ปรากฏการณ์ ‘ก้าวไกลฟีเวอร์’ ทำหมากการเมืองเปลี่ยนทั้งหมด ในความ ‘นิ่งเงียบ’ กลับเต็มไปด้วย ‘เสียงดัง’ ที่กึกก้อง ใน ‘เกมอำนาจ’ ครั้งนี้ โดยเฉพาะ ‘พรรคเพื่อไทย’ เรียกว่า ‘แพ้’ เลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 20 กว่าปี ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย ทำให้ ‘เงื่อนไข’ ในการตั้งรัฐบาลเปลี่ยนไป กลายเป็น ‘พรรคก้าวไกล’ ได้รับสิทธินั้นไป
แต่เกมนี้ ‘เพื่อไทย’ ไม่ใช่ว่าจะ ‘สิ้นไร้ไม้ตอก’ แต่กลับ ‘ได้เปรียบ-เนื้อหอม’ ที่พลิกแพลงได้ และสามารถ ‘พลิกเกม’ ได้ทุกเมื่อ
ทั้งนี้โจทย์ใหญ่อยู่ที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ที่เป็น ‘ผู้มากบารมี’ ของพรรคเพื่อไทย จะตัดสินใจเกมนี้อย่างไร กับเดิมพันของ ‘ทักษิณ’ ที่ประกาศกร้าวจะ ‘กลับไทย’ ภายในเดือน ก.ค.นี้ ที่เป็นการส่งสัญญาณไปยัง ‘ผู้มีอำนาจ’ ดังนั้นจึงมีการมองว่า ‘เพื่อไทย’ จะพลิกเกมมาจับมือ ‘ตั้งรัฐบาล’ กับขั้วอำนาจ ‘ฝ่ายขวา-อนุรักษ์นิยม’ หรือซีกรัฐบาลเดิมหรือไม่ แต่โจทย์ใหญ่คือการมี ‘2ลุง’ นั่นคือ ‘ป.ประวิตร-ป.ประยุทธ์’ นั่นเอง หลัง ‘เพื่อไทย’ ประกาศชัด ไม่เอาลุงคนไหนทั้งสิ้น เพราะหากมาจับมือกับฝั่ง ‘ระบอบลุง’ เดิม ก็จะเสียพลังศรัทธาทางการเมืองไปทัน และเสี่ยง ‘สูญพันธุ์’ ได้ในอนาคต
หาก ‘เพื่อไทย’ ไปจับมือกับ ‘ก้าวไกล’ ที่เป็น ‘ไม้เบื่อไม้เมา’ กันมานาน การฟาดฟันกันระหว่าง ‘นางแบก-ด้อมส้ม’ ยังคงระอุ รวมทั้งสภาวะ ‘ขบเหลี่ยม’ กันเองของ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ที่เดินร่วมกันแต่ ‘เหนียบเท้า’ กันตลอดทาง ก็ยากจะจับมือกันง่ายๆ จึงมีการพูดถึงโมเดลที่ ‘เพื่อไทย’ ชิงจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมา ในกรณีที่ ‘ก้าวไกล’ จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ด้วย
ทั้งนี้มีการมองว่า ‘เพื่อไทย’ จะปล่อย ‘ฟรีโพวต’ ในการเลือกนายกฯ หรือไม่ หรือสุดท้าย ‘เพื่อไทย’ จะจับมือกับ ‘ขั้วรัฐบาลเดิม’ ตั้งรัฐบาลขึ้นมา บนเงื่อนไขที่ไม่มี ‘ป.ประวิตร-ประยุทธ์’ โดยที่ทั้ง ‘2ลุง’ ต้องไปเล่นการเมือง ‘หลังฉาก’ แทนแล้ว เช่น พล.อ.ประวิตร ลาออกจาก ส.ส. เดินเกมรับบท ‘ผู้จัดการรัฐบาล’ ให้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่มีสถานะ ส.ส. ก็อยู่ช่วย ‘รวมไทยสร้างชาติ’ หลังฉาก ก่อนจะไปรับ ‘ตำแหน่งสำคัญ’ อื่นใดในอนาคตหรือไม่
ต้องจับตาว่างานนี้ ‘เพื่อไทย’ จะส่ง ‘อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา’ ชิงนั่ง นายกฯ เองหรือไม่ หรือจะยอม ‘กลืนเลือด’ ให้ ‘บิ๊กป้อม’ เป็น นายกฯ เพื่อฝ่าด่าน 250 ส.ว. ไปได้ และฝ่าด่าน ‘เครือข่ายผู้มีอำนาจ’ ที่มี ‘กำลังภายใน’ ไปได้ด้วย ที่ต้องแลกกกับ ‘พลังศรัทธา’ จากมวลชน แม้ว่ากันว่ายุคนี้จะไม่มี ‘รัฐประหาร’ อีกแล้ว แต่ก็ต้องจับตาว่าจะมาใน ‘รูปแบบใด’ ที่เรียกกันว่า ‘รัฐประหารเงียบ’ เฉกเช่นที่อดีตนายกฯ ‘สมัคร-สมชาย’ เคยโดนมาแล้ว
ดังนั้นเกมทั้งหมดจึงอยู่ที่ ‘ทักษิณ’ จะกำหนด ‘ชะตากรรมตัวเอง’ อย่างไร เพราะจะลากมาถึง ‘ชะตาพรรคเพื่อไทย’ ด้วย ที่สำคัญ ‘ทักษิณ’ จะอ่านเกมฝั่ง ‘อีลีทไทย’ ออกหรือไม่ เพราะถือเป็นจุดอ่อนของ ‘ทักษิณ’ ที่เจ้าตัวก็ทราบดี
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร!!
แต่เกมนี้ ‘เพื่อไทย’ ไม่ใช่ว่าจะ ‘สิ้นไร้ไม้ตอก’ แต่กลับ ‘ได้เปรียบ-เนื้อหอม’ ที่พลิกแพลงได้ และสามารถ ‘พลิกเกม’ ได้ทุกเมื่อ
ทั้งนี้โจทย์ใหญ่อยู่ที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ที่เป็น ‘ผู้มากบารมี’ ของพรรคเพื่อไทย จะตัดสินใจเกมนี้อย่างไร กับเดิมพันของ ‘ทักษิณ’ ที่ประกาศกร้าวจะ ‘กลับไทย’ ภายในเดือน ก.ค.นี้ ที่เป็นการส่งสัญญาณไปยัง ‘ผู้มีอำนาจ’ ดังนั้นจึงมีการมองว่า ‘เพื่อไทย’ จะพลิกเกมมาจับมือ ‘ตั้งรัฐบาล’ กับขั้วอำนาจ ‘ฝ่ายขวา-อนุรักษ์นิยม’ หรือซีกรัฐบาลเดิมหรือไม่ แต่โจทย์ใหญ่คือการมี ‘2ลุง’ นั่นคือ ‘ป.ประวิตร-ป.ประยุทธ์’ นั่นเอง หลัง ‘เพื่อไทย’ ประกาศชัด ไม่เอาลุงคนไหนทั้งสิ้น เพราะหากมาจับมือกับฝั่ง ‘ระบอบลุง’ เดิม ก็จะเสียพลังศรัทธาทางการเมืองไปทัน และเสี่ยง ‘สูญพันธุ์’ ได้ในอนาคต
หาก ‘เพื่อไทย’ ไปจับมือกับ ‘ก้าวไกล’ ที่เป็น ‘ไม้เบื่อไม้เมา’ กันมานาน การฟาดฟันกันระหว่าง ‘นางแบก-ด้อมส้ม’ ยังคงระอุ รวมทั้งสภาวะ ‘ขบเหลี่ยม’ กันเองของ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ที่เดินร่วมกันแต่ ‘เหนียบเท้า’ กันตลอดทาง ก็ยากจะจับมือกันง่ายๆ จึงมีการพูดถึงโมเดลที่ ‘เพื่อไทย’ ชิงจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมา ในกรณีที่ ‘ก้าวไกล’ จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ด้วย
ทั้งนี้มีการมองว่า ‘เพื่อไทย’ จะปล่อย ‘ฟรีโพวต’ ในการเลือกนายกฯ หรือไม่ หรือสุดท้าย ‘เพื่อไทย’ จะจับมือกับ ‘ขั้วรัฐบาลเดิม’ ตั้งรัฐบาลขึ้นมา บนเงื่อนไขที่ไม่มี ‘ป.ประวิตร-ประยุทธ์’ โดยที่ทั้ง ‘2ลุง’ ต้องไปเล่นการเมือง ‘หลังฉาก’ แทนแล้ว เช่น พล.อ.ประวิตร ลาออกจาก ส.ส. เดินเกมรับบท ‘ผู้จัดการรัฐบาล’ ให้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่มีสถานะ ส.ส. ก็อยู่ช่วย ‘รวมไทยสร้างชาติ’ หลังฉาก ก่อนจะไปรับ ‘ตำแหน่งสำคัญ’ อื่นใดในอนาคตหรือไม่
ต้องจับตาว่างานนี้ ‘เพื่อไทย’ จะส่ง ‘อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา’ ชิงนั่ง นายกฯ เองหรือไม่ หรือจะยอม ‘กลืนเลือด’ ให้ ‘บิ๊กป้อม’ เป็น นายกฯ เพื่อฝ่าด่าน 250 ส.ว. ไปได้ และฝ่าด่าน ‘เครือข่ายผู้มีอำนาจ’ ที่มี ‘กำลังภายใน’ ไปได้ด้วย ที่ต้องแลกกกับ ‘พลังศรัทธา’ จากมวลชน แม้ว่ากันว่ายุคนี้จะไม่มี ‘รัฐประหาร’ อีกแล้ว แต่ก็ต้องจับตาว่าจะมาใน ‘รูปแบบใด’ ที่เรียกกันว่า ‘รัฐประหารเงียบ’ เฉกเช่นที่อดีตนายกฯ ‘สมัคร-สมชาย’ เคยโดนมาแล้ว
ดังนั้นเกมทั้งหมดจึงอยู่ที่ ‘ทักษิณ’ จะกำหนด ‘ชะตากรรมตัวเอง’ อย่างไร เพราะจะลากมาถึง ‘ชะตาพรรคเพื่อไทย’ ด้วย ที่สำคัญ ‘ทักษิณ’ จะอ่านเกมฝั่ง ‘อีลีทไทย’ ออกหรือไม่ เพราะถือเป็นจุดอ่อนของ ‘ทักษิณ’ ที่เจ้าตัวก็ทราบดี
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร!!
