อ่านกราฟชีวิต ‘พิธา’: #มีลุงไม่มีเรา ถึงชีวิตหลัง #มีกรณ์ไม่มีกู กระแสฟีเวอร์เริ่มแผ่ว?

กระแสโลกโซเชียลเปลี่ยนไวเหมือนใจคน 

ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ‘พิธาฟีเวอร์’ มาแรงมาก อ่านได้ใน: อ่านกราฟชีวิต ‘พิธา’: 1 ปี เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ) หลังก้าวไกลชนะเลือกตั้ง ฟอร์มพรรคร่วมฯ จับมือจัดตั้งรัฐบาล จนถึง ส.ว.ออกตัวไม่ขอโหวตหากมีนายกฯ ชื่อพิธา 

พอจะกำลังก้าวเท้าเข้าสัปดาห์ถัดมา (วันศุกร์ 19 พ.ค.) ดราม่า #มีกรณ์ไม่มีกู แรงมาก จนพรรคก้าวไกลต้องขอล้มดีลชวนพรรคชาติพัฒนากล้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล 

พิธาออกมาขอโทษประชาชน ยอมรับว่า “ทำทุกท่านผิดหวัง” พร้อมทิ้งประโยคทอง ‘พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค’

หลังแถลงการลงนาม MOU (วันจันทร์ 22 พ.ค.) คำถามเรื่อง Advance MOU จากศิธา จุดประเด็นเรื่องจุดยืนพรรคเพื่อไทย พ่วงมาถึงเก้าอี้ประธานสภา คนก็หันจากพิธาไปสนใจดราม่าใหม่ 

ใจคนเปลี่ยนเร็วแค่ไหน ลองสังเกตภาวะอารมณ์ในใจ ผันผวนแค่ไหน กระแสโลกโซเชียลฯ ไม่ต่างกัน

กระแส #ก้าวไกล มีแรงสนับสนุนใหญ่ในโลกโซเชียลฯ พลังนั้นมหาศาลจนพลิกโผผลเลือกตั้ง และส่งพิธาขึ้นอันดับ 1 โพลแคนดิเดตนายกฯ ที่คนต้องการในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง 

กระแสมวลชนในโซเชียลฯ ชวนให้นึกถึงคำจักรพรรดิถังไท่จงที่ว่า “ผู้ปกครองเหมือนกับเรือ ประชาชนเหมือนกับน้ำ น้ำทำให้เรือลอยได้ แต่น้ำก็ทำให้เรือจมได้เช่นกัน”

กระแสน้ำผันผวนตามกระแสอารมณ์ ใจคนว้าวุ่น โลกโซเชียลฯ วุ่นวาย ในฐานะนักการเมืองอาสามาทำงานให้ผู้คน เวลานี้และที่ผ่านมา เรือชื่อ ‘พิธา’ เผชิญกับคลื่นลมใด 

SPACEBAR x DATAOPS ใช้เทคโนโลยีฟังเสียงคลื่นลมว่า จุดเปลี่ยนที่ทำให้ ‘พิธาฟีเวอร์’ คืออะไร แล้วในช่วงนี้พิธายังฟีเวอร์อยู่หรือไม่ 

นี่คือเสียงที่เราได้ยิน... 

#มีลุงไม่มีเรา จุดเปลี่ยนพิธา-ก้าวไกลผงาด

ก่อนกลางเดือนเมษายน แทบจะไม่มีใครพูดถึง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ บนโลกโซเชียลฯ มากกว่าการพูดถึง 95% ในรอบหนึ่งปี เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนวันเลือกตั้ง 

เมื่อดูแพลตฟอร์มที่พูดถึง ‘พิธา’ ในรอบปีที่ผ่านมา พบว่า ทวิตเตอร์มากที่สุด (98.38%) ชนิดทิ้งขาดเฟซบุ๊กและอื่นๆ (1.62%) แบบไม่เห็นฝุ่น 

การพูดถึงพิธาเพิ่มขึ้นสูงในช่วงกลางเดือนเมษา โดยจุดเปลี่ยนสำคัญมาจากการปราศรัยใหญ่หน้าสามย่านมิตรทาวน์ (22 พ.ค.) วันนั้นพิธาและก้าวไกลประกาศจุดยืนชัดเจน “มีลุงไม่มีเรา”

ความชัดเจนเป็นอาวุธสำคัญที่ก้าวไกลมี และสิ่งนี้น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนให้คนจำนวนหนึ่งเทใจให้ก้าวไกล 

เมื่อดูข้อมูลผลโพล ‘นายกรัฐมนตรีที่ต้องการ’ ของสำนักต่างๆ ชื่อพิธาแซงขาดในช่วงสัปดาห์หลังปราศรัยใหญ่พอดี (49.17%) 

หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่ทุกคนรู้ ก้าวไกลชนะเลือกตั้ง พิธากลายเป็นแสงสว่างแห่งประชาธิปไตยที่ประชาชนที่เลือกเขาฝากความหวัง 

คลื่นลมในโซเชียลมีเดียพัดพิธาขึ้นสูงที่สุดในชีวิตรอบหนึ่งปี (หรืออาจจะตลอดชีวิตที่ผ่านมา) การจับขั้วของพรรคร่วมฯ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่เพิ่งเริ่มต้น การแบ่งสรรปันส่วนผลประโยชน์ยังไม่ลงรายละเอียด

พิธานำผู้สมัครในพรรคขอบคุณประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทุกอย่างไปได้สวย จนกระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมา...

กระแสพิธาเริ่มแผ่วหลัง #มีกรณ์ไม่มีกู และเกมต่อรองเก้าอี้เพื่อไทย 

‘ด้อมส้ม’ ส่วนหนึ่งออกมาแสดงความผิดหวังและไม่เห็นด้วย หลังมีข่าวก้าวไกลจะจับมือกับพรรคชาติพัฒนากล้า เพราะมองว่า กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่เคยมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่ม กปปส. ที่ออกมาเรียกร้องให้ทหารทำการรัฐประหาร 

สุดท้ายพิธาออกมาขอโทษ และยกเลิกดีล (19 พ.ค.) แล้วหลังจากนั้น เสียงเรียกชื่อ ‘พิธา’ ก็ค่อยๆ เบาลงในโลกโซเชียลฯ เมื่อเกมการเมืองและการต่อรองเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ 

กระแสเปลี่ยนจากพิธามาสู่เกมการต่อรองและวิวาทะรายวันระหว่างก้าวไกล-เพื่อไทย ผู้คนหันไปสนใจเรื่องร้อนเรื่องใหม่ 

เก้าอี้นายกฯ และเก้าอี้ประธานสภา ควรจะเป็นของใคร? 

ดีลร่วมจัดตั้งรัฐบาลสองพรรคใหญ่ จะไปรอดหรือไม่? 

อุ๊งอิ๊งบินไปหาทักษิณ ไปปรึกษา หารือ หรือเพื่อไทยกำลังคิดจะทำอะไร? 

กระแสโลกโซเชียลฯ ว่าวุ่นวายผันผวนแล้ว ใจนักการเมืองและเกมการเมืองคงวุ่นวายกว่า 

ซับซ้อนจริงหนอ ใจหนอใจคน 

ส่วนกระแสพิธาจะกลับมาได้ไหม ความชัดเจนที่เป็นอาวุธของพรรคก้าวไกลจะใช้ได้ในเกมการเมืองที่เต็มไปด้วยคนซ่อนดาบในรอยยิ้มได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป