อาจเป็นสิ่งที่อยู่ในความสงสัยของหลายคนมานานแล้วว่า ตกลงแล้วลำดับที่ 1, 2, 3 และอื่นๆ บนบัตรเลือกตั้ง มีผลต่อการได้มาซึ่งคะแนนเสียง ชัยชนะ และความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งหรือไม่? ในไทยอาจจะจมีการศึกษาเรื่องนี้กันน้อย ดังนั้น ก่อนอื่นเราจึงต้องพึ่งพาการวิจัยในต่างแดน โดยเฉพาะในสหรัฐที่ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง แม้ว่าระบบการปกครองจะต่างกับไทย แต่หลักการของการเลือกตั้งไม่ต่างกันนัก ซึ่งอาจจะช่วยบอกใบ้กับเราได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสมรภูมิเลือกตั้งของไทย
ในสหรัฐมีการศึกษาเรื่องลำดับพรรคการเมืองหรือผู้สมัครบนบัตรลือกตั้งที่จะส่งผลต่อการรับรู้ของผู้มีสิทธิออกเสียง หรือ Ballot position effects มานานหลายปีแล้ว และต่อไปนี้คือสิ่งที่นักวิจัยค้นพบ
ในสหรัฐมีการศึกษาเรื่องลำดับพรรคการเมืองหรือผู้สมัครบนบัตรลือกตั้งที่จะส่งผลต่อการรับรู้ของผู้มีสิทธิออกเสียง หรือ Ballot position effects มานานหลายปีแล้ว และต่อไปนี้คือสิ่งที่นักวิจัยค้นพบ
- ลำดับในบัตรเลือกตั้งมีผลต่อการแพ้ชนะ 12%
- ผู้สมัครที่ได้ลำดับแรกจะมีอัตราส่วนชนะมากกว่าที่คาด 4 - 5%
- ลำดับที่คนมองเห็นก่อนจะเพิ่มโอกาสที่ผู้สมัครจะได้คะแนนดีในการเลือกตั้ง
- 90% ของผู้สมัครที่อยู่ลำดับแรกจะได้คะแนนเสียงดีกว่าตอนที่ได้ลำดับล่างๆ ลงมา
- ผู้สมัครรายหนึ่งคะแนนโหวตเพิ่มขึ้น 10% เมื่อได้อยู่อันดับแรก เทียบกับการไปอยู่ลำดับท้าย
อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยที่ให้ผลตรงกันข้ามอยู่เหมือนกัน
- ความแตกต่างระหว่างการได้ตำแหน่งอันดับ 1 และตำแหน่งอันดับ 2 บนบัตรเลือกตั้งอาจค่อนข้างน้อย
- มีตัวอย่างที่ผู้สมัครที่อยู่อันดับแรกเสียคะแนน ส่วนผู้ที่อยู่ท้ายได้คะแนนเพิ่ม
- ลำดับบนบัตรเลือกตั้งมีผลต่อพรรคเล็กๆ มากกว่า
- ลำดับไม่มีผลต่อผู้สมัครจากพรรคใหญ่ๆ
ทำไม ผู้มีสิทธิออกเสียงถึงเลือกพรรคหรือผู้สมัครที่พวกเห็นก่อนใครบนบัตรเลือกตั้ง?
- MIT Election Lab ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า นักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่าให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีข้อมูลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยเกี่ยวกับผู้สมัคร มีแนวโน้มที่จะเลือกคนที่พวกเขาเห็นก่อนในบัตรเลือกตั้ง เพราะรู้สึกเหนื่อยที่จะไล่ดูและพิจารณาผู้สมัครให้หมดทุกคนบนบัตรเลือกตั้ง (ที่ยาวเป็นหางว่าว)
- งานวิจัยโดย Michael Jankowski & Torren Frank (2022) แย้งเรื่องนี้ โดยยกตัวอย่างผู้ออกเสียงทางไปรษณีย์ในสหรัฐที่ดูเหมือนว่าลำดับของผู้สมัครจะไม่มีผลต่อคนเหล่านี้ ผู้วิจัยเสนอว่าอาจเป็นเพราะผู้ลงคะแนนทางไปรษณีย์อาจสนใจทางการเมืองมากกว่า และอาจเป็นเพราะผู้มีสิทธิเลือกตั้งทางไปรษณีย์มีเวลามากกว่าในการประเมินข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้สมัครรับเลือกตั้ง