกนเรียกร้องอย่างไร้เหตุผลและแสดงให้เห็นความก้าวร้าวต่อความใจดีและการให้ของแม่อาจสร้างความสะเทือนใจให้กับกลุ่มคนที่ใช้อารมณ์นำโดยไม่คำนึงถึงเหตุผลจริงๆ ว่าคนปกติที่ไหนใครจะไปทุบโต๊ะกับเรื่องพะโล้ขนาดนั้น และสิ่งที่คนรุ่นใหม่เรียกร้องมันยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก มันคืออนาคตและทางเดินของพวกเขา ไม่ใช่แค่เรื่องของพะโล้จานหนึ่ง
ประเทศที่ไม่มีใครต้องเดือดร้อนจากการเกณฑ์ทหาร
อีกซีนที่เล่าเรื่องของอาม่าฟังวิทยุว่าไม่มีทหารไปต่อสู้ป้องกันชายแดนจากการบุกรุกของศัตรูที่พรรครวมไทยสร้างชาติเลือกที่จะชนกับนโยบายของพรรคอื่นแบบไม่นำเสนอข้อเท็จจริง ว่านโยบายของพรรคอื่นที่มีการปรับเปลี่ยนระบบการเกณฑ์ทหารนั้นไม่ใช่การยกเลิกเกณฑ์ทหารทั้งหมด แต่เป็นการ ‘ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบไม่สมัครใจ’ โดยไม่มีพรรคไหนยกเลิกแบบถาวรอย่างที่ยกตัวอย่างเยาวชนกล่าวอ้างในคลิป

ประเทศที่มีสิทธิเสรีภาพ เราจะทำอะไรก็ได้ ?
เล่าผ่านแม่ที่ไปเจอว่าลูกสาวขายคลิปโป๊ของตัวเองทางออนไลน์ โดยลูกสาวตะโกนกล่าวอ้างว่า “มันร่างกายของหนู หนูมีสิทธิ แล้วงานประจำ ทำให้ตายก็ไม่รวย” เป็นอีกหนึ่งซีนที่ผลักให้คนรุ่นใหม่กลายเป็นฝั่งตรงข้ามกับครอบครัว และลดทอนความสำคัญของการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพที่ไม่ได้หมายความแค่สิทธิของร่างกายเท่านั้น หากอิงจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลที่เปิดตัวรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนประจำปี 2021 ที่ผ่านมาสิ่งที่คนรุ่นใหม่หรือผู้เรียกร้องด้านสิทธิมนุษยชนในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งไทยยังหมายความรวมถึงสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ การเรียกร้องให้หยุดคุกคามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยและนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และการเรียกร้องให้หยุดดำเนินคดีอาญาประชาชนในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่คุกคามสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ไม่ใช่แค่เรื่องสิทธิของร่างกายเท่านั้นและการได้รับสิทธิของร่างกายก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องถ่ายคลิปโป๊เสมอไป ไปจนถึงการถกเถียงถึงประเด็นค่าแรงขั้นต่ำกับการทำให้อาชีพ Sex worker ถูกกฎหมายเป็นสิ่งที่ชวนถกถียงมากกว่าการทำให้เกิดความกลัวในครอบครัว
และ ประเทศที่ไม่มี ….
ภาพอาม่ากราบไหว้หิ้งพระเปล่าๆ ที่ไม่มีพระหรือรูปเคารพกราบไหว้ ซีนนี้ไม่ได้มีคำโปรยหรือบรรยายอะไรเป็นพิเศษที่อาจแสดงถึงการไม่มีอยู่หรือหายไปของสิ่งที่อาม่าเคารพกราบไหว้ ทำไมการเปลี่ยนแปลงประเทศที่พรรครวมไทยสร้างชาติกล่าวถึงต้องหมายความว่าการเป็นประเทศที่ ‘มี’ หรือ ‘ไม่มี’ อย่างใดอย่างหนึ่ง เหมือนที่พยายามจะเล่าเรื่องต่างๆผ่าน ความดีและไม่ดีเสมอแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุก ‘ความกลัว’ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติเลือกใช้ในคลิปนี้ เป็นความกลัวที่คนกลุ่มหนึ่งหรือคนรุ่นก่อนบางส่วนเชื่ออย่างหมดใจว่าจะเกิดขึ้นจริง ซึ่งวิธีการที่เลือกเอาความกลัวเข้ามาเป็นตัวผลักดันให้คนเลือกหรือไม่เลือกอาจใช้ได้กับกลุ่มคนแค่บางกลุ่ม และแน่นอนว่าเป็นการสื่อสารที่พรรคเองก็ ‘รู้’ ว่าจะสื่อสารไปถึงใครและกลุ่มคนแบบใดได้อย่างหมดจดจริงๆ
อย่างไรก็ตาม การมอบ ‘ความกลัว’ ก็แตกต่างกับการชี้ให้เห็น ‘ความหวัง’ เพราะไม่มีใครอยากอยู่ด้วยความไม่รู้และหวาดกลัว ทุกคนแค่ต้องการผู้นำที่จะทำให้พวกเขามองเห็นความหวังของชีวิตและความหวังของประเทศที่พวกเขาอยู่
สุดท้าย ดูคลิปนี้แล้วก็ชวนให้นึกถึง บทหนึ่งใน ‘เต๋าเต๋อจิง’ คัมภีร์โบราณของจีน อายุราวสองพันกว่าปี ที่กล่าวถึงผู้ปกครองไว้ว่า
เมื่อผู้รู้ปกครอง ประชาชนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเขาอยู่
ผู้ปกครองที่ดีรองลงไป คือผู้ที่ได้รับความรักจากประชาชน
ที่รองลงไปอีก คือผู้ปกครองที่ประชาชนกลัว
ที่แย่ที่สุด คือผู้ปกครองที่ประชาชนเกลียดและสาปแช่ง...
คลิป ‘ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม’ สะท้อนให้เราเห็น ‘ผู้นำ’ แบบไหน เชื่อว่าแต่ละคนคงจะมีคำตอบอยู่ในใจ