ผ่านมา 16 ปี เหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ตำนานเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ระหว่าง ตท.10 คือ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ สมัยเป็นนายกฯ กับ ‘บิ๊กป๊อก’ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา สมัยเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ชี้ชะตาขั้วอำนาจ ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ เลยก็ว่าได้ เพราะหากวันนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ร่วมทำรัฐประหาร 2549 ชีวิตอาจโดนเด้งเข้ากรุ ทบ.ไปแล้ว เป็นอันปิดตำนาน 3ป.บูรพาพยัคฆ์ ซึ่งอาจทำให้ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตท.12 น้องที่เดินตามมา ไม่ได้ขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.จนกลายเป็นแผงอำนาจ 3ป. เช่นทุกวันนี้ด้วย
สำหรับเก้าอี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ถือเป็นคนคุม ‘ขุมกำลังปฏิวัติ’ ที่มี 3 กองพลปฏิวัติ อยู่ในมือในยุคนั้น ทั้ง พล.1 รอ. , พล.ร.2 รอ. และ พล.ร.9 หากย้อนเส้นทางการเติบโตของ พล.อ.อนุพงษ์ ในยุครัฐบาลทักษิณ ก็จะพบว่าได้ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ.ก่อนโยกเข้ากรุงเทพฯ เป็น ผบ.พล.1 รอ.ปาดหน้า ‘บิ๊กโอ๋’ พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ที่จ่อขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ.อยู่ก่อนแล้ว จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ก็ขึ้นเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 จนเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก่อนเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 1 ปี เฉือนเพื่อน ตท.10 ‘บิ๊กต้น’ พล.อ.จิรสิทธิ์ เกษะโกมล ที่เป็นแคนดิเดตด้วย
หลังรัฐประหาร 2549 พล.อ.นุพงษ์ ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. และเป็น ผบ.ทบ.ต่อจาก ‘บิ๊กบัง’ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ซึ่งทั้ง ‘บิ๊กป๊อก-บิ๊กบัง’ ต่างเป็นทหารที่ ‘ทักษิณ’ เลือกมาเองกับมือทั้งสิ้น
ช่วงที่ พล.อ.อนุพงษ์ นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ.ตรงกับยุครัฐบาล ‘สมัคร สุนทรเวช’ และ ‘สมชาย วงศ์สวัสดิ์’ ก่อนที่ ‘ขั้วทักษิณ’ จะหมดอำนาจลงไป ผ่านการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ทำให้ ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ ขึ้นเป็นนายกฯ โดยมี ‘สุเทพ เทือกสุบรรณ’ เป็นผู้จัดการรัฐบาล ที่ถือช่อดอกไม้ไปเชิญ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาเป็น รมว.กลาโหม ด้วยตัวเอง
ในบรรดาพี่น้อง 3ป.นั้น พล.อ.อนุพงษ์ ถือว่าอ่านใจได้ยากที่สุด เป็นคน ‘น้ำนิ่งไหลลึก’ จึงประคองตัวเองมาได้ในยุคที่ขั้วทักษิณ อยู่ในช่วง ‘ผันผวนทางการเมือง’ ทั้งหลังเหตุการณ์รัฐประหาร 2549 รวมทั้งในยุคที่พรรคพลังประชาชน-เพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง ทำให้ขั้วทักษิณกลับมามีอำนาจ ผ่านร่างทรง 3 คน ได้แก่ สมัคร สุนทรเวช, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นห้วงเวลาที่ พล.อ.อนุพงษ์ ต้องเผชิญหน้ากับคนเสื้อแดง ผ่านเหตุการณ์ช่วงปี 2552-2553 ในฐานะ ผบ.ทบ.
ก่อนจะส่งไม้ต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ รุ่นน้องสายทหารเสือฯ ด้วยกัน ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่มีกระแสข่าวปลด ผบ.ทบ.อยู่เนืองๆ แต่สุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ก็เล่นละครให้อีกฝั่ง ‘ตายใจ’ ส่วนฝั่งนายกฯยิ่งลักษณ์ ก็เล่นบท ‘ซื้อใจ’ กองทัพขออะไร ก็ให้หมด แต่สุดท้ายก็เกิดรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจนายกฯ ยิ่งลักษณ์ หากมองให้ดี ถ้าไม่มีรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 หมากเกมทางการเมือง อาจไปอีกทางหนึ่งก็ได้
สำหรับเก้าอี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ถือเป็นคนคุม ‘ขุมกำลังปฏิวัติ’ ที่มี 3 กองพลปฏิวัติ อยู่ในมือในยุคนั้น ทั้ง พล.1 รอ. , พล.ร.2 รอ. และ พล.ร.9 หากย้อนเส้นทางการเติบโตของ พล.อ.อนุพงษ์ ในยุครัฐบาลทักษิณ ก็จะพบว่าได้ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ.ก่อนโยกเข้ากรุงเทพฯ เป็น ผบ.พล.1 รอ.ปาดหน้า ‘บิ๊กโอ๋’ พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ที่จ่อขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ.อยู่ก่อนแล้ว จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ก็ขึ้นเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 จนเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก่อนเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 1 ปี เฉือนเพื่อน ตท.10 ‘บิ๊กต้น’ พล.อ.จิรสิทธิ์ เกษะโกมล ที่เป็นแคนดิเดตด้วย
หลังรัฐประหาร 2549 พล.อ.นุพงษ์ ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. และเป็น ผบ.ทบ.ต่อจาก ‘บิ๊กบัง’ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ซึ่งทั้ง ‘บิ๊กป๊อก-บิ๊กบัง’ ต่างเป็นทหารที่ ‘ทักษิณ’ เลือกมาเองกับมือทั้งสิ้น
ช่วงที่ พล.อ.อนุพงษ์ นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ.ตรงกับยุครัฐบาล ‘สมัคร สุนทรเวช’ และ ‘สมชาย วงศ์สวัสดิ์’ ก่อนที่ ‘ขั้วทักษิณ’ จะหมดอำนาจลงไป ผ่านการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ทำให้ ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ ขึ้นเป็นนายกฯ โดยมี ‘สุเทพ เทือกสุบรรณ’ เป็นผู้จัดการรัฐบาล ที่ถือช่อดอกไม้ไปเชิญ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาเป็น รมว.กลาโหม ด้วยตัวเอง
ในบรรดาพี่น้อง 3ป.นั้น พล.อ.อนุพงษ์ ถือว่าอ่านใจได้ยากที่สุด เป็นคน ‘น้ำนิ่งไหลลึก’ จึงประคองตัวเองมาได้ในยุคที่ขั้วทักษิณ อยู่ในช่วง ‘ผันผวนทางการเมือง’ ทั้งหลังเหตุการณ์รัฐประหาร 2549 รวมทั้งในยุคที่พรรคพลังประชาชน-เพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง ทำให้ขั้วทักษิณกลับมามีอำนาจ ผ่านร่างทรง 3 คน ได้แก่ สมัคร สุนทรเวช, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นห้วงเวลาที่ พล.อ.อนุพงษ์ ต้องเผชิญหน้ากับคนเสื้อแดง ผ่านเหตุการณ์ช่วงปี 2552-2553 ในฐานะ ผบ.ทบ.
ก่อนจะส่งไม้ต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ รุ่นน้องสายทหารเสือฯ ด้วยกัน ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่มีกระแสข่าวปลด ผบ.ทบ.อยู่เนืองๆ แต่สุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ก็เล่นละครให้อีกฝั่ง ‘ตายใจ’ ส่วนฝั่งนายกฯยิ่งลักษณ์ ก็เล่นบท ‘ซื้อใจ’ กองทัพขออะไร ก็ให้หมด แต่สุดท้ายก็เกิดรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจนายกฯ ยิ่งลักษณ์ หากมองให้ดี ถ้าไม่มีรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 หมากเกมทางการเมือง อาจไปอีกทางหนึ่งก็ได้